เปิดตลาดจีนมาเกือบ 2 ปีด้วยเวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริดครั้งนี้ทาง GWM จึงเผยเวอร์ชันสันดาปล้วนออกมาตอบโจทย์คนไม่ชอบถ่านสำหรับ HAVAL Raptor

หน้าตาไม่ต่างจากเวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริดแต่มีการปรับรายละเอียดให้ต่างและโดดเด่นในร่างเอสยูวีขนาดย่อมทรงกล่อง
ด้านหน้าปรับใหม่ด้วยกระจังหน้าทรงเหลี่ยมแนวตั้ง 8 ประกบด้วยโครเมียมผสมกับสีเทา ติดตรา HAVAL ไฟหน้า LED โคมใหญ่ทรงเหลี่ยมจากเดิมเป็นทรงกลมพร้อมไฟ LED DRL เส้นแนวนอน
ด้านข้างมีราวหลังคาแบนเรียบเนียนเข้ากับหลังคารถพร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดึงก้าน ด้านท้ายเท่ด้วยไฟท้าย LED แนวตั้งพร้อมคิ้วป้ายทะเบียนแนวนอนในชุดกันชนหลัง ติดตราโลโก้ขนาดใหญ่ในชุดฝาครอบล้ออะไหล่ หรือกล่องอเนกประสงค์ด้านท้าย และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ ขนาด 18-19 นิ้ว

ภายในเหมือนกับเวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริดทุกประการ แบบ 5 ที่นั่ง พร้อมเบาะนั่งตอนที่สองที่พับได้แบบ 40/60 โดยมีพื้นที่ด้านท้าย 586-1,404 ลิตร คอนโซลหน้าที่มีสองจอลอยตัวทั้งมาตรวัดความเร็วพร้อมจอ LCD 12.3 นิ้ว และจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการ GWM’s Coffee OS 3.0 คอนโซลกลางออกแบบเรียบง่ายและใช้งานง่ายกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านพร้อมเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold ที่วางชาร์จมือถือไร้สายและลำโพง 10 จุด GWM’s Coffee AI Sound system
งานนี้เพิ่มทางเลือกด้วยเบนซินเทอร์โบล้วนขนาด 2.0 ลิตร TGDI รหัส GW4N20A กำลังสูงสุด 235 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DCT 9 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมความปลอดภัยครอบคันทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS
HAVAL Raptor คันจริงขุมพลังสันดาปล้วนไร้ถ่านเพื่อขายจีนเปิดขาย 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่น PRO และ ULTRA เริ่ม 156,900-166,900 yuan หรือราว 719,000-764,000 บาท