ในเมืองไทยพึ่งจะแนะนำ Ford Everest Sport Special Edition ไปได้ไม่นานออสเตรเลียขอบ้างเปิดตัวรุ่นพิเศษ Ford Everest Black Edition

โดยเป็นการนำรุ่น Trend Bi-Turbo 4×4 มาผสมผสานจนลงตัวด้วยโทนสีดำทั้งคัน เริ่มที่โลโก้ตัวอักษร Everest สีดำเงาบนขอบฝากระโปรงรถ กระจังหน้าทั้งชิ้นดีไซน์รังผึ้งสีดำติดตราโลโก้ Ford คิ้วใต้กันชนหน้าก็สีดำ
ด้านข้างตกแต่งราวหลังคารถสีดำแบบมีช่องขนาดใหญ่สำหรับติดตั้งแร็คหลังคา เสาอากาศแบบเสาสั้น กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ไม่มีไฟส่องสว่างใต้กระจกมองข้างกับที่เปิดประตูจะตกแต่งด้วยสีดำเงา ช่องระบายอากาศตรงบังโคลนสองข้างเข้มด้วยสีดำผสมโครเมียม บันไดข้างสีดำ และล้ออัลลอย 6 ก้านคู่สีดำพร้อมยาง AT ขนาด 255/65R18
พร้อมไฟหน้าแบบ LED รีเฟลกเตอร์ ไฟวิ่งกลางวันแบบแอลอีดี รูปตัว C ไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมกรอบโครเมียม ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ตัว U คว่ำสีรมดำแบบ Signature ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าพร้อมชุดเซนเซอร์เปิดฝาท้ายแบบสามารถใช้เท้ายื่นไปที่ใต้กันชนท้าย และระบบป้องกันการหนีบในชุดกันชนหลังแบบสีเดียวกับตัวรถพร้อมคิ้วสีดำใต้กันชนหลัง

ภายในมาพร้อมความสะดวกสบายเริ่มที่หน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว แนวตั้ง มาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC® 4A พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียงเพื่อการสื่อสาร ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงและเข้าถึงข้อมูลต่างๆ รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมลำโพง 8 จุด
แผงคอนโซลหน้าสีดำพร้อมด้วยมาตรวัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน คอนโซลกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง และที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะคู่หน้า ระบบการชาร์จแบบไร้สาย
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า และเบาะนั่งผู้โดยสารคู่หน้าตอนหน้าปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 10 ทิศทางและคนนั่ง 8 ทิศทาง มีอุ่นเบาะและเบาะเย็นคู่หน้าและฟังก์ชันหน่วยความจำ
ขุมพลัง 2.0 ลิตร ดีเซลเทอร์โบคู่ Bi-Turbo 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร เติมน้ำยาบำบัดไอเสียดีเซล (DEF) หรือสาร AdBlue® ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter 10R80 พร้อมดิฟล็อกหลังแบบไฟฟ้ากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time 4A
ผสานกับโหมดการขับขี่แบบ Terrain Management System เลือกได้ถึง 6 โหมดทั้งโหมด Normal, โหมดประหยัด Eco, โหมดลากจูงและบรรทุก Tow/Haul, โหมดทางลื่น Slippery, โหมดทราย Sand, โหมดโคลน Mud/Ruts แล้วยังเพิ่มโหมดหิน Rock Crawl รวม 7 โหมด ลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร มีความสามารถในการลากจูงถึง 3,500 กิโลกรัม
พร้อมความปลอดภัยครบครันด้วยล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติแบบ Stop & Go ช่วยเบรกอัตโนมัติ Autonomous emergency braking (AEB) เตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning with Brake Support อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition ตรวจจับขณะออกจากช่องจอด Rear Cross-traffic alert และ ตรวจจับขณะออกจากช่องจอด Cross-Traffic Alert and Braking เป็นต้น
Ford Everest Black Edition เปิดราคาไม่รวมค่าจดทะเบียนและภาษีถนน On-Road ของออสเตรเลีย $69,000 หรือราว 1,455,000 บาท ส่งมอบคันแรกในเดือนกรกฎาคม จำนวนจำกัดเพียง 750 คันเท่านั้น