DEEPAL เสริมทางเลือกสำหรับลูกค้าที่สนใจ DEEPAL S05 เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ในหมวดอีวีล้วนกับ DEEPAL S05 MAX Long Range ในฐานะรุ่นท็อปสุด
ด้วยดีไซน์ไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆของ S05 นำพื้นฐานรุ่น BEV MAX มาปรับออปชันเพิ่มกำลังเพิ่มแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเริ่มที่ปรับขนาดล้อและยางจากเดิมขนาด 18 นิ้ว มาเป็นขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 245/45 R20 ไฟหน้าอัจฉริยะ LED รูปทรงเรียวทั้งสองฝั่ง ส่องสว่างชัดไกลด้วยความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซลเพื่อเปลี่ยนเป็นมาฉายจอโปรเจกเตอร์ขนาด 120 นิ้วได้ ชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตทูโทนติดตั้งไฟ LED Daytime รูปทรงธนู มีคิ้วชายล่างในชุดกันชนหน้า
มือเปิดประตูแบบซ่อนเรียบเนียนกับตัวรถกรอบหน้าสีดำ กระจกแบบไร้ขอบ ไฟท้าย LED ดีไซน์เพรียวแนวยาวแบบ Star Flame พร้อมสปอยเลอร์ในตัวและไฟตัดหมอกหลัง ฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า คันนี้สร้างจากแพลตฟอร์มใหม่พร้อมตัวถังเหล็กกล้า-อลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงสูง
ภายในมีโทนสีดำ Black และสีส้ม คอนโซลหน้าออกมีจอสัมผัสตรงกลางขนาดใหญ่ 15.4 นิ้ว ความชัดระดับ 2.5K รองรับ Apple CarPlay ไร้สาย พร้อมสั่งงานด้วยท่าทาง (Gesture Recognition) ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ออนไลน์ (Over The Air, OTA) มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Deepal OS 3.0
ลำโพง 14 จุด ที่ให้เสียงแบบ Sky Surround Sound มีจอแสดงข้อมูลบนแผงคอนโซลหน้า HUD ขนาด 14 นิ้ว พร้อมระบบนำทางแบบ AR ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 64 สี รวมถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันออกแบบใหม่เป็น 3 ก้าน ทรงท้ายตัดใต้จอสัมผัส มีที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายคู่กำลัง 50W และที่วางแก้วน้ำ
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระ 2 โซน (Dual-zone Auto A/C) ระบบฟอกอากาศในรถยนต์แบบปล่อยประจุ (Ion Generator Air Purifier) และระบบบอกระดับ PM2.5 ในห้องโดยสาร (PM2.5 Monitor) คอนโซลกลางมี 2 ชั้นและมาพร้อมกับกล่องเก็บของที่สามารถเป็นตู้เย็นเก็บอุณหภูมิขนาด 13 ลิตร ซันรูฟแบบพาโนรามาขนาด 1.9 ตารางเมตร ช่องเก็บของทั้งหมด 35 ช่อง
หรูหราด้วยเบาะนั่งสบาย 5 ที่นั่งเบาะนั่งหุ้มหนังคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทางด้านคนขับพร้อมปุ่มดันหลังปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมระบบความจำตำแหน่งเบาะเลื่อนเข้าออกอัตโนมัติ และคนนั่งปรับ 4 ทิศทาง มีระบบเป่าลมที่เบาะนั่งปละพนักพิงศีรษะคู่หน้า สามารถพับเบาะหลังพับได้แบบ 60:40 มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 492 ลิตร ในกรณีไม่พับเบาะ แต่ถ้าพับเบาะมีพื้นที่ 1,250 ลิตร
ขุมพลังอัปเกรดใหม่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังมากขึ้นเป็น 272 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต LFP จาก CATL ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเป็น 68.82 kWh วิ่งไกลขึ้นเป็น 560 กิโลเมตร (NEDC) ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.48 วินาที ให้ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จ DC 3C รองรับการชาร์จสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 200 kW จากเดิม 151.5 kW 30-80% ภายใน 15 นาที และชาร์จ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 7 kW 0%-100% ในเวลา 8 ชั่วโมง
มาพร้อมระบบ Braking Energy Regeneration System รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อทั้งด้านหน้าแบบอิสระ McPherson และด้านหลังแบบอิสระ Multi-link Independent ปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพถนนในไทย ห้องโดยสารเงียบสงบที่สุดในคลาสที่ 62 เดซิเบล ที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พร้อมความปลอดภัยด้วยระบบ ADAS กล้องรอบคัน 360 องศา ติดตั้งกล้องความละเอียดสูง 5 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว และเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว เป็นมาตรฐาน โดยมีสีภายนอก 4 สี สีขาว Moonlight White สีดำ Deep Space Black สีเทา Ganymede Grey สีเงิน Mercury Silver ที่มาพร้อมภายในสีส้มและสีดำ โดยรุ่นพิเศษ Black Edition สีภายนอกดำ Deep Space Black ที่มากับภายในสีดำ เปิดราคาเพียง 999,000 บาท