CHERY นำรถฝาแฝดอย่าง JAECOO 6 EV และ JAECOO 6T เปลี่ยนมาใช้ตรา CHERY ในชื่อ CHERY FULWIN X3 และ X3 Plus สำหรับตลาดเมืองจีน

CHERY FULWIN X3 ออกแบบกระจังหน้าออกแบบให้ขยายกว้างขึ้นเสริมอารมณ์แบบออฟโรดที่สมบุกสมบันเริ่มที่กระจังหน้าทรงซี่แนวตั้งสีดำแปะตรา CHERY รับกับกันชนหน้าสีดำเข้ม
ส่วน CHERY FULWIN X3 PLUS หน้าตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมตั้งแต่บังโคลนหน้าซ้าย-ขวาดีไซน์เหลี่ยมหนาและบึกบึนกว่า พร้อมช่องระบายอากาศแนวตั้ง ออกแบบกระจังหน้าทรงทึบใหม่ โลโก้ CHERY ออกแบบเหนือฝากระโปรง กันชนหน้าใหม่กลมกลืนกับชุดบังโคลนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ช่องระบายอากาศแนวตั้งข้างๆชุดไฟหน้า บังโคลนหลังดีไซน์หนาขึ้นกลมกลืนกับบังโคลนหน้า กันชนหลังใหม่ พร้อมกล่องขนาดเล็กลงเก็บสัมภาระในตำแหน่งเดียวกับที่ห้อยยางอะไหล่สไตล์รถลุยยุค 90
ชุดไฟหน้า LED แบบ Matrix Adaptive ขนาดเล็ก มีไฟแนวตั้งแบบ DRL LED สองข้างรับกับกันชนหน้าสีดำเข้ม ด้านข้างมีความคล้ายกับ Land Rover Defender นอกจากบังโคลนใหม่แล้วยังมีที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวรถ หลังคารถสีดำพร้อมราวหลังคาและดีไซน์เสา A-D เน้นความเหลี่ยมและหนักแน่นสร้างความโดดเด่นและดุดันให้กับตัวรถ
ไฟท้าย LED แนวตั้งพร้อมฝาท้ายเปิดบานใหญ่แบบเปิดด้านข้างและปิดด้วยระบบดูดไฟฟ้า และล้ออัลลอยขนาด 18 และ19 นิ้ว
ภายในคล้ายกันตั้งแต่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน ออกแบบหนังสัมผัสใหม่รูปตัวยูที่แผงคอนโซลหน้า นอกนั้นเดิมๆทั้งคอนโซลหน้าทรงถึกสี่เหลี่ยมพร้อมออปชันเด่นทั้ง
เบาะนั่งฟังก์ชันเพิ่มเติมมากมายระดับเฟิร์สคลาสที่ช่วยเพิ่มความสะดวก แผงประตูยังมีการออกแบบที่กระชับมั่นคง ด้วยมือจับประตูไฟฟ้าแบบซ่อนด้วยสีทูโทนที่เรียบหรู เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่ 450 ลิตรกรณีไม่พับเบาะและ 1,238 ลิตร กรณีพับเบาะ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงท้ายตัด มาตรวัดดิจิทัล LCD มีทั้งขนาด 9.2 นิ้ว และ 10.25 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วประมวลแม่นยำด้วยชิฟ Qualcomm Snapdragon 8155 และ Qualcomm Snapdragon 6155 ในรุ่นเริ่มต้นของ X3 (หน้าจอชัดแบบ 2.5K ในรุ่น X3 Plus) พร้อมไฟสร้างบรรยกาศในห้องโดยสารหรือ Ambient Light สวิตช์กระจกอิเล็กทรอนิกส์และมือจับประตูภายในที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความปลอดภัยไปพร้อมกับความฉลาดล้ำของผู้ขับขี่รุ่นใหม่ พร้อมลำโพง 12 จุดรอบคันจาก Infinity และ PIONEER 8 จุด
ขุมพลังไฟฟ้ามีทั้งรุ่น Standard ขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 252 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 401 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC จากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 50.79 kWh รุ่น Long Range ขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 252 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 520 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC จากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 68.36 kWh ทั้งสองรุ่นมีโหมดการขับขี่ทั้งมีให้เลือกทั้ง ECO, Normal, Sport
และรุ่น Performance ขับเคลื่อนสี่ล้อ ในรุ่น X3 Plus มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลังรวม 347 แรงม้า แรงบิด 465 นิวตันเมตร โดยล้อหน้าให้กำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 165 นิวตันเมตร ล้อหลังให้กำลัง 252 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ในระยะเวลา 6.5 วินาที วิ่งได้ไกลสุด 501 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC พร้อมโหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport, Snow ,Mud, Sand ในระบบ iWD intelligent electric 4-wheel drive
สามารถลุยน้ำได้สูงสุด 625 มิลลิเมตรสามารถรองรับทุกรูปแบบลุทำให้ผ่านอุปสรรคได้ง่ายๆทุกสถานีที่ขับด้วยมุม Approach Angle หรือมุมเงย 26 องศา และมุม Departure angle หรือมุมจาก 28 องศา พร้อมความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) Falcon 500
ทั้ง CHERY FULWIN X3, CHERY FULWIN X3 Plus เปิดตัวพร้อมราคาที่จีนในราคา 89,900-109,900 YUAN หรือราว 415,000-504,000 บาท