ออสเตรเลียขาย BYD SEALION 6 เอสยูวีพลังปลั๊กอินไฮบริด DM-i และตอบรับดีล่าสุดเปิดตัว 2 รุ่นย่อยใหม่เน้นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า

BYD SEALION 6 เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย 2 รุ่นย่อยใหม่ทั้งรุ่น Essential รุ่นเริ่มต้น และรุ่นรองท็อป Dynamic (Extended Range)จากเดิมมีเพียงรุ่น Premium AWD

หล่อหรูด้วยชุดกันชนหน้าขึ้นรูปชิ้นเดียว มีช่องระบายอากาศแนวนอนสามชั้นตรงกลางของชุดกันชนหน้า ประกบคิ้วสีเงินสองเส้นซ้าย-ขวาบนมุมกันชน กระจังหน้าแบบไร้ขอบโค้งมนคล้ายหยดน้ำ พร้อมไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL LED ใต้ชุดไฟหน้าแบบรูปตัวซี ด้านข้างมาพร้อมราวหลังคาบิ๊วอิน หลังคารถพาโนรามิกซันรูฟ เสาอากาศครีบฉลาม

ไฟท้าย LED ที่วางแบบเต็มท้ายรถพร้อมระบบไฟฟ้าเปิด-ปิดแบบ One-touch ในรุ่น Dynamic และ Premium AWD ติดตั้งดิฟฟิวเซอร์มาให้พร้อมไฟถอยหลังใต้กันชนและไฟทับทิมซ้าย-ขวา มีคำว่า BํYD บนฝาท้ายรถและล้อสีทูโทนดีไซน์เอกลักษณ์ ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางจากค่าย Giti โดยความจุถังน้ำมันมากถึง 60 ลิตร

ภายในให้ออปชันต่างกันเริ่มที่รุ่น Essential จอกลางแบบสัมผัสขนาด 12.8 สามารถหมุนจอได้ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมลำโพง 6 จุด เบาะนั่งคู่หน้าโดยด้านคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง คนนั่งปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มีระบบระบายอากาศที่เบาะนั่งคู่หน้า ช่องเสียบ USB รวมกัน 4 จุด

รุ่น Dynamic และรุ่น PREMIUM AWD ได้จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว สามารถหมุนจอได้ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมลำโพง Infinity 10 จุด ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light พร้อมไฟกะพริบตามจังหวะเพลง เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ชายบันไดกันรอยขีดข่วนสีเงิน ที่ชาร์จมือถือไร้สาย 2 จุดกำลัง 15W และจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้า Head-up display และ เครื่องปรับอากาศกันฝุ่น PM 2.5

ทั้ง 3 รุ่นเชื่อมต่อ Apple Car Play Android Auto รองรับ 5G พร้อมระบบเชื่อมต่อเครือข่าย DiLink รองรับการอัปเดตในรูปแบบ OTA เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน มาตรวัดความเร็ว LCD 12.3 นิ้ว เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงท้ายตัด 3 ก้าน หัวเกียร์คริสตัล เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold ช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ ช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB 4 จุด กุญแจ BYD Digital Key พร้อม NFC card key เบาะนั่งแถวหลังแบ่งพับ 60:40 เพื่อขยายพื้นที่ในการขนสัมภาระมากถึง 1,449 ลิตร กรณีพับเบาะและมีพื้นที่ถึง 425 ลิตร กรณีไม่พับเบาะ

สมรรถนะด้วยขุมพลังเบนซิน Plug In Hybrid ขนาด 1.5 ลิตร รหัส BYD472ZQA ที่มีให้เลือกถึง 2 ความแรงเริ่มที่รุ่น Essential และรุ่น Dynamic ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor แบบมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 197 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร จากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.3 kWh ในรุ่น Essential  และ 26.6 kWh ในรุ่น Dynamic

เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้าถึง 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร​ อัตราเร่ง​ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้​ 8.5​ วินาทีในรุ่น Essential และ 8.9 วินาที ในรุ่น Dynamic วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 92​ กิโลเมตรต่อการชาร์จตามมาตรฐาน NEDC ในรุ่น Essential และ 140 กิโลเมตร (NEDC) ในรุ่น Dynamic  วิ่งไกลสุดทำงานร่วมกับเครื่องยนต์และไฟฟ้าสูงสุด 1,092 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

รุ่น Premium AWD เป็นเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร รหัส BYD476ZQC ให้กำลังมากถึง 131 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตรจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อโดยมอเตอร์ล้อหน้าให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร และมอเตอร์ล้อหลัง 163 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร

จากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.3 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้าถึง 324 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร​ อัตราเร่ง​ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้​ 5.9​ วินาที วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 81​ กิโลเมตรต่อการชาร์จตามมาตรฐาน NEDC วิ่งไกลสุดทำงานร่วมกับเครื่องยนต์และไฟฟ้าสูงสุด 961 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

ทั้ง 2 ขุมพลัง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง ECO, Normal, Sport, HEV, EV และ Snow ส่วนรุ่น Premium AWD เพิ่มโหมดลุยทั้งโหมด Mud และ Sand

รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 6.6 kW และการชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 18 kW ด้วยหัวชาร์จแบบ Type 2/CCS Combo มีระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) ยังมีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้

พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ MacPherson Strut เสริมความนุ่มนวลและการยึดเกาะถนน และระบบกันสะเทือนแบบ Multi-Link เด่นที่การเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกให้ห้องโดยสารเงียบสงบตลอดเส้นทาง และความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS)

BYD SEALION 6 มาในราคาไม่รวมค่าจดทะเบียนและภาษีถนน On-Road ของออสเตรเลียดังนี้

• รุ่น Essential ราคา $42,990 หรือราว 919,000 บาท
• รุ่น Dynamic ราคา $46,990 หรือราว 999,000 บาท
• รุ่น Premium AWD ราคา $52,990 หรือราว 1,129,000 บาท