Home » เทียบ 3 EV ไม่เกิน 8 แสน MG4 vs Ora Good Cat vs Byd Dolphin ใครคุ้มสุด
รถใหม่ เปรียบเทียบรถใหม่

เทียบ 3 EV ไม่เกิน 8 แสน MG4 vs Ora Good Cat vs Byd Dolphin ใครคุ้มสุด

แม้จะสัมผัสได้ว่า หลายคนเริ่มไม่ตื่นตัวกับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนก่อน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนจำนวนไม่น้อย ยังสนใจและอยากได้รถยนต์ไฟฟ้ามาครอง โดยเฉพาะคนที่มองหารถใช้งานในเมืองเป็นหลัก วันนี้เราจะมาเปรียบมวย 3 รถยนต์ไฟ้ายอดนิยม ในตัวเลือกราคาไม่ข้าม 8 แสนบาท

สาเหตุที่เราเอาราคามาเป็นตัวตั้งในครั้งนี้มาจาก มุมมองของเราและการรับทราบมาจากผู้กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากที่ไม่ต้องการจ่ายมาก เพื่อรถคันใหม่ ไม่ว่าจะซื้อทดแทนคันเดิม หรือ ซื้อเพิ่ม เราจึงจำกัดงบประมารไว้ที่ 8 แสนบาท เป็นค่าตัว ซุ่งคุณจะพบ รถรุ่นเริ่มต้น จาก 3 รุ่นสำคัญ​คือ BYD Dolphin , MG4 Standard Range และ Ora Good cat

รถทั้ง 3 รุ่นมีความน่าสนใจเหมือนกันตรง ทั้งหมด ประกอบไทย และเป็นรถจากแบรนด์ใหญ่ ที่คงไม่หนีหายไปง่ายๆ จากตลาดรถยนต์

MG 4 D Long Range

เรามาเริ่มกันที่รถยนต์ไฟฟ้าที่คุณภรรยาผมใช้ประจำวัน นั้นคือ MG 4 ซึ่งล่าสุดช่วงงานมอเตอร์โชว์ก็ย่อมเงียบส่งรุ่น D Long Range ออกมาในราคาจำหน่าย 769,900 บาท

ตัวรถ MG 4 คงไม่ต้องสาธยายมาก เนื่องจากเห็นตามถนนบ่อยครั้งในตัว รุ่นนี้ ทุกอย่างจะเหมือนกับ D ตัวล่างทั้งหมด จุดแตกจ่างสำคัญคือการได้แบตเตอร์รี่ขนาดใหญ่ 64 กิโลวัตต์ แทนแบตเตอร์รี่ 49 กิโลวัตต์ เคลมระยะทางต่อการชาร์จ ที่ 540 ก.ม.

ด้านพลังขับ ยังคงเดิม สูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ซึ่งถ้าจะถามว่าช้ามั้ย ไม่มากครับ จากที่เคยขับตัว V Long Range มาแล้ว

ในแง่ตัวรถ จะออกมาในแนวสปอร์ตๆ หน่อย ขับสนุกโดนใจสายขับทั้งหลาย ไม่ว่าจะพวงมาลัย แบบ Dual Pinion , โครงสร้าง Nebular และ การตอบสนองอย่างช่วงล่างหลัง มัลติงลิงค์ แต่จ่ายในราคาที่ผมบอกได้ ถือว่า เป็นราคาที่คุ้มค่ามาก

ถ้าจะถามว่า แล้วต่างจากตัว V อะไรบ้าง ข้อแรก, รุ่นนี้ล้อ 17 และขนาดยางได้เพียง 215/50/17 ไฟท้ายคนละแบบ ต่อมา กระจกไฟฟ้าระบบออโต้ได้แค่ด้านคนขับเท่านั้น และไม่มีที่ชาร์จไร้สาย รวมถึงไม่มีระบบ Adas รวมถึง ไม่มี ismart แต่ถ้าเอาเน้นใช้งาน จัดว่าคุ้มครับ

GWM ORA Good CAT

มามองกันที่เข้าแมวดีกันบ้าง Ora Good Cat เคยเป็นรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม วันนี้ประกอบไทยแล้ว แต่ป้ายแดงไม่ค่อยเห็นนัก ทั้งที่มันเป็นรถขับดีและตอนนี้คุ้มค่ามากๆ

ตัวรถ ORA Good CAT MY 2025 มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบ้างบางจุด โดยเฉพาะจุดสำคัญ คือรถรุ่นนี้หันมาใช้แบตเตอร์รี่จากดรงงานในประเทศไทย S Volt และมีการเปลี่ยนเซลล์มาเป็นแบบ Blade Battery แล้ว มีขนาด 57.7 กิโลวัตต์ มีขนาดเล็กลง

ในเรื่องพลังขับก้มีให้พอประมาณด้วยกำลังขับสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร อาจไม่ได่เยอะมาก ตแ่เพียงพอต่อการใช้งาน เทียบเท่าเครื่องยนต์สันดาปขนาด 1.8 ลิตร ที่เคยนิยมในบ้านเรา

จะว่าไปรถรุ่นนี้คุ้มค่า เพราะราคาที่มีการปรับลงมาล่าสุดเหลือเพียง 699,000 บาท หรือราคาไม่ข้าม 7 แสนบาท ทำให้มันค่อนข้างคุ้มค่าอยู่พอสมควร

แต่จุดเด่นของต้าวแมว นั่นก้คือความคุ้มค่านี่แหละครับ มันมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว แม้ว่าขนาดตัวรถมันจะมีความยาวเพียง 4,235 มม.​และ มีความกว้าง 1,825 มม.​และฐานล้อ 2,650 มม ไม่ต่างจาก MG 4 เท่าไร

ทว่าในแง่ของการออกแบบทรวดทรงตัวรถ ที่ละม้ายคล้ายรถเต่า ทำให้มันมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร เมื่อเข้ามาโดยสาร ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบาย นั่งแล้วไม่อึดอัดเหมือน MG 4 ที่มีความรู้สึกสปอร์ตมากกว่า

แถมในตัวที่เรานำมาเปรียบเทียบนี้ คือ รุ่น Ultra ทำใ้มันมีฟังชั่นที่ครบเครื่องน่าสนใจ เช่นระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถขณะในมุมอับสายตาขณะถอยหลัง ,​ระบบช่วยจอดรถ 3 รูปแบบ ,​ระบบควบคุมรุอยุ่ในเลนฉุกเฉิน และที่จริงตั้งแต่ Good Cat ตัว Pro ก็จะมีออพชั่นล้ำๆ มาอยู่แล้ว เช่นระบบ intelligent ACC ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีเรื่องของความหรูหราพรีเมี่ยมสบายในการใช้งาน เติมเข้ามา เช่นมีฟังชั่นเบาะนั่งนวดได้ สำหรับผู้ขับขี่ เบาะนั่งปรับไฟฟ้า รวมถึง ระบบบันทึกท่านั่ง และ welcome seat

สิ่งที่จะทำให้เราตะขิดตะขวงใจในการใช้งาน คือว่า ดีไซน์ที่ค่อนข้าง จะมีความเฉพาะกลุ่มไปหน่อย ในแนว Retro Futuristic ซึ่งทำให้รถค่อนข้างจะนำเสนอสไตล์ที่คนชอบก็รัก คนไม่ชอบก้บอกผ่านทันที เรื่องแบบนี้บังคับใครไม่ได้

คันนี้ แม้ว่าจะเก่าไปหน่อย แต่ก็ถือว่ายังเป็นตัวเลือกที่ดี ในแง่ความคุ้มค่ าแต่เรื่องสมรรถนะการขับขี่ไม่ได้เน้ยความหวือหวา ทำได้เพียงกลางๆ เหมาะกับเป็นรถในประจำวันที่ใช้ในเมืองอย่างแท้จริง

BYD Dolphin

ทางด้านโลมาน้อยยอดนิยมของใครหลายคน ก็เป็นอีกรุ่นที่เราเชื่อว่าหลายคน น่าจะนำมาเปรียบมวย ในการมองหารถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้น ยิ่งล่าสุดราคารถรุ่นนี้ ราคาไม่มีส่วนลด อยู่ที่ 709,900 บาท เท่านั้น ถือเป็นราคาจำหน่ายที่ค่อนข้าง สมเหตุผล กับการมีรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรก

หรือพูดง่ายๆ ซื้อ เพราะอยากลองรถยนต์ไฟฟ้า คันนี้ราคาไม่แรง แม้ส่วนลด BYD จะรุ่นแรงจนน้ำตาตกในทุกครั้งก็ตามที

ถ้าเทียบกับ 2 คันก่อนหน้า BYD Dolphin แตกต่าง เพราะ ด้วยขนาดตัวรถของมัน ที่ยาวเพียง 4,150 มม.​กว้าง 1,770 มม. และฐานล้อยาว 2,700 มม.​ทำให้คลาสรถรุ่นนี้จริงๆ อยู่ในระดับซับคอมแพ็คคาร์เท่านั้น

ประมาณว่า มันคือ Honda Jazz ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ก็ไม่ได้ผิดอะไรนัก

ความน่าสนใจของ โลมา ข้อสำคัญ คือขนาดของมันทีเล็ก และคล่องตัวมากในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่นที่เราเลือกจะมาเปรียบเทียบคือตัว extended Range ตัวรถค่อนข้างจะมีความลงตัวในการใช้งาน ในแบบ ทั้งขับชิลๆ หรือจะซิ่งก็ได้อยู่

พอพูดว่าเป็น ตัว Extended มันมีจุดเด่นกว่าตรง พละกำลังขับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวนี้ให้สูงสุด 204 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร หรือ เรัยกว่าได้มอเตอร์ของ Atto 3 แถมช่วงล่างหลังยังเปลี่ยนมาใช้ระบบ มัลติลิงค์ ด้วย

เบาะนั่งภายใน ปรับไฟฟ้าตอนหน้า ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ได้หลังคา พาโนรามิก กลาสรูฟ และ ที่ชาร์จไร้สาย ล้อลายใหม่ และทั้งหมดนี้ ราคาขาย 7 แสนบาทอ่อนๆ เท่านั้น ซึ่งอาจจะมากกว่าน้องแมวราคาลดแล้วนิดหน่อย แต่เมื่อคุยเรื่องพลังขับและการตอบสนองต่างๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ลืมไปเลย ตัวแบตเตอร์รี่รุ่นนี้ก็ไม่ธรรมดา ได้แบตเตอร์รี่ขนาด 60.48 กิโลวัตต์ น่าจะเรียกว่าแบตเตอร์รี่ใหญ่ที่สุด ใน 3 คันที่เราจับนำมาเปรียบเทียบ

สรุป MG4 D Long Range / BYD Dolphin / Ora good Cat Ultra คันไหนคุ้ม …​และ เหมาะกับใคร

หากเราเอา รายละเอียดทางเทคนิค รถทั้ง 3 คัน มากางแล้วตัดสินใจ ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าด้วยงบราคาไม่ข้าม 8 แสนบาท ซึ่งมีค่างวดผ่อนกำลังสบายๆไม่หนักไป เหมาะสมกับ เศรษฐกิจในยุคนี้ และในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้า

ถ้าเรา แบ่งตามบุคคลิกของรถ และออพชั่นที่ให้

  • MG 4 D Long Range = สายขับ เน้นรถขับดีมั่นใจ ออพชั่นพอมี ไม่เยอะเกินไป
  • BYD Dolphin Extended = สายขับเน้นพลัง ยังมีความเหมาะการใช้งานรอบด้าน
  • Ora Good Cat Ultra = สายใช้ทั่วไป เน้นวิ่งไกลเป็นหลัก พลังขับไม่สำคัญเท่าความสบาย

จากตรงนี้ คงจะพอมองเห็นภาพ ว่าแต่ละคันมีบุคคลิกอย่างไร พูดกันตรงไปตรงมา มันก็มีข้อดีไปกันคนละแบบ

ในส่วนของรถที่ภรรยาผมใช้เลือก MG4 ซื้อตั้งแต่ล็อตแรกประกอบจีน นั่น เพราะ รถคันนี้เราสลับกันขับอยู่บ่อยๆ แต่เราทั้งสองคนก็มีความคิดคล้ายกัน คือต้องการรถที่มีสมรรถนะในการขับขี่ทีดีประมาณหนึ่ง

พูดแบบนี้หลนอาจสงสัย ทำไมไม่เลือกโลมา นั่นเพราะ คำว่ารถขับดี ของเราไม่ได้เกี่ยวกับแรงม้าทั้งหมด มันต้องเป็นรถที่มีสมดุลที่ดี ระหว่างความบ้าพลัง และ การตอบสนองของตัวรถ และ เอ็มจีดันทำออกมาได้ดีในเรื่องนี้ ด้วยการใช้ขับหลัง สมดุลรถ เซทติ้งช่วงล่าง และอีกมากมาย

อย่าไงรก็ดี, ในอีกมุม ถ้าใน 3 คันนี้ ผมว่าราคาของแมวดีในเวลานี้ก็คุ้มค่าพอสมควร ซื้อราคานี้ได้รถคันใหญ่กว่า นั่งสบายกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะคนใช้งานทั่วไป ไม่สนใจพลังขับ ก็ถือว่าขับดีอยู่ไม่น้อยเช่นกันครับ แถมยังได้ระบบ Adas แบบจัดเต็มกว่า ตัวรุ่น D ของ เอ็มจี

แล้ว “โลมาซิ่งล่ะ” คือ มันก็เป็นรถที่ดีคันหนึ่ง ในแง่ ของ All Around คือมช้งาานสบายได้ซิ่งได้ แต่ พอภาพรวมเราพบว่า ด้วยมันไม่เด่นไปทางไหน สักทางก็เลยแปลกๆ เซทติ้งรถก็ค่อนข้างๆแปลกๆ ขับเคลื่อนล้อหน้า แต่ช่วงล่างหลังเป็นมัลติลิงค์ ทำให้การโยนตัวโคลงตัวในการเข้าโค้ง จะไม่รู้สึกเฉียบเท่าเอ็มจี

เอาพูดเปิดอก ผมเคยซิ่งเล่นกับรุ่นนี้บนทางด่วนบางปะอิน แม้จะมี 200 ม้า ก็ยังดูเหมือนจะกวดเอ็มจีสี่ยากอยู่ มันไม่เกีย่วว่าผมขับหรือเปล่า เพราะ ด้วยสมรรถนะของตัวรถ เขาชนะผมทุกด้าน เว้นอย่างเดียวความเร็วสูงสุด ล็อกไว้ที่ 160 ก.ม./ช.ม.​ เท่านั้น


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.