Home » 2025 BMW iX อีวีปรับโฉมอัปพลังวิ่งไกลขึ้น 602 กม. ในราคาไม่เกิน 6 ล้าน
รถใหม่ รถใหม่ในประเทศ ราคารถใหม่

2025 BMW iX อีวีปรับโฉมอัปพลังวิ่งไกลขึ้น 602 กม. ในราคาไม่เกิน 6 ล้าน

BMW เปิดตัวยนตกรรมไฟฟ้ารุ่นใหม่ส่งท้ายปีกับ BMW iX รุ่นปรับโฉมใหม่ ปี 2025 หรือเรียกกันว่า LCI โดยขายไทยเพียงรุ่นย่อยเดียวนั่นคือรุ่น iX xDrive45 M Sport

ด้านหน้า BMW iX โฉมใหม่ปี 2025 พร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูปราดเปรียวและน่าหลงใหลตั้งแต่แรกเห็นและเป็นการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 4 ปีด้วยกระจังหน้าไตคู่เกือบปิดทึบดีไซน์ใหม่ที่มาพร้อมกรอบวาววับ ล้อมรอบเส้นสายที่จัดเรียงทั้งแบบแนวตั้งและทแยงมุม เสริมด้วยไฟขอบกระจังหน้า BMW Iconic Glow ไฟ DRL แบบ LED แนวตั้งคู่คั่นกลางด้วยไฟหน้า LED Adaptive ทรงกลมในกรอบเดียวกัน กันชนหน้าใหม่ออกแบบช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูใหม่รับกับกระจังหน้า พร้อมช่อง Air Curtain แนวตั้งใหม่

หลังคากระจก Panorama Sky Lounge มือจับประตูที่เปิดด้วยการกดปุ่ม หน้าต่างไร้ขอบ ด้านท้ายมีไฟท้าย LED เส้นเรียวแนวนอนแยก 2 ฝั่งคั่นกลางด้วยตราโลโก้ใบพัดประตูท้ายสอดประสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถโดยไม่มีช่องว่างกันชนหลังออกแบบใหม่เสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังหรือดิฟฟิวเซอร์ออกแบบใหม่มีไฟทับทิมสะท้อนแสงเป็นแนวตั้งล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 21 นิ้ว M Aerodynamic แบบสลับสี ขัดเงา

ภายในลงตัวกับการตกแต่งที่หรูหรา ด้วยเบาะหนังและผิวหน้าแผงคอนโซลในโทนสีน้ำตาลจากชุดแต่ง Design Suite Castanea หรือสีดำโฉบเฉี่ยวในชุดแต่ง Design Suite Amido พร้อมความสปอร์ตจากชุดแต่ง M Sport ไม่ได้จบอยู่แค่ภายนอกตัวรถ แต่ยังสัมผัสได้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยพวงมาลัยหนังแบบ M ทรงหกเหลี่ยมและวัสดุตกแต่งภายในโทนสี M Dark Silver ตัดกับเพดานหลังคาสี Anthracite ให้บรรยากาศของความหรูหราและสง่างามในทุกมุมมอง

ปุ่มควบคุมระบบสัมผัสและระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ Rocker switch เติมเต็มความทันสมัยยิ่งขึ้นภายในห้องโดยสาร พร้อมเน้นย้ำถึงการออกแบบห้องโดยสารเพื่อผู้ขับขี่ด้วยจอ BMW Curved Display พร้อมการต้อนรับด้วยภาพแอนิเมชันแบบใหม่ และ ลวดลายกราฟฟิกจากระบบไฟ Welcome Light Carpet  

หน้าจอแสดงผลและระบบทำงาน iDrive ต่อยอดการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ที่ออกแบบสำหรับทำงานร่วมกับจอระบบสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant

โดยจอโค้งนี้เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทัลประกอบด้วย จอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้วและจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว รวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ และมีจอ Head-Up Display  มาพร้อมตัวเลือกอุปกรณ์เสริมคุณภาพเสียงทรงพลังยิ่งขึ้น อย่างระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง จาก Harman Kardon Surround Sound System ขนาด 655 วัตต์ พร้อมลำโพง 18 ตัว

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาพร้อมฟิลเตอร์นาโนไฟเบอร์ที่สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ รองรับเทคโนโลยี BMW Digital Key Plus เต็มรูปแบบ เพื่อเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของคุณให้กลายเป็นกุญแจรถอัจฉริยะ โดยตัวรถจะปลดล็อกโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเดินเข้ามาใกล้ พร้อมเปิดระบบไฟ Welcome Light อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งยังสามารถแชร์สิทธิ์การเข้าใช้งานรถกับคนที่คุณไว้ใจได้สูงสุดถึง 17 คนอีกด้วย

ขุมพลังไฟฟ้าพัฒนาใหม่จากพื้นฐานเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า BMW eDrive เจเนอเรชันที่ 5 เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ให้กำลังรวมสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร (เดิม 326 แรงม้า แรงบิด 630 นิวตันเมตร) โดยมอเตอร์ล้อหน้า ให้กำลัง 258 แรงม้า แรงบิด 365 นิวตันเมตร และมอเตอร์ล้อหลัง ให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร

มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เพิ่มขนาดเป็น 100.4 kWh (เดิม 76.6 kWh) มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 602 กิโลเมตร หรือ 616 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC (เดิม 425 กิโลเมตร WLTP หรือ 500 กิโลเมตร (NEDC)) ให้อัตราเร่งที่ทรงพลังด้วยความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 5.1 วินาที (เดิม 6.1 วินาที)

การชาร์จโดยชาร์จเร็ว DC รองรับกำลังไฟสูงสุด 175 kW สามารถชาร์จจาก 10-80% ได้ในเวลาเพียง 34 นาที และการชาร์จช้า AC รองรับกำลังไฟสูงสุด 22 kW จึงสามารถชาร์จจาก 0-100% ได้ในเวลาเพียง 5 ชั่วโมง โดยชาร์จเร็ว DC 10 นาที เพิ่มระยะทางสูงถึง 166 กิโลเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ single-stage with fixed ratio ให้ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพร้อมหัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการชาร์จที่ยืดหยุ่น

มีระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive recuperation) ช่วยเสริมประสิทธิภาพและระยะการขับขี่ ด้วยการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ โดยใช้ข้อมูลจากระบบนำทางและเซนเซอร์จากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่

ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ โดยเมื่อเลือกขับขี่ด้วยเกียร์ B ระบบ Recuperation จะทำงานที่ระดับสูงสุดโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบ one-pedal feeling และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ (Servotronic) แปรผันตามการหมุนและความเร็ว ช่วงล่างแบบถุงลม Adaptive 2-axle air suspension สามารถปรับระดับความสูงของรถได้ตามโหมดการขับขี่ เพื่อความนุ่มนวลและสะดวกสบายสูงสุดในทุกสถานการณ์

ระบบช่วยการขับขี่ Driving Assistant Plus และนวัตกรรมหลากหลายที่สุดพร้อมเซนเซอร์ ซอฟต์แวร์ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลังใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน เปิดขายไทยใน ราคา 5,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.