นับตั้งแต่ MG4 เวอร์ชันประเทศจีน ได้ถูกเปิดตัวออกมา หลายคนก็ต่างกังวลใจว่าเวอร์ชันใหม่ของปีหน้า 2026 จะเป็นแบบเดียวกันหรือไม่ ? ซึ่งคำตอบของมันก็คือ “ไม่”

เพราะ 2026 MG4 ที่เป็นร่างสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศอื่นๆทั่วโลก ซึ่งไม่ใช่ประเทศจีน จะยังคงเป็นรถร่างเดิมกับที่เราได้ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้
โดยที่จะดูเหมือนไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนงานออกแบบใดๆเลย หากมองจากภายนอกเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะรูปทรง ไฟหน้า กันชนหน้า ชายล่างประตู ไฟท้าย และกันชนท้าย หรือแม้กระทั่งชุดล้อ ล้วนคงเดิมแทบทั้งหมด

แต่เมื่อกระโดดเข้าไปภายในห้องโดยสาร คุณจะพบว่าตัวรถได้มีการปรับงานออกแบบคอนโซลใหม่หมด ซึ่งจะยกมาจาก MG S5 EV แทบทั้งดุ้น
ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยทรงเดิม ปรับกรอบก้านซ้าย-ขวาใหม่ ให้เป็นสีเงิน และเพิ่มก้านด้านล่างเข้ามา, ดีไซน์คอนโซลหน้าที่มีความเป็น Dual-Layer และมีความโค้งมนตลอดแนวซ้ายจรดขวา ลากไปถึงแผงข้างประตู
และยังมีการเปลี่ยนแท่นลูกบิดปรับตำแหน่งเกียร์ และแท่นวางโทรศัพท์พร้อมระบบไวร์เลสชาร์จ ก็ได้ถูกตัดการเชื่อมต่อจากแผงคอนโซลหน้า แล้วไปเชื่อมต่อกับที่วางแขนตรงกลางระหว่างเบาะแทน โดยมีช่อวงว่างแก้วน้ำอยู่ด้านหน้า ซึ่งเข้าใจว่าเพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่ง่ายขึ้น คล่องมือกว่าเดิม
และที่ขาดไม่ได้เลย คือการเปลี่ยนไปใช้จอแสดงผลข้อมูลตัวรถหน้าผู้ขับขนาด 10.25 นิ้ว แทนจอขนาด 7.0 นิ้ว รวมถึงเปลี่ยนจออินโฟเทนเมนท์เป็นขนาด 12.8 นิ้ว แทนจอ 10.25 นิ้วเดิม เสริมความสบายตาในการอ่านข้อมูลต่างๆได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ MG4 รุ่นปี 2026 ยังมีร่างที่ใช้งานออกแบบภายในห้องโดยสารต่างไปจากแบบก่อนหน้าอีกรุ่นด้วย นั่นคือคราวนี้ตัวรถจะมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งจะได้ใช้คอนโซลหน้าที่ดูนุ่มนวลกว่า ทั้งเส้นสายองค์รวม และการจัดองค์ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ
โดยหากไม่นับหน้าจอที่ถูกเปลี่ยนไปใช้แบบเดียวกับร่างขับเคลื่อนล้อหลัง นอกนั้นก็จะมีในส่วนของพวงมาลัยที่เป็นดีไซน์เดิม 2 ก้าน แบบเดียวกับ MG4 รุ่นปีปัจจุบัน แต่เปลี่ยนสีหนังหุ้มกรอบพวงมาลัย กับปุ่มแตรตรงกลางให้เป็นสีขาว, ปรับดีไซน์ปุ่มลูกเล่นจำพวก ระบบไล่ฝ้า ระบบไฟฉุกเฉินและอื่นๆตรงกลางคอนโซลใหม่ ให้เข้ากับหน้าตาคอนโซล
และเชื่อมคอนโซลกลาง เข้ากับคอนโซลหน้า โดยไม่แน่ใจเหมือนกันว่านอกจากช่องว่างโทรศัพท์ด้านหน้า กับช่องวางแก้วน้ำที่ต่อกันมาแล้วหลังจากนั้นจะเป็นตำแหน่งของลูกบิดปรับตำแหน่งเกียร์เลยหรือไม่ ? เพราะภาพที่เปิดเผยออกมาตอนนี้ไม่ได้เผยให้เห็นหน้าตาคอนโซลอย่างครอบคลุมมากนัก

นอกนั้นในด้านรายละเอียดทางเทคนิค ทาง MG Brasil ที่ได้สิทธิ์ในการเผยโฉมรถ MG4 2026 ก่อนใคร ก็ระบุไว้แค่เพียงว่า ตัวรถจะได้ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนช่วงล่าง ระบบเบรก หรืออื่นใดมากมายนัก
ส่วนในประเทศออสเตรเลีย ที่จะมีสิทธิ์ในการวางจำหน่ายรถรุ่นใหม่นี้เช่นกัน ก็ระบุว่าพวกเขาจะได้สิทธิ์ในการวางจำหน่ายทั้งตัวรถรุ่นที่ใช้มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า (ยังไม่ระบุตัวเลขกำลังสูงสุด) ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 43 kWh และ 53 kWh เพื่อเน้นตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าในเมือง ในชีวิตประจำวันเป็นหลัก
ขณะที่ตัวรถรุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ XPower จะยังคงใช้งานแบตเตอรี่ขนาด 64 kWh ดังเดิม โดยที่ยังไม่มีการระบุเสริมเช่นกันว่าระยะทางในการใช้งานของมันจะปรับเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ ?
ด้านประเทศไทยของเรา ก็คาดว่าจะมีการปรับโฉม MG4 ตามในปีหน้าเช่นกัน ส่วนจะเกิดขึ้นในช่วงใดของปี 2026 นั้น ยังต้องรอติดตามกันต่อไป