ขณะที่ฝั่งรถอเนกประสงค์ มีการปรับโฉมใหม่อยู่หลายครั้ง ฝั่งรถยนต์นั่งกลับยังคงนิ่งเงียบ เช่น Mazda2 ปี 2026 ที่ยังคงลากขายโฉมเดิมต่อไปเป็นปีที่ 12 ในประเทศญี่ปุ่น
Mazda2 เจเนอเรชันที่ 3 ได้ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกมาตั้งแต่ปี 2014 และได้รับการปรับโฉมยิบย่อยมาอย่างน้อย 2 ครั้ง นั่นคือในปี 2019 และ 2023 จนกระทั่งตอนนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่น มันก็ยังคงถูกลากขายต่อไป และได้รับการปรับโฉมใหม่อีกครั้งเพื่อขายต่อเป็นปีที่ 12 และดูเหมือนจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไปอีกพักใหญ่
โดยการรปรับโฉมครั้งนี้ จะเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนออพชันในแต่ละรุ่นย่อย (ตามที่มีขายในประเทศญี่ปุ่น) เริ่มจากรุ่นเริ่มต้น 15C II ที่จะมาพร้อมกับชุดเบาะหลังแบบปรับพักแยกส่วน 60/40 ได้ และมีกระจกประตู่คู่หลังแบบ Privacy Glass เป็นออพชันติดรถมาเลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม
ต่อด้วยรุ่นถัดมา คือ 15 BD i Selection II ซึ่งจะได้รับการติดตั้งชุดหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมระบบ Mazda Connect Package, กล้อง 360 องศา พร้อมเซนเซอร์รอบคัน และกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, ระบบ TV Tuner
และในรุ่น 15 Sport II ที่จะได้ชุดเบาะและพวงมาลัยอุ่นร้อนเพิ่มเข้ามาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายขณะใช้งานในหน้าหนาว ตอนอากาศเย็นเพราะฝนตก
นอกนั้นในส่วนของตัวรถรุ่น 15MB ก็จะยังคงไม่ได้รับการอัพเกรดใดๆ เพราะเป็นรุ่นพร้อมซิ่ง สเป็คโล้นๆ เกียร์กระปุกคลัทช์เท้า 6 สปีด เครื่องยนต์จูนเน้นรีดรอบอีกเล็กน้อย ซึ่งหากโล้นเกินไป ทาง Mazda ยังมีแพ็กเกจเสริม ookie Drive, Clap Pop, Sci-Fi, AutoExe bodykit และอื่นๆอีกมากมาย ให้ลูกค้าได้ตกแต่งรถเพิ่มเติมแล้วแต่ความต้องการ
นอกนั้นในส่วนงานตกแต่งภายนอก ภายใน ยังคงเดิม เช่นเดียวกับรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของตัวรถที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะตัวรถยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 110-116 PS แล้วแต่รุ่นย่อย ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ หรือ ธรรมดา 6 สปีด ไปยังชุดล้อคู่หน้า หรือ ล้อทั้ง 4 แล้วแต่รุ่นย่อย เหมือนเดิม
ส่วนราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะเริ่มต้นที่ 1,720,400 เยน หรือราวๆ 356,800 บาท เท่านั้น และจะไปจบที่ 2,501,400 เยน หรือราวๆ 519,000 บาท ในรุ่นบน ซึ่งทั้งหมดนี้จะพร้อมวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป
และในขณะที่ Mazda2 ในยุโรป มีการปรับไปใช้พื้นฐานของ Toyota Yaris เวอร์ชันญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งเป็นคนละร่างกับที่วางจำหน่ายในไทย แต่ดูเหมือนว่าท้ายที่สุดบ้านเราก็จะยังคงได้ใช้รถ Mazda2 ร่างเดิมต่อไปตามตลาดญี่ปุ่น ส่วนจะมีการอัพเดทฟีเจอร์ลูกเล่นใหม่ๆเพิ่มเติมหรือไม่ต้องรอติดตามข้อมูลกันต่อไป
