ทำตลาดเมืองจีนมา 3 ปีสำหรับ AION Y PLUS อีวีล้วนในร่างเอสยูวีที่ขายดีของค่าย GAC AION และขยายไปยังต่างประเทศ
และเพื่อเป็นการฉลองยอดขายสะสมทั่วโลกกว่า 520,000 คัน GAC เปิดตัว AION Y PLUS MY2025 ปรับภายนอกอัปเกรดเทคโนโลยีความสบายและความปลอดภัย
เริ่มที่ภายนอกปรับในส่วนไฟท้ายแนวยาวแบบ LED รมดำเปลี่ยนมาใช้โลโก้ตัวอักษร AION แบบเรืองแสง นอกนั้นคงเดิมไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าทรงไดนามิก ชุดไฟหน้า LED ดีไซน์มีปีก Angel Wing หลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ ราวหลังคา ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบกับตัวถัง พร้อมประตูฝาท้ายระบบไฟฟ้า และล้ออัลลอยหลายขนาดตั้งแต่ 17-19 นิ้ว
ภายในอัปเกรดจอสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ใหม่ ใช้งานรวดเร็วขึ้น รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่าน Carlink/Hicar พร้อมกันนี้ระบบนำทางในจอมาพร้อมฟังก์ชันนับถอยหลังสัญญาณไฟจราจร เสริมการใช้งานได้จริงสำหรับการขับขี่ในเมือง พร้อมความสบายแบบ 5 ที่นั่งพร้อมออปชันมากมายทั้ง
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน จอมาตรวัดดิจิทัล 10.25 นิ้ว จอสัมผัสรองรับการอัปเดต OTA แบบ ADiGO SPACE แสดงข้อมูลสำหรับทุกการขับขี่ พร้อมระบบนำทาง และฟังก์ชันที่อัจฉริยะ พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง มีระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย รวมถึงระบบควบคุมรถระยะไกลผ่าน Application เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้รถ บน+ ติดตั้งลำโพง 6 จุดจาก BONGIOVI พร้อมช่องเสียบ USB ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 32 สี
ขุมพลังไฟฟ้าล้วน 2 ระดับกำลัง เริ่มด้วยรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าที่ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร ทำงานร่วมแบตเตอรี่ Lithium Ion Phosphate ความจุตั้งแต่ 49.75 kWh และ 58.4 และ 58.9 kWh วิ่งไกล 430 และ 510 กิโลเมตร (CLTC)
ขณะที่อีกรุ่น จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร ทำงานร่วมความจุแบตเตอรี่ LFP 68.2 kWh วิ่งไกลสุด 610 กิโลเมตร (CLTC) ด้านการชาร์จแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จ 80 kW 10-80% ภายใน 45 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับ 7kw 0-100% ภายใน 8-9 ชั่วโมง
พร้อมโหมดการขับขี่สี่โหมดทั้งแบบแป้นเดียว i-pedal ช่วยเพิ่มระยะการขับขี่สูงสุดถึง 23% และยังมีโหมด Sport, Normal, ECO และฟังก์ชัน V2L ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้สะดวกง่ายดาย พร้อม ความปลอดภัย ด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2+ โดยขายจีน 4 รุ่นย่อยเริ่มต้น 99,800-123,800 YUAN หรือราว 459,000-569,000 บาท