Kia AD

Home » Toyota เตรียมสร้าง HiLux FCEV กระบะพลังไฮโดรเจน 10 คัน ส่งทดสอบวิ่งจริงทั่วโลก

Kia AD

Suzuki AD

Evolution ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

Toyota เตรียมสร้าง HiLux FCEV กระบะพลังไฮโดรเจน 10 คัน ส่งทดสอบวิ่งจริงทั่วโลก

ความพยายามการสร้างรถยนต์หลายหลายขุมกำลังพลังงานทางเลือก ที่ไม่ได้จำกัดแค่ระบบไฟฟ้า 100% ของ Toyota ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดกับการเตรียมทำรถ Toyota HiLux FCEV ออกมาวิ่งทดสอบพร้อมกันทีเดียวถึง 10 คัน

Toyota HiLux FCEV ถูกเผยโฉมครั้งแรกในญานะรถโปรโตไทป์ ด้วยชื่อ Toyota Hilux H2 Prototype เมื่อปลายปีก่อน ซึ่งความแตกต่างหลักๆของมันกับตัวรถ Toyota HiLux (หรือที่รู้จักกันในบ้านเราด้วยชื่อ Hilux Revo) ก็คือ การที่คราวนี้ มันจะมาพร้อมกับขุมกำลังและระบบขับเคลื่อนซึ่งยืมมาจาก Toyota Mirai เจเนเรชันที่ 2

นั่งจึงหมายความว่าคราวนี้ มันได้ถูกถอดเอาเครื่องยนต์ดีเซลดั้งเดิมออกไป แล้วแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 182 แรงม้า PS และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หลังเพียงอย่างเดียว

ส่วนแหล่งพลังงานหลัก ก็แน่นอนว่ามาจากก๊าซไฮโดรเจนน้ำหนัก 5.6 กิโลกรัม ที่จะถูกแบ่งอัดไว้ในถังเก็บ 3 ถัง ขนาดรวมกัน 141 ลิตร ติดตั้งไว้ระหว่างกลางของแชสซีย์ โดยก๊าซฯเหล่านี้จะถูกนำไปทำปฏิกริยาเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าไปกักเก็บไว้ในแบตเตอรี่ความจุ 1.2 kWh สำหรับขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าต่อไป ซึ่งระบบการทำงานทั้งหมดที่ไล่เรียงมานี้ จะทำให้รถสามารถขับเคลื่อนได้ไกลสุด 647 กิโลเมตร ต่อการเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง

โดยกำหนดการผลิตตัวรถ HiLux FCEV ร่างวิ่งจริงทั้ง 10 คัน ทาง Toyota ระบุว่าจะเกิดขึ้นภายในช่วงสิ้นปีนี้ ที่โรงงานในเมืองเบอร์นาสตัน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่รัฐบาลมองเงินสนับสนุนให้โครงการนี้มากถึง 5.6 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 250 ล้านบาท เมื่อรวมกันเงินอีกส่วนที่ทางค่ายและสำนักวิจัยที่เป็นพาร์ทเนอร์ช่วยกันออกเอง ก็จะเท่ากับว่าโครงการนี้มีการทุ่มงบไปแล้วกว่า 11.3 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 504 ล้านบาท

และแม้ตัวรถจะถูกผลิตในประเทศอังกฤษ แต่เพื่อการเก็บข้อมูลที่ถี่ถ้วน ทางค่ายจึงวางแผนที่จะส่งตัวรถทั้ง 10 คัน ไปวิ่งทดสอบในหลายๆประเทศทั่วโลก ซึ่งนั่นอาจรวมถึงประเทศไทย ที่เป็นอีกหนึ่งตลาดใหญ่ของรถกระบะ และมีเป็นฐานการผลิตใหญ่สุดของรถกระบะ Toyota Hilux อีกด้วย

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.