หลังประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการทำตลาดทั้ง Zontes 350D, Zontes 350E และล่าสุดกับ Zontes 368G ทาง Zontes ประเทศไทย กลับยังคงตัดสินใจที่จะรุกตลาดรถสกู๊ตเตอร์เมืองไทยเพิ่มอีก ด้วยการเผยโฉม Zontes 368K กับสโลแกน “Ultimate Konfidence” กับราคา วางจำหน่ายช่วงเปิดตัว ที่ 169,000 บาท

Zontes 368K คือรถสกู๊ตเตอร์อีกหนึ่งโมเดลที่อยู่ในสารบบเดียวกับกับรถทั้ง 3 คันที่เราระบุไว้ก่อนหน้า โดยเฉพาะกับตัวรถรุ่น 350E ที่เป็นรถสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ เน้นอรรถประเชน์ในการใช้งานเหมือนๆกัน แต่ดูเหมือนว่าตัวรถรุ่น K นี้ อาจจะเน้นภาพลักษณ์ที่ดูพรีเมียมกว่า ด้วยงานออกแบบหน้ารถที่ดูกลมมน แต่เรียบง่ายกว่า ชิลด์หน้าปรับความสูง-ต่ำ ได้ 2 ระดับเหมือนกัน แต่องศาชิลด์มีความเอนนอนกว่าเล็กน้อย เพื่อการแหวกลมปะทะที่ลื่นไหลกว่า

แม้แต่ชิ้นแฟริ่งข้าง ทั้งบริเวณบังลมเท้าด้านหน้าซ้ายและขวา กับแฟริ่งข้างช่วงข้างถังน้ำมันพาดยาวไปจนถึงแนวใต้เบาะ และท้ายรถที่มีเส้นโค้งนูนเพียงแค่พอให้เห็นสัดส่วนรถเท่านั้น รวมถึงตัวแร็คข้างก็มีงานดีไซน์รับกันดีกับเส้นโค้งท้ายรถเป็นอย่างดี แถมยังผลิตขากแม็กนีเซียมน้ำหนักเบาอีกด้วย

นอกนั้นไฟหน้าตัวรถ จะยังคงเน้นความเรียบง่ายเช่นกัน และวางดวงไฟ Projector LED แบบแนวนอน ฝั่งละ 3 ดวง เท่ากับ 350E แต่แถบไฟ DRL จะเป็นแถบไฟสีขาวเทานั้น ไม่ได้มีฟังก์ชันในการเปลี่ยนสีใดๆทั้งสิ้น และไฟท้ายแบบ LED ซึ่งมีการออกแบบให้แถบไฟเบรกวางแนวเป็นเส้นเดียวกันกับแนวแฟริ่งข้างอย่างลงตัว

ขณะเดียวกัน เราจะพบว่าตัวรถมีการหยิบยืมชิ้นส่วนหลายจุดมาจาก 350E ไม่ว่าจะเป็นแฮนด์บาร์อลูมิเนียมที่สามารถปรับตำแหน่งการยึดไปด้านหน้าและด้านหลังได้, การ์ดแฮนด์พลาสติกขนาดใหญ่, บังโคลนหน้า, และชุดล้อหน้า-หลัง กับหน้าจอแสดงผลข้อมูลตัวรถแบบ Full Digital TFT ขนาด 6.75 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธได้

ส่วนสิ่งที่ต่างออกไปในเรื่องออพชันซึ่งเหนือกว่า 350E ขึ้นมา ก็คือการที่คราวนี้ตัวรถจะได้รับการติดตั้งกล้องบันทึกเหตุการณ์ด้านหน้าและด้านหลังจาก Sony พร้อมเมมโมรีบันทึกข้อมูลขนาด 128 GB ในตัวมาให้แล้วตั้งแต่ออกโรงงาน

และตัวเบาะนั่ง ยังมีพนักหลังบริเวณก้นกบผู้ขี่ เพื่อเสริมความสะดวกสบาย และความกระชับขณะนั่งขี่ใช้งานอีกจุด แม้ความสูงเบาะของมันจะยังคงสูงที่ 770 มิลลิเมตร เท่าเดิม

นอกนั้นตัวรถก็จะมาพร้อมกับขนาดตัวด้านยาว 2,195 มิลลิเมตร, ด้านกว้าง 795 มิลลิเมตร, ด้านสูง 1,395 มิลลิเมตร, ระยะฐานล้อ 1,570 มิลลิเมตร, และความสูงใต้ท้องรถ 150 มิลลิเมตร

ด้านรายละเอียดทางเทคนิคของตัวรถ 368K ก็จะเริ่มจากการที่มันถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยชุดโครงตัวถังแบบท่อเหล็กเชื่อมขึ้นรูป ซึ่งเข้าใจว่าแท้จริงแล้ว ก็อาจจะเป็นชุดเฟรมเดียวกันกับ 350E

แต่ที่พิเศษกว่าคือ คราวนี้รถจะมีการอัพเกรดโช้กหน้า ให้เป็นแบบโช้คตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกน 37 มิลลิเมตร พร้อมฟังก์ชันในการปรับค่าความหนืดในการยืดตัวและยุบตัว และใช้โช้กหลังแบบโช้กคู่พร้อมความสามารถในการปรับค่าความแข็ง-อ่อนสปริงได้อีก 5 ระดับ ซึ่งทั้งหมดเป็นออพชันที่สั่งมาพิเศษเพื่อการทำตลาดในประเทศไทยเท่านั้นด้วย

ส่วนชุดล้ออัลลอยด์รัดด้วยยางขนาด 120/70-15 และ 140/70-14 ตามลำดับหน้า-หลัง ก็คาดว่าจะเป็นของที่รับช่วงต่อมาจาก 350E เช่นเดิม

และตัวระบบเบรกหน้า-หลัง ที่เป็นแบบจานเดี่ยวทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์ 4 พอท และโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอท พร้อมสายถักเสร็จสรรพ ก็ยังคงเป็นของ J.Juan ดังเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง

ท้ายสุดคือเรื่องของขุมกำลัง ที่หากเทียบกับกัน 350E เราก็จะพบว่าเครื่องยนต์ที่อยู่ใน 368K ซึ่งที่จริงก็เป็นบล็อคเดียวกันกับ 368G เป็นเครื่องยนต์ 350E ที่ถูกนำมาขยายขนาดลูกสูบให้ใหญ่ขึ้น จาก 77 มิลลิเมตร เป็น 79 มิลลิเมตร คูณช่วงชักอีก 75 มิลลิเมตร ทำให้ความจุเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 368cc

นอกนั้นฝาสูบ ยังคงถูกปรับเซ็ทให้สามารถสร้างอัตราส่วนกำลังอัดได้ 11.8:1 เท่าเดิม จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดและระบบซอฟท์แวร์จาก BOSCH พร้อมทำกำลังสูงสุด 38.75 PS ที่ 7,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ CVT ตามเดิม

ซึ่งแม้พละกำลังจะมากขึ้น แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่เบากว่า 10 กิโลกรัม เหลือ 188 กิโลกรัม ทำให้อัตราสิ้นเปลืองยังคงเท่าเดิมที่ 3.5 ลิตร / 100 กิโลเมตร หรืออยู่ที่ 28.57 กิโลเมตร/ลิตร ดังเดิม

ด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Zontes 368K สนนตัวเลขอย่างเป็นทางการที่ 173,000 บาท และพิเศษ สำหรับช่วงเปิดตัว ลูกค้าจะได้รับวอยเชอร์ส่วนลดมูลค่า 4,000 บาท ทำให้ราคารถสำหรับการวางจำหน่ายในช่วงเปิดตัว จะมีตัวเลขที่ 169,000 บาท

โดยตัวรถรุ่นนี้ จะมีการวางจำหน่ายทั้งหมด 3 เฉดสี ให้เลือกซื้อ ได้แก่ สีเทา Light Grey, สีดำ Extra Black, และ สีขาว Pearl White และพร้อมให้ผู้ที่สนใจได้จับจองตัวรถ ณ ศูนย์บริการ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป