ผ่านระยะเวลาปี 2 ปีนับตั้งแต่การเปิดตัว Honda Giorno+ สกู๊ตเอร์ เอที จากทางฮอนด้า วันนี้ยังยืนอย่างภาคภูมิใจด้วยยอดขายสูง นิยมยามๆอย่างต่อเนื่อง

ความนิยมของรถรุ่นนี้ ส่งให้ฮอนด้า จำเป็นต้องเร่งการผลิตจากเดิมถึง 3 เท่า ส่วนลูกค้าก็รอแล้วรอเล่า แม้ราคารถรุ่นนี้ตามหน้าร้านก็ไม่ใช่ว่าจะถูกๆ

คำถามที่น่าสนใจ คือทำไมรถสกู๊ตเตอร์ 125 ซีซี คันนี้ได้รับความสนใจมากขนาดนั้น ทั้งที่ไม่น่าจะเป้นที่นิยมมาก และแม้จะมีรถรุ่นอื่นขนาดใกล้กัน กลับไม่ปังเท่า จีออโน่ ที่ออกมาจนถูกใจทุกหัวระแหง

หน้าตา ถูกใจคนกลุ่มใหญ่

“แฟชันสกู๊ตเตอร์” เป็นนิยามจากบรรดาผูผลิต ที่พยายามเอ่ยถึง รถเอที ที่มีดีไซน์ร่วมสมัย เน้นจับตลาดคนกลุ่มใหญ่รถแนวนี้จึงมัก ได้แรงบันดาลใจมากจากสกู๊ตเตอร์ ในช่วงปี 50-60 โดยเฉพาะสไตล์ไฟหน้ากลม ฟลอร์บอร์ดกว้าง

เบาะนั่งหนา เน้นนั่งสบาย รถมีขนาดไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ขับขี่ง่ายจอดง่าย มีสีสันหลากหลาย ตั้งแต่สไตล์ชิคๆ ไปจนถึงเรียบหรูดูดี จะขับเดิมๆ ก็ได้ แต่งนิดหน่อยก็ถูกใจ

หรือง่ายๆ เป็นรถที่สามารถโดนใจได้คนทุกเพซทุกวัย โดยไม่ต้องคุยถามเรื่องสมรรถนะในการขับขี่

งานออกแบบนี้ จึงมักโดนใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง, ผู้ชาย, เด็กนักเรียน, นักศึกษา, วัยทำงาน, หรือจะเป็นแม่บ้าน ผู้อาวุโส มีรถไว้ใช้ไปซื้อจ่ายกับข้าว ก็สามารถใช้งานรถรุ่นนี้ได้หมด ไม่ได้ถูกตีกรอบว่าต้องเป็นคนประเภทไหน ถึงจะเหมาะสม

สดใหม่ กว่าคู่แข่ง

จากข้อแรก หลายคนอาจเริ่มคิดว่า งั้นไม่จำเป็นต้องเลือก Giorno+ ก็ได้หนิ เพราะคู่แข่ง Yamaha Grand Filano ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ที่จริงแล้ว Grand Filano ครองตลาดนี้มานาน ก่อนปรับโฉมครั้งใหญ่ในปี 2023 ไล่เลี่ยกับ Honda Giorno+

แต่หลายคน อาจเริ่มรู้สึกว่า ชื่อรุ่นที่อยุ่ในตลาดมานาน มันเริ่มไม่สดใหม่ ชื่อ “แกรนด์ ฟิลาโน่” อยู่มานานเกิน 10 ปี ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่กระแสความน่าสนใจในตัวรถจะแอบน้อยลงไปบ้างในสายตาของลูกค้าหน้าใหม่

เช่นเดียวกัน แม้ทางฝั่ง Honda จะมี Scoopy ทำตลาดในคลาส “แฟชันสกู๊ตเตอร์” มานาน แต่มันก็ยิ่งเป็นรถสกู๊ตเตอร์ประเภทนี้ที่ยิ่งมีอายุด้านการตลาดที่ยาวนาน ยิ่งกว่า Grand Filano เสียอีก จนทำให้ในช่วงหลังๆกระแสความนิยมของตัวรถก็เริ่มที่ตกลงไปบ้างไม่มากก็น้อย

ส่วน Giorno แม้ชื่อนี้ จะเป็นชื่อที่มีในประเทศญี่ปุ่นมานานแสนนาน แต่ในประเทศไทย ทาง Thai Honda กลับไม่เคยนำรถรุ่นนี้มาทำตลาดในบ้านเราเลยแม้แต่ครั้งเดียว

การมาของ Giorno+ จึงนับเป็นสิ่งใหม่จากทาง Honda ในประเทศไทย สร้างความสนใจในทันทีนับตั้งแต่ที่ชื่อของมันได้ปรากฏขึ้นบนช่องทางสื่อต่างๆ

ทีเด็ดอยู่ที่ขุมพลัง

หนึ่งในไม้เด็ด ของ Giorno+ คือขุมกำลัง eSP+ ที่ถูกออกแบบมาอย่างดี และมีพี่ๆน้องๆของแบรนด์ใช้เครื่องยนต์ตระกูลเดียวกันนี้ด้วยกันถึง 7 รุ่น ได้แก่ Honda Giorno+ กับ Honda Lead 125 ทั้งคู่เป็นเครื่องยนต์ 125cc เหมือนกัน และตามด้วย Honda Click 160, Honda PCX 160, กับ Honda ADV 160 ใช้เครื่องยนต์ 157cc ทั้งหมด, และถ้าจะนับ จริงๆ ต้องยาวไปถึงรุ่นใหญ่ แก๊ง 350 ด้วย

จุดขายสำคัญของเครื่องยนต์ตระกูลนี้ คือการอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งเพื่อความทนทาน และการรีดประสิทธิภาพในการใช้งานจากเครื่องยนต์ขนาดเล็กให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระบบไหลเวียนน้ำมันเครื่อง, ระบบท่อฉีดน้ำมันเครื่องเข้าใต้หัวลูกสูบเพื่อระบายความร้อน, การออกแบบชิ้นส่วนลูกสูบ ข้อเหวี่ยง แคมชาฟท์ กระเดื่องกดวาล์วให้มีแรงเสียดทานต่ำ, และทีเด็ดเลยคือให้ชุดวาล์วไอดี-ไอเสีย ถึง 4 ตัว ตั้งแต่เครื่องยนต์ขนาดเล็กสุด

ทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์ของคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด และยังมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำ แม้จะยังไม่มีระบบไฮบริดใดๆมาช่วยแบ่งเบาภาระเครื่องยนต์เลยก็ตาม

นอกจากนี้เครื่องยนต์ในพิกัด 125cc กับ 157cc มีชิ้นส่วนหลายอย่างที่ใกล้เคียงกัน ส่งผลให้สายซิ่งทั้งหลาย สามารถโมดิฟายเครื่องยนต์กันได้อย่างเต็มที่ จนบางทีอาจใช้สูตรสำเร็จจากตอนทำรถเครื่องยนต์ 157cc มาโยนใส่บล็อค 125cc ตรงๆเลยก็ยังได้

ยิ่งในเมื่อหน้าตารถไม่ได้ดูซิ่งอะไรมากนัก แต่กลับได้เครื่องยนต์ที่สามารถต่อยอดได้ไกล ทำให้ไม่แปลกนักเหล่าสายซิ่งจะถูกใจ ทำรถเดิมๆ แต่แรงโคตรๆ หมกไว้แกล้งเด็กยังได้

กลุ่มคนรุ่นใหม่ นิยม สกู๊ตเตอร์

อย่างไรก็ดี, ข้อหนึ่งที่สำคัญ คือตลาดรถจักรยานยนต์วันนี้เริ่มมาถึงจุดเปลี่ยน ที่รถแบบพ่อบ้านแม่บ้านดั้งเดิมที่เรียกว่า “Moped” ครองโดย Honda Wave มายาวนานเริ่มเสื่อมความนิยม

คนรุ่นใหม่เกิดมาพร้อมความสะดวกสบาย สร้างตลาดรถสกู๊ตเตอร์เอที เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนตลาดกลุ่มดังกล่าวเริ่มถูกทอนความนิยมลงไปเรื่อยๆ

แน่นอนว่า รถสกู๊ตเตอร์ที่ทุกคนนึกถึงคือ เวสป้า พูดมาก็ต้องรู้จัก ฮอนด้าเองก็ดูจะรู้ข้อนี้จึงออกแบบรถให้มีความก้ำกึ่งในแง่การออกแบบบางประการ เช่นการย้ายไฟหน้าไปไว้ในตำแหน่งแฮนด์บาร์ แทนที่จะวางไว้ที่บอดี้รถ เหมือนสกู๊ปปี้ ทำให้ เวลาเลี้ยวสามารถส่องสว่างได้ดีกว่า

รวมถึงช่องเก็บของที่มีความใหญ่มากจุทุกอย่าง และใหญ่พอจะจุโน๊ตบุ๊คขนาด 16 นิ้วได้ เป็นไฮไลท์ที่ไม่ว่าใครก็ต้อง ว้าว

นอกจากนี้ตัวรถยังมีรุ่นพิเศษออกมาอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ เช่นรุ่น Disney Fantasia และอืนๆ อีกมาก จนมีสีสันในตลาดมากกว่าเป็นรถธรรมดาๆ อีกคัน

รองรับการใช้งานหลากหลาย

อีกสิ่งที่ทำให้ Giorno+ มีความน่าสนใจ ก็คือความสามารถในรองรับการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะทั้งจากการใช้งานในเมืองที่อาศัยความคล่องตัวของรถเป็นหลัก ด้วยรถที่มีน้ำหนักเบา และขนาดตัวที่ไม่ได้ใหญ่เทอะทะอะไร

หรือจะใช้งานเดินทางระยะไกลข้ามจังหวัด นิดๆหน่อยๆ (หรือใครจะไปไกล ถ้าสังขารไหวก็ตามแต่ศรัทธา) ด้วยความประหยัดเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์, ท่าทางการขี่ที่เป็นมิตรไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชาย ผู้สูงวัยก็นั่งได้สบายๆ เบาะนั่งก็ใหญ่รับกับช่วงบั้นท้ายได้ดี

หรือในมุมของคนใช้งาน ทั้งสายใช้งานในชีวิตประจำวัน ขี่รถไปทำงาน หรือจะวิ่งงานรับส่งสินค้า อาหาร ใต้เบาะของตัวรถ แถมยังสามารถต่อเติมชิ้นส่วนแร็คท้ายเพื่อติดตั้งกล่องเก็บอาหารได้ง่ายอีก จึงเรียกได้ว่ามันกลายเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถตอบโจทย์ผู้คนหมู่มาก ไม่ใช่แค่หน้าตาดี

คนใช้เยอะ เพื่อนก็เยอะตาม

ท้ายสุด เมื่อถูกใจคนหมู่มาก สามารถใช้งานได้หลากหลายจุดประสงค์ รวมถึงยังมีความคงทนที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วในระดับหนึ่งแบบปากต่อปากจากกลุ่มผู้ใช้กันเอง ยังไม่นับการที่รถมีของเล่นจุกจิกให้เลือกใช้กันมากมายตามกระแสยอดขายในตลาดที่สูง

จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ผู้ใช้หน้าใหม่ ซึ่งกำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ง่ายๆไว้ใช้ติดบ้านสักคัน จะหันมามองหายอดนิยมอย่าง Giorno+ มากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นรถขายดีเบอร์ต้นๆของแบรนด์ Honda ในปัจจุบัน

ความสำเร็จของ Hond A GIORNO+ จะเห้นว่ามาจากหลายปัจจุบันผสมผสาน โดยเพาะตัวรถที่ธรรมดาๆ แต่มีจุดขายของมันเอง รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ไปได้หมด สายชิล หรือสายซิ่งก็มาได้

เมื่อบวกกับความโรยราของคู่แข่ง และการไร้คู่แข่งรายอื่น ลูกค้าจึงตัดสนิใจเลือกรถรุ่นนี้ได้ง่ายขึ้น แม้ว่าจะต้องจับจองและรอกันนานจนบางทีก็ลืมไปแล้วว่าจองเอาไว้

แต่คำถามสำคัญ ตือ ความขลังของรถรุ่นนี้จะอยู่อีกนานมากแค่ไหน ในเมืองตลาดวันนี้เริ่มสุกงอม การเพิ่มการผลิตในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้จะสร้างมนตืวิเศษ ให้รถรุ่นนี้ยังยืนในใจต่อไปในปีหน้าได้มั้ย นับเป็นส่วนที่สำคัญไม่น้อย

อ่านรีวิว Honda Giorno+ ได้ที่นี่