หลังเป็นข่าวบนโลกออนไลน์แบบเลื่อนลอยอยู่นาน ในที่สุด Honda CB500 Super Four / CBR500R Four ก็เผยโฉมขายจริงออกมาแล้วในวันนี้ที่ประเทศจีน
Honda CB500 Super Four / CBR500R Four คือสองรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่จากทาง Honda ที่เชื่อว่าน่าจะมีใครหลายคนรอคอยกันอยู่ เพราะมันคือรถเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงที่สามารถจับต้องได้ง่ายขึ้นยิ่งกว่า 650-Series
โดยหากว่ากันเรื่องของหน้าตา เราจะพบว่าทั้งสองโมเดลจะมีไอเดียในการออกแบบที่ต่างกันอย่างชัดเจน เพราะในฝั่ง CB500 Super Four จะเลือกใช้งานดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถตระกูล Honda Super Four ซึ่งโดดเด่นด้วยไฟหน้ากรอบกลม ด้านล่างมีแตรคู่สุดคลาสสิค, ถังน้ำมันแบบย้อนยุค, ท่อไอเสียทรงกระบอกยาว, เบาะตอนยาว, และท้ายที่เรียวแหลม กับไฟท้ายแบบ LED โดนัทคู่, แถมยังทีสีแบบ Freddie Spencer Grey อันเป็นเอกลักษณ์ของรถ CB Super Four ยุค 90’s เอาไว้อีก
ส่วน Honda CBR500R Four ก็จะได้ชุดแฟริ่งใหม่ ที่ดูโค้งมนสะอาดตามากขึ้น แต่ชุดหน้าและเส้นสายองค์รวมจะดูปราดเปรียวกว่าเดิม โดยเฉพาะด้านหน้าที่พุ่งมากขึ้น แม้ไฟหน้าจะเป็นแบบโคมเดียวแถบยาวที่ดูแปลกตาสักหน่อยก็ตาม, และด้านท้ายก็จะมีการแบ่งเบาะ 2 ตอนชัดเจน
แถมแฟริ่งบนซับเฟรมกับเบาะหลังยังมีการแบ่งระดับชัดเจนรวมถึงดูเล็กเรียวเป็นพิเศษราวกับเป็นรถสปอร์ตเรพลิก้า แม้แต่บังโคลนหน้ายังทำปีกข้างให้หนาและใหญ่เป็นพิเศษเพื่อการแหวกลมออกจากแนวล้อที่ไหลลื่นยิ่งขึ้น
แต่ถ้ามองกันที่ตำแหน่งพักเท้า กับระนาบความสูงของแฮนด์ เราก็จะพบว่ามันยังคงถูกออกแบบมาให้มีความเป็นรถสปอร์ตเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลักอยู่ดี
นอกนั้นในด้านรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆ ทาง Honda ประเทศจีนยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลออกมามากนัก และเผยให้เรารับรู้แค่เพียงว่า
เครื่องยนต์ที่ให้มา จะเป็นบล็อค 4 สูบเรียง DOHC 4 วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 502cc ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยว่าแรงม้าสูงสุด และแรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่เท่าใด แต่ก็มีสื่อท้องถิ่นในประเทศจีนคาดการณ์กันว่าจะอยู่ในช่วงราวๆ 80 แรงม้า
และมันจะทำงานร่วมกับระบบเกียร์แบบมี E-Clutch รูปแบบใหม่ ซึ่งถูกปรับปรุงให้มีขนาดเล็กลง และจะถูกติดตั้งเอาไว้ทางด้านหลังซ้ายของแครงก์เครื่องยนต์ ซึ่งดูแปลกตาอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้เครื่องยนต์ของมัน จะมีวิธีการเดินแนวคอท่อไอเสียกับตำแหน่งกรองน้ำมันเครื่องที่เหมือนกับ เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงของ 650-Series แต่มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเครื่องยนต์ลูกใหม่นี้ จะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆเลยกันเลยกับเครื่องยนต์ข้างต้น เพราะการวางตำแหน่งชิ้นส่วนต่างๆ แทบจะต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งรูปแบบเสื้อสูบ หรือการวางแนวระบบท่อน้ำหล่อเย็นต่างๆ
ส่วนชุดเฟรมของตัวรถ จะเป็นเฟรมแบบโครงเหล็ก Daimond Frame โดยไม่ใช่ของเดิมกับทั้ง Honda 650-Series และ 500-Series แต่จะเป็นแบบใหม่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเครื่องยนต์ลูกนี้โดยเฉพาะ และจะเป็นแบบเมนเฟรม+ซับเฟรมชิ้นเดียว ไม่สามารถถอดแยกกันได้
นอกนั้นชุดล้อหน้า-หลัง กับคาลิปเปอร์เบรกหน้า-หลัง จะยกมาจาก Honda 500-Series ขุมกำลัง 2 สูบเรียงทั้งก้อน แต่มีการปรับจานเบรกให้เป็นแบบกลม และตัวโช้คอัพตะเกียบคู่หัวกลับด้านหน้า ก็เปลี่ยนไปใช้ของ KYB ไม่ใช่ของ Showa ส่วนโช้คหลังก็คาดว่าจะเป็นของใหม่เช่นกัน เพื่อให้รับกับช่วงรถใหม่ทั้งหมด แต่จะยังคงทำงานร่วมกับกลไกแบบมีกระเดื่องทดแรง Pro-Link เช่นเดิม โดยที่สวิงอาร์มแขนคู่เปลี่ยนใหม่เป็นแบบอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปเพื่อความแข็งแรงและสวยงามแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ด้านลูกเล่นอื่นๆที่น่าสนใจของตัวรถ ก็คือการที่มันจะมาพร้อมกับหน้าจอมาตรวัดแบบ Full Digital TFT ขนาด 5.0 นิ้ว แบบยอดนิยมที่ทางค่ายกำลังทยอยใช้ในรถมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่น และรถยังจะใช้ระบบคันเร่งไฟฟ้าหรือ Throttle By Wire
ซึ่งหมายความว่ามันจะมีโหมดการขับขี่ให้ปรับใช้ด้วย โดยจะมีทั้ง Sport, Urban, Rain, และ User อีก 2 โหมด และในโหมดหลังก็หมายความว่าผู้ขี่จะสามารถปรับเซ็ทได้ทั้งค่า ระดับกำลังเครื่อง หรืออัตราการตอบสนองของเครื่องยนต์ต่อคันเร่ง, ความไวของระบบ HSTC, และระดับความหน่วงของแรง Engine Brake ได้อีก
โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ เบื้องต้นยังเป็นการเปิดตัวเพื่อแสดงหน้าตาและข้อมูลตัวรถโดยคร่าวๆเท่านั้น จึงทำให้ทาง Honda ประเทศจีน ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการออกมา
ส่วนการวางจำหน่ายในประเทศไทย ยังต้องรอการอัพเดทข้อมูลอีกครั้ง เพราะแม้รถจะน่าสนใจมากแค่ไหน แต่มันก็อาจจะถูกทำขึ้นมาเพื่อวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้นก็ได้
