ช่วงนี้เราน่าจะได้ยินคำเตือนถึงคลื่นเศรษฐกิจที่กำลังจะถาโถมสู่ประเทศไทยในอนาคต ทั้งเศรษกิจในบ้านเราที่ยังไม่ฟื้นตัวดี และประเด็นอื่นจากต่างประเทศ ทำให้หลายคนเริ่มจะเข้าสู่ Safe Mode สำหรับการใช้เงิน

แต่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ คือ บางครั้งเรามักมองว่า สถานการณ์มันจำเป็นต้องซื้อรถคันใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่กำลังขยาย มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาเติมเต็ม ความสุขของว่าที่พ่อแม่ ที่เรามักพบเสมอคือ การเลือกจะเปลี่ยนรถใหม่ จากรถที่ใช้กระหนึงกระหนิง 2 คน อย่าง ซับคอมแพ็คคาร์ หรือ อีโค่คาร์ ไปสู่รถที่ใหญ่ขึ้นเพื่อเจ้าตัวเล็ก
จากประสบการณ์ผมโดยตรงจากเป็นพ่อคน ต้องยอมรับว่า เรามันกมีไอเดียความคิด โดยใช้คำว่า รับขวัญ มาวางหมากเป็นจุดยืนในการเดินเกมชีวิต ทัง้ที่เราอาจจะยังไม่มีความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนรถ
เหตุผล ที่คนส่วนใหญ่ เลือกซื้อรถ เมื่อมีลูก
ข้อแรกที่อยากจะให้คุณทำ คือดูเหตุผลที่คุณอยากจะเปลี่ยนรถก่อนว่า ทำไมเพราะอะไร
หลักๆแล้วที่มักเป็นเหตุผลสำคัญเลย คือ ต้องการพื้นที่ในการโดยสารและสัมภาระเพิ่ม เพื่อตอบสนองต่อเจ้าตัวเล็กได้ดีขึ้น
โดยเฉพาะถ้าคุณใช้รถยนต์นั่งขนาดเล็กดั้งเดิมมันก็พอต่อการใช้ชีวิต 2 คน แต่เมื่อมีลูก สิ่งที่ต้องพิจารณาตามมาคือ สัมภาระของเจ้าตัวเล็ก โดยเฉพาะเด็กอ่อนในขวบ-2 ขวบแรก เราจะต้องมี หลายสิ่งเช่น กระเป๋าของลูก,รถเข็ญเด็ก คาร์ซีท
สิ่งต่างๆเหล่านี้ จะเป็นสิ่งที่ทำวห้รถคันเก่าของคุณดูคับแคบไปในทันที
ดังนั้ถ้าใช้บรรดาอีโค่คาร์ , รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ต้องยอมรับว่าใช่ครับ คุณควรจะเปลี่ยน เพื่อใช้รถขนาดที่ใหญ่ขึ้นตอบสนองดีขึ้น
แต่ถ้าคุณใช้รถที่มีขนาดใหญ่ประมาณหนึ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ อย่าง Honda Civic , Toyota Corolla ก็ไม่มีความจำเป็นต่อการซื้อรถใหม่ แม้ว่า การมีเจ้าตัวน้อยอาจจะมีของเยอะขึ้น รู้สึกว่าของเต็มรถมากขึ้น แต่รถยังพอจะมีพื้นที่ในการโดยสารที่ดีและตอบสนองต่อใช้งานอยู่
ปัญหาจริงเมื่อซื้อคันใหม่
มีหลายคนไม่น้อย ที่อยากเปลี่ยนรถทันที่ที่มีเจ้าตัวเล็ก บางบ้านเลือกเป็นการซื้อเพิ่มเข้าบ้าน มากกว่าการเปลี่ยน
แต่ไม่ว่าจะเดินทางไหน ที่ตามมา คือการจัดสรรเงินดาวน์ และการต้องมีภาระผ่อนไปอีก 4-6 ปี แล้วแต่กำลังของตัวเอง
ในมุมนี้ จากประสบการณ์ผมสอนว่า ลูกไม่ได้มีความสุขที่นั่งรถใหม่ แต่มีความสุขที่ได้อยู่กับพ่อแม่และรับความสนุขนั้นจากคนที่เขารัก ตลอดช่วง 2 ขวบแรก ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเลี้ยงดูลูกให้มีเติบโตมีสภาวะจิตใจที่ดี และมีคุณภาพชีวิต
ประสบการณ์นี้ได้สอนให้ผม นำมาเล่าและแบ่งปันให้ผู้อ่าน ว่า การซื้อรถคันใหม่เพื่อเจ้าตัวเล็กอาจไม่จำเป็น ถ้ารถคันเดิมของคุณพร้อมอยู่ในระดับหนึ่ง
เราต้องยอมรับว่า การซื้อรถคันใหม่ มีงบประมาณ ดอกเบี้ย และราคาที่ต้องจ่าย
ต้องเป็นหนี้กับสถาบันการเงินไปอีกหลายปี ทั้งที่เงินก้อนหนี้อาจจะเก็บไว้สำรองฉุกเฉินในครอบครัวก็ได้ โดยเฉพาะเราหนี้ไม่พ้นว่า ความจริงเด็กอ่อน ย่อมมีเหตุต้องใช้เงิน เช่นการเจ็บป่วยใหญ่อยู่หลายครั้ง
ในกรณีซื้อแทน ก็อาจจะดีตรงแค่ผ่อนคันเดียวเก่าแลกใหม่กันไปตามเนื้อผ้า อาจขาดทุนบ้างเมื่อต้องขายเปลี่ยนรถคันใหม่ ก็ถือว่าเป็นกำไรใช้ แต่ในกรณีซื้อเพิ่มนั้น ถ้ารถคันเก่ายังผ่อนไม่หมดดี มันก็จะกลายเป็นมีภาระผ่อนสองคัน ซึ่งจะหนักกับเสาหลักครอบครัว ทันที
สรุป ซื้อรถใหม่ เมื่อมีลูกเล็กจำเป็นหรือไม่
ผมขอแยกเป็น 2 มุม ดังนี้ครับ
มุมแรก , ถ้ารถที่คุณใช้ มีความเก่ามาก , มีขนาดเล็ก และถึงรอบที่ต้องเปลี่ยนพอดี การตัดสินใจเลือกซื้อรถคันใหม่ เมื่อมีเจ้าตัวเล็กไม่ใช่เรื่องแปลก
กลับกัน ถ้ารถที่คุณใช้อยู่มีขนาดใหญ่พอประมาณ ยังติดภาระผ่อนอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณอาจจะใช้คันเก่าไปก่อนก็ได้ จนในวันที่ลูกอยู่ในวัยพร้อมเดินทางมากขึ้น อย่างช่วงวัยตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป ถึงเวลานั้น เราจะมาพิจารณา ซื้อรถ อีกที ก็ยังไม่สายครับ