รู้มั้ยว่า ปัญหาของการซื้อรถคันใหม่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ลูกค้าอย่างผมและท่าน มักจะผิดหวังในขั้นตอน การจัดไฟแนนซ์ หรือ กู้ซื้อรถ นี่แหละครับ
กระบวนการไฟแนนซ์รถยนต์ บางครั้งก็เหมือนมิติพิศวง บางคนผ่านง่าย บางคนไม่ผ่าน หลายคนคงมีประสบการณ์มาบ้างไม่มากก็น้อย แน่นอน คำถามคือ เราจะทำอย่างไรให้ยื่นไฟแนนซ์ แล้วผ่านได้ง่ายๆ วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไขความลับ พิชิตไฟแนนซ์ไปพร้อมกัน
ทำไมยุคนี้ ผ่านไฟแนนซ์ ยาก
ก่อนอื่นเลย เชื่อว่าหลายคนสงสัย ทำไมยุคนี้ไฟแนนซ์หิน เคี้ยว ซื้อรถใหม่สักคัน ราวกับฝ่าด่านอรหันต์
การเข้มงวดของไฟแนนซ์ นั่นสะท้อนถึงหลายอย่าง สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ภาวะทางเศรษฐกิจ” ครับ เมื่อคุณเป็นเจ้าหนี้ ก็คงอยากได้ลูกหนี้ที่ดี จริงหรือ ไม่ ไฟแนนซ์ก็เช้นกัน ด้วยภาวะหนี้ครัวเรือนในเวลานี้สูงมาก ทำให้ไฟแนนซ์เคี้ยว มีการคัดกรองลูกค้าอย่างหนักหน่วง
อีกด้าน ก็มาจากการกำหนดนโยบายใหม่ ที่เรียกว่า “Responsible Lending” หรือ การให้กู้ยืมอย่างมีจริยธรรม
นโบายนี้มาจากแบงค์ชาติ หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาตรการกำหนดให้ สถาบันการเงินและสินเชื่อจะต้องดูภาระหนี้ ร่วมกับความสามารถในการดำรงค์ชีวิต โดยเมื่อรวมกับภาระหนี้ใหม่แล้ว ผู้กู้จะต้องมีรายได้ คงเหลือราวๆ 30% เพื่อใช้จ่าย
ผิดกับเดิม ที่มองว่า ผ่อนไหวมั้ย กี่เท่าของยอดผ่อนแต่ละเดือน เท่านั้นก็พอ ไม่ได้มองว่า ผู้กู้จะดำรงชีวิตได้อย่างไร หลังจากเข้าสู่กระบวนการผ่อนชำระหนี้ ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงนัก
ในอีกด้านเราต้องยอมรับว่า สภาพเศรษฐกิจในเวลานี้ ค่อนข้างจะเงียบเหงา มีความแปลก คนที่มีรายได้ประจำ มนุษย์เงินเดือน มีแหล่งรายได้ชัดเจน อาจไม่มีปัญหา แต่เมื่อเรามาดูองค์รวม จากปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น เราต้องยอมรับว่า สภาพไม่สู้ดีนัก
เมื่อสภาพการณ์ไม่ดี ไฟแนนซ์ ก็เสมือนคนๆ หนึ่ง เขาก็หวังว่าปล่อยกู้แล้ว จะได้คืนมั้ย ก็เลยยิ่งเข้มการคัดกรองลูกค้า มากขึ้น
ดังนั้น การเป็นลูกค้าที่ดีได้อะไร ก็นี่แหละครับ เวลาจะไปต่อไม่ยุ่งยากลำบากใจ
ไฟแนนซ์ ประเมินจากอะไร
ก่อนอื่นเลย เราต้องเขาใจไฟแนนซ์ ครับว่า เขามองอะไร ถึงจะปล่อยกู้ เราๆท่านๆ คุณผม เราเคยแต่เดินไปขอสินเชื่อ เราไม่เคยอยู่ในมุมคนปล่อยสินเชื่อมาก่อน
ผมเองไม่ได้ทำงานธนาคาร คุณก็รู้ว่าผมทำงานรีวิวรถ แต่ข้อมูลที่ผมจะเล่านี้มาจาก “เดือน” ภรรยา นอกจากคุณเธอจะมีความชแบเรื่องรถ จนมาช่วยผมทำงาน หน้าที่การงานของเธอก็คือปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าของธนาคารหนึ่งครับ แม้จะไม่ใช่สินชื่อทางด้านรถยนต์ก็ตาม แต่หลักการในภาพรวมก็เหมือนกัน
ไฟแนนซ์ ใช้อะไรในการประเมินบ้าง หลักๆ ก็จะประกอบด้วย
- ที่มาของรายได้ แน่นอนมั่นคง เป็นประจำหรือไม่ มาจากที่ไหนบ้าง
- ภาระหนี้เดิมที่มีในระบบ มีจำนวนเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้
- ความสามารถในการผ่อนชำระหนี้เดิม จ่ายตรงหรือล่าช้าอย่างไรบ้าง
- อายุ อาชีพ และสถานะการทำงาน
แต่ถ้าจะโฟกัสจริงๆ แล้ว เรื่องที่เป็นประเด็นมากที่สุด ส่วนใหญ่ จะมาจาก 3-4 เรื่อง คือ รายได้ ที่มารายได้ ความสามารถการผ่อนชำระหนี้เดิม และ สถานะหนี้ ครับ เป็นปัจจัยหลักในการผ่อนสินเชื่อมั้ย
ปัจจุบัน ด้วยนโยบาย “Responsible Lending” ที่ผมพูดให้ฟังไปในเบื้องต้น เลยมีประเด็นเพิ่มเติมเรื่องยอดหนี้ ที่ต้องไม่เกินรายได้ เมื่อรวมกับยอดหนี้ใหม่ หรือ พูดง่ายๆ คือ ผู้กู้ต้องคงเหลือรายได้หลังการกู้ เืพ่อใช้ในการดำรงค์ชีวิต
จึงจะมีสิ่งที่เรียกว่า DSR หรือ Debt Service Ratio เข้ามาคำนวน ในประเทศไทย เราใช้ตัวเลขไม่เกิน 70% ของรายได้ คิดแบบง่ายๆ ครับ สมมุติ คุณมีรายได้ 15000 ต่อเดือน คุณมียอดหนี้ได้ไม่เกินเดือนละ 10,500 บาท หากเกินกว่านั้น ก็จะไม่ผ่านเกณฑ์ทันที คงจะพอเห็นภาพกัน
โอกาสผ่านการอนุมัติไฟแนนซ์
นอกจากหลักการข้างต้นที่เราทราบว่าตัวเองอยู่ในสถานะใดแล้ว ตอนตัดสินใจซื้อรถก็สมควรจะต้องพิจารณาให้ถี่ก้วน รอบคอบก่อนตัดสินใจยื่นไฟแนนซ์ ด้วยครับ
- ไม่ซื้อรถเกินความจำเป็น ควรเลือกรถที่มีราคาเหมาะสม และมั่นใจโดยสามารถคำนวนคร่าวๆจากตารางผ่อนดาวน์ ว่าคุณสามารถชำระไหว แน่นอน
- พยายามดาวน์สูง มากกว่า 20% ขึ้นไป เพื่อลดภาระผ่อนรายเดือน ในทางเจ้าหนี้ ก็มองว่า ลูกค้ามีความเสี่ยงน้อยลงด้วย เพราะยอดจัดน้อยลงตาม
- อย่าใช้กลยุทธ์ผ่อนนาน ควรเลือกการผ่อนที่เหมาะสม ทั้งระยะเวลา และยอดผ่อน
- เตรียมผู้คำไว้บ้างแม้จะวางดาวน์สูง ควรเป็นคนในครอบครัว และมีเครดิตดี
เอกสาร ใช้ในการยื่นไฟแนนซ์
เอาล่ะ ช่วงเวลาสำคัญมาถึง คือ คุณต้องเตรียมเอกสารยื่นไฟแนนซ์ ปกติแล้วใช้อะไรบ้าง
- สำเนาบัตรประชาชน
- สลิปเงินเดือน / ใบรับรองเงินเดือน
- statementธนาคาร ย้อนหลัง 6 เดือน
- หนังสือรับรองบริษัท หรือ ใบจดทะเบียนการค้า (ถ้าเป็นเจ้าของกิจการ)
ในกรณี นิติบุคคล ยื่นขอไฟแนนซ์ จะมีเอกสารคล้ายกัน แต่จะมีการเพิ่มเติมในส่วนของนิติบุคคล ได้แก่
- หนังสือรับรองบริษัท
- บัตรประชาชนของกรรมการ ที่มีอำนาจลงนาม ทั้งหมด
- หนังสือส่วนประกอบบริษัท เช่น ตราประทับ และ หนังสือผู้ถือหุ้นในกิจการ
ส่วนการแสดงรายได้ ก็เหมือนเดิม คือ การใช้สเตทเม้นท์ธนาคาร ย้อนหลัง 6 เดือน เพื่อแสดงรายรับที่เกิดขึ้น
ทีนี้คนจำนวนไม่น้อย ในปัจจุบันมีรายได้หลายทาง อาจจะทำงานประจำ ตกเย็นกลับมาขาของออนไลน์ เป็นต้น จะทำอย่างไร
ดีที่สุด คือคุณต้องจัดระเบียบทางการเงินให้ชัดที่สุด เท่าที่จะทำได้ โดยแยกบัญชีรับโอนจากการขายของ กับ รายได้ประจำ ไม่ควรปนกัน เวลายืนกู้จะได้ชัดเจนว่า คุณมีรายได้ 2 ทาง
ในกรณีที่คุณมีอาชีพเสริมที่เป็นอาชีพอิสระ สามารถเพิ่มเอกสารให้ไฟแนนซ์พิจารณาได้ ดังนี้
- ทำหนังสือชี้แจงรายได้เพิ่มเติม โดยเขียนเป็นจดหมายทางธุรกิจ ชี้แจง ว่าคุณชื่ออะไร ทำกิจการอะไร มีที่มาของเงินนอกจากรายได้ประจำ พร้อมแนบภาพเอกสาร หลักฐานของการประกอบกิจการ
- แสดงเสตทเม้นที่มาจของรายได้เพิ่มเติมแยกจากรายได้หลัก (ผมถึงแนะนำว่า ควรแยกบัญชีธนาคาร)
- ในกรณีเป็นงานแบบมีสัญญาจ้าง รายปี ให้แนบเอกสารสัญญาจ้างให้ไฟแนนซ์ พิจารณาเพิ่มเติมด้วย
เพียงเท่านี้ ไฟแนนซ์จะเห็นว่า คุรมีรายได้ 2 ทาง มีที่มาชัดเจน ช่วยให้คุณผ่านไฟแนนซ์ง่ายขึ้นอย่างแน่นอนครับ
วิธีเลือกไฟแนนซ์
พูดตามตรง กว่า ร้อยละ 90 ของคนซื้อรถส่วนใหญ่ จะไม่เลือกไฟแนนซ์เอง แต่จะเดินตามที่ผู้ผลิตรถยนต์ หรือเซลล์แนะนำ
ข้อดีคือ เวลามีปัญหา เซลล์จะช่วยคุณดันเคสเต็มที่ คนที่จะร่วมสุ้กับไฟแนนซ์ไม่ได้มีแค่เรา แต่ถ้าคุณเลือกเองไฟแนนซ์ ทั้งหมดในขั้นตอนนี้คือธุระของคุณ ที่ต้องจัดการเองจากต้นจนจบ
ปัจจุบันไฟแนนซ์ มีหลายเจ้า มีรายเล็กรายใหญ่ แต่ส่วนใหญ่เราจะนิยมใช้ไฟแนนซ์ในภาคธนาคาร หรือเป็นบริษัทลูกของธนาคาร
แต่ความจริงแล้ว ไฟแนนซ์ ประเภทของบริษัทรถยนต์แยกกระเป๋าออกมา ที่เราได้ยินคำว่า Leasing ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า ,นิสสัน , อีซูซุ , โตโยต้า เหล่านี้เป็นไฟแนนซ์ของค่ายรถเอง ซึ่งพยายามจะดันเคสให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของรถมากขึ้น ในแง่โอกาสผ่าน มีโอกาสสูงมากกว่า เพราะเสมือนเขามีส่วนได้ส่วนเสียกันเอง
อย่างไรก็ดี ,ถ้าเพื่อนๆจะถามว่ าฉันมีสิทธิเลือกไฟแนนซ์เองได้มั้ย บางทีผ่อนรถคันเก่ากับเจ้านี้และมีประวัติดีเป็นลูกค้าชั้นเลิศมานาน
ตอบว่า ทำได้ครับ คุณสามารถเดินเข้าไปขอเจตจำนงค์ในการยื่นสินเชื่อกับทางสถาบันการเงินเองก็ได้ เพียงแค่ต้องติดต่อเองทั้งหมด
ส่วนที่สำคัญที่สุด คือ สมควรจะดูดอกเบี้ย ที่ทางไฟแนนซ์เสนอมา ว่าคุณต้องจ่ายเท่าไร บางเจ้ารถแบรนด์ A อาจสูงกว่า B
ด้วยเหตุนี้ การที่เราเลือกไฟแนนซ์ ที่น้องๆ พนักงานขายเลือกมา ย่อมจะดีกว่า มีโอกาสผ่านง่ายกว่า เพราะทั้งน้องๆเขาช่วย และยังพอเจราจาไฟแนนซ์ได้อยู่บ้างครับ
ถ้าไฟแนนซ์ไม่ผ่านทำอย่างไร
ในหลายครั้งเมื่อยื่นไฟแนนซ์ไปแล้ว เราจะเจอกับด่านอรหันต์ ไฟแนนซ์ปฏิเสธการขอกูของเราแบบนี้ เราควรจะทำอย่างไรดี หลายคนคงคิดไม่ตก
- ขอข้อมูล ถึงสาเหตุที่ไฟแนนซ์ปฏิเสธคุณ จะได้รู้ว่า เรามีปัญหาอะไร แล้วจะได้แก้ไขต่อไป
- เมื่อแก้ไขข้อบกพร่องตามข้อ 1 แล้ว ให้หาไฟแนนซ์อื่น ยื่นแทนที่เดิม โดย ควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน
- เปลี่ยนรุ่นรถให้มีราคาต่ำลง หรือ ลองขอยืนดาวน์สูงขึ้น หากต้องการรถรุ่นเดิม
แต่หากยื่นไปครั้งที่ 2 ไม่ผ่าน ควรตัดสินใจถอนจองแล้วมาจัดระเบียบการเงินใหม่ก่อน บางทีมันอาจเป็นชะตาของคุณ เพราะ รถใหม่เมื่อยิ่งอายุนาน โปรโมชั่นมันยิ่งดีครับ
ถาม-ตอบ เรื่องไฟแนนซ์ ขอกู้ซื้อรถ
Q: ไฟแนนซ์รถดูอะไรบ้างก่อนอนุมัติ?
A: ธนาคารจะดูรายได้ประจำ ความมั่นคงของอาชีพ เครดิตบูโร และภาระหนี้ที่มีอยู่ เช่น บัตรเครดิตหรือหนี้บ้าน
Q: ไม่มีสลิปเงินเดือน ยื่นไฟแนนซ์ได้ไหม?
A: ได้ครับ ถ้ามี Statement ธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน หรือใบรับรองรายได้จากบริษัท/ตนเอง (กรณีฟรีแลนซ์หรือเจ้าของกิจการ)
Q: ถ้าเคยติดเครดิตบูโร จะขอไฟแนนซ์ผ่านได้ไหม?
A: โอกาสมีครับ แต่จะยากขึ้น อาจต้องใช้ผู้ค้ำ หรือดาวน์มากกว่าปกติ เช่น 30-40% เพื่อสร้างความมั่นใจให้ไฟแนนซ์
Q: การผ่อนนานขึ้น เช่น 84 เดือน ช่วยให้ผ่านง่ายไหม?
A: ช่วยลดค่างวดรายเดือน ทำให้ DSR ต่ำลง อาจช่วยให้ผ่านง่ายขึ้น แต่ต้องพิจารณาดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตามไปด้วย
Q: การมีรายได้ไม่แน่นอน สามารถขอไฟแนนซ์ได้มั้ย?
A:ได้ครับ แต่ต้องมีภาพของรายได้ที่ชัดเจน โดยเฉพาะรายได้ที่เข้ามาหาคุณจริงๆ ไม่ใช่รายได้เงินหมุนในกิจการ ควรพิจารณาทำ บัญชีแยกเอาไว้ และโอนรายได้ส่วนตัวคุณเข้ามา จะดีกว่า
มาถึงตรงนี้หลายคน คงจะพอทราบเรื่องราวของไฟแนนซ์ และเข้าใจพวกเขามากขึ้นไม่มากก็น้อย ไฟแนนซ์ไม่ใช่ไม่อยากปล่อยกู้ แต่ก็ต้องการอยากได้ผู้กู้ที่มีคุณภาพเช่นกัน
ดังนั้นสำคัญสุด หากเราเตรียมพร้อมในการกู้ไฟแนนซ์มาอย่างดี และมีประวัติขาวสะอาด ก็ไม่ต้องกลัครับ แต่อย่างว่ายุคนี้ หลายคนก็คงจะมีภาระเยอะ ไม่แปลกที่ไฟแนนซ์ก็กังวลกลัวจะหนี้สูญ