ในยุคสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นในการใช้รถ ระบบบำบัดไอเสียยุคใหม่เริ่มเดินทางมาถึงเมืองไทย พร้อมกับความสับสน หรือไม่เข้าใจ ในผู้ใช้หลายคน
DPF หรือ Diesel Particulate Filter เป็นอุปกรณ์กรองเขม่าไอเสียที่ออกมาจากห้องเผาไหม้ ดักจับเขม่าในระหว่างการขับขี่ อุปกรณ์ชิ้นนี้ติดตั้งมาในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5 ทุกรุ่น
แต่ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นนี้ จึงเกิดพฤติกรรมใหม่ในรถคู่ใจของหลายคน ผู้ผลิตอาจบอกไว้แล้วในคู่มือประจำรถ หากก็ยังทำให้หลายคนชวนฉงนสงสัย กับคำว่า “DPF Regen”
“DPF Regen” ย่อมาจากคำว่า Diesel Particulate Filter Regeneration หรือพูดให้เข้าใจง่าย คือกระบวนการเผาเขม่าทำให้กรองไอเสียอยู่ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมสำหรับการใช้งานในอนาคต
ต้องเข้าใจก่อนว่า กรองเขม่าตัวนี้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยๆ แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ เขม่าจะเริ่มอุดตันจนไม่สามารถกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิศวกรหัวใสได้คิดกระบวนการทำลายเขม่า ด้วยการใช้ความร้อนสูงจากห้องเผาไหม้ ช่วยในการเผาเขม่าที่เกาะอยู่กับชุดกรองออกไปให้หมด โดยจะทำงาน 3 รูปแบบสำคัญ คือ
1.Passive Regen จะเกิดขึ้นเมื่อเราขับรถด้วยความเร็วขณะเดินทางไกล ต่อเนื่อง 100-200 ก.ม. ความร้อนจากการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพียงพอต่อการล้างเขม่าในกรอง จนสะอาดหมดจด ไม่รบกวนต่อการใช้งาน หรือ ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความผิดปกติของตัวรถ
2.Active Regen วิธีการนี้เป็นกระบวนการที่ ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักยกมาถกปัญหาในคาร์คลับเป็นประจำ อาจด้วยยังไม่เข้าใจกระบวนการนี้
การรีเจนแบบนี้จะเกิดขึ้น เมื่อเขม่าในกรองเริ่มอุดตัน ระบบจะทำการสั่งงานให้รถทำให้ ฉีดน้ำมันมากขึ้นในกระบวนการเผาไหม้ เพื่อสร้างไอเสียมีความร้อนสูงไปผ่านกรอง แม้ว่าจะวิ่งด้วยความเร็วต่ำ
เมื่อกระบวนการนี้เกิดขึ้น ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะสังเกตได้ทันทีว่ารถจะกินน้ำมันมากขึ้น และอาจมีอาการคันเร่งหนืดๆบ้างในรถบ้างรุ่น รวมถึงหน้าจอจะขึ้นสถานะกำลังทำงานมักเป็นสัญลักษณ์สีส้มต่อเนื่อง และจะดับเมื่อการทำงานสิ้นสุดลง ส่วนใหญ่จะใช้เวลาราวๆ 15-30 นาที แล้วแต่ว่า เขม่าในกรองมากหรือน้อยแค่ไหน
3.ทำงานโดยผู้ใช้ ตามปกติ รถยนต์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลสมัยใหม่จะมีปุ่มเผาเขม่า หรือถ้าไม่เป็นปุ่ม ก็จะอยู่ในซอฟแวร์ของรถ เราสามารถกดให้มันทำงานเอง ในระหว่างการใช้รถได้เลย
ตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สมควรทำการรีเจน DPF ทุกๆ 2-3 เดือน เพื่อคืนสภาพกรองเขม่าดีเซล ยิ่งถ้าคุณไม่ค่อยเดินทางไปไหน สมควรจะทำอย่างยิ่ง
เมื่อกดแล้วกระบวนการจะคล้ายๆ กับวิธีการ Active Regen ทำงานราวๆ 15-30 นาที และจะตัดการทำงานเองโดยอัตโนมัติ
ถึงฟังดู การมี DPF ดูเหมือนวุ่นวายกว่าประโยชน์ที่ได้รับ แต่ความจริงแล้ว หากใช้จนคุ้นชิน ก็ไม่ยากมากนัก
ผม อยากแนะนำเพื่อนๆที่ใช้ดีเซลรุ่นใหม่ๆ ว่า หาโอกาสขับรถเล่นใช้ความเร็วบ้าง ถ้าอยู่ในเมืองไปวิ่งใช้ความเร็วอย่างต่อเนื่องบนทางด่วน ด้วยความเร็ว 90-120 ก.ม./ช.ม.เป็นเวลา 20-30 นาที ไม่ต้องทำแบบตั้งใจ แต่แทนที่จะขับเป็นแมวย่องไปตามทางปกติ อาจเปลี่ยนสลับขึ้นทางพิเศษดู เพื่อหาโอกาสเผาเขม่า
ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกันโดยตรง แต่การรีเจน DPF ไม่เพียงมีประโยชน์เรื่องอากาศสะอาดเท่านั้น เนื่องจากกระบวนการรีเจน DPF ต้องใช้ความร้อนสูง หากเรารอให้มันทำเอง จะใช้การฉีดน้ำมันเข้าไปเพิ่มโดยเปล่าประโยชน์ หรือเสียน้ำมันไปฟรี
การขับรถด้วยความเร็วต่อเนื่องบ้าง ไม่เพียงช่วยให้กรองเขม่าสะอาด แต่ยังช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน เนื่องจากเขม่าสะสมส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยตรง ด้วยครับ