รถอเนกประสงค์ยังเป็นรถยนต์กลุ่มที่ได้รับความนิยมและสนใจมายาวนาน แต่ในปี 1-2 ปีที่ผ่านมา กระแสการออกแบบรถแนวนี้กลับเปลี่ยนไป จากการเป็นรถที่มีความปราดเปรียวสปอร์ตดูเท่ห์ มาเป็นทรงกล่อง Boxy Design มากขึ้น

กระแสนี้ระบาดไปในรถ SUV ทุกรุ่นที่เปิดตัวออกมาใหม่ๆ ไม่แม้กระทั่งกับในประเทศไทย เราเริ่มเห็นมาตั้งแต่ Ford Everest มาจนถึง การมาของ Honda CR-V และ Hyundai Santa fe รถเอสยูวีใหม่ๆ เป็นทรงกล่อง และมีแนวโน้มในความเหลี่ยมมากขึ้นตามลำดับ

ทรงเดิมกลับมาใหม่

จะว่าไป รถอเนกประสงค์ทรงเหลี่ยมไม่ใช่เรื่องใหม่ ย้อนไปในยุคปี 1980 และ 1990 จุดเริ่มต้นของรถยนต์อเนกประสงค์ใ

ดั้งเดิมรถกลุ่มนี้ก็มาพร้อมทรงเหลี่ยมสัน เนื่องจากมันมาจากรถลุย ความเหลี่ยมเป็นหนึ่ง การสะท้อนภาพความแข็งแกร่ง บึกบึนดุดัน ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อรถแบบนี้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในวันว่างและต้องพร้อมลุย

แต่แล้ว โลกก็ค้นพบว่า ทรงแกร่งเหลี่ยมๆนั้น มีปัญหาหลายข้อ ไม่ว่า เรื่องความประหยัดน้ำมัน เนื่องจากความเหลี่ยมสัน เป็นต้นตอของการต้านลม ทำให้เครื่องยนต์ และตัวรถค่อนข้างกินน้ำมัน รวมถึงยังมีประเด็นสำคัญในเรื่องการเก็บเสียง

ไม่เพียงเท่านี้ ยุคที่ SUV ตั้งไข่ ยังเป็นช่วงที่เรื่องความปลอดภัยในรถยนต์เริ่มก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญ กับการออกแบบ

ทรงเหลี่ยมมีประเด็นสำคัญ ต่อการชนคนเดินเท้าพอสมควร จากการศึกษาหน่วยงานทางด้านความปลอดภัยในอเมริกา และทั่วโลก พบว่า มีโอกาสที่ผู้ถูกชน อาจจะบาดเจ็บสาหัส หรือถึงขั้นเสียชีวิต เมื่อเกิดเหตุ

เป็นแรงผลักสำคัญให้ยอดขาย SUV ลดลง ก่อนจะกลับมายืนได้ในยุค 2000 หลังจากมีการออกแบบตัวรถให้มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยใช้หน้ากดต่ำ พกความสปอร์ตปราดเปรียว ทำให้เวลาชนจะไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บมากนัก

จนในที่สุด เอสยูวี ก็กลายป็นรถที่มีทุกบ้านอย่างในวันนี้

กล่องยุคใหม่ ที่ใส่ใจมากกว่า

ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัย ถ้าทรงกล่องมันแย่แล้ว ทำไมยุคนี้มันถึงกลับมาได้

เราต้องเปิดอกยอมรับก่อนว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยียานยนต์รุดหน้าไปไกลมากๆ โดยเฉพาะทางด้านความปลอดภัย รถทุกวันนี้มีระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน และเชิงปกป้อง ให้มาอย่างครบเครื่อง หรือที่หลายคนอาจจะรู้จักในนาม ADAS จนปลอดภัยขึ้นมากกว่าเมื่อ 20-30 ปี

แต่เรื่องนั้นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ทรงกล่องกลับมาในวันนี้ อีกประการที่สำคัญ คือการเข้าสู่ยุคเครื่องยนต์ไฮบริดเต็มตัว

เครื่องยนต์ไฮบริดมีความประหยัดเป็นทุนเดิม ทำให้ความกังวลเรื่องความประหยัดน้ำมันน้อยลง เช่นกันมันยังช่วยเรื่องการปล่อยไอเสียน้อยลง ที่เคยเป็นปัญหาคลาสสิกในแง่การออกแบบรถยนต์

การติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดเข้ามา ทำให้ทรวดทรงปราดเปรียวเพรียวลมดั้งเดิม ไม่เป็นประเด็นแบบในวันวาน เนื่องจากระบบขับเคลื่อนมีความสามารถมากขึ้น และปัจจุบันลูกค้าพร้อมจ่ายกับพวกมันด้วย

สิ่งที่ผู้ผลิตต้องการ คือ จุดขายมากกว่าแค่ความประหยัด ที่ทุกค่ายอาจมีเหมือนๆ กัน นั่นคือ การออกแบบที่ต้องโดนใจแปลกแตกต่าง ตั้งแต่แรกเห็น

ยกตัวอย่างเช่น Hyundai Santa Fe ใหม่ที่ออกแบบรถมาเป็นทรงกล่องทั้งคัน ผิดกับรุ่นเดิมที่มีความปราดเปรียวหรูหราทันสมัย ใครเห็นก็ว่าเป็นครอสโอเวอร์มที่ดูเท่ห์ ตั้งแต่แรกเห็น

Boxy = Win-Win

ไม่เพียงเท่านี้ข้อดีของทรง Boxy ยัง Win -Win ทั้งผู้ผลิตและลูกค้า

ในแง่ผู้ผลิต ทรงกล่องช่วยลดต้นทุนในการทำชิ้นส่วน โดยเฉพาะการปั้มขึ้นรูปตัวถัง มีความง่ายและต้นทุนถูกกว่ารูปทรงตัวถังแบบโค้ง

กลับกันมุมผู้ใช้ นอกจากได้ดีไซน์โดนใจ รถดูเท่ห์ทุกครั้งที่เห็นไม่น่าเบื่องเมื่อใช้ไปนานๆ ยังได้ความรู้สึกโปร่งสบายในการโดยสารมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากทรงกล่องจะมอบพื้นที่มากขึ้น ทำให้รู้สึกโปร่งกว่า

รวมถึงยังมีพื้นที่สัมภาระจุมากกว่า ลดการเสียพื้นที่ไปกับงานออกแบบตัวรถเดิม ที่ไม่ได้เกิดประโยชน์ นอกจากคำว่า “สวยงาม” มันอาจเท่ห์แต่ไม่ค่อยได้ประโยชน์ในการใช้งานเท่าไร

กล่องยุคนี้ เพรียวลม..กว่าเดิม

หลายคนอาจจะสงสัยว่า “ทรงกล่องแบบนี้ มันก็ต้านลม ไม่ใช่หรือ”

ความจริงแล้วเปล่าเลย ทรวดทรงกล่อง สมัยใหม่ค่อนข้างเป็นมิตรกับลม ด้วยเทคนิคต่างๆที่ถูกพัฒนาให้ทรงกล่องก็สามารถทำค่าสัมประสิทธิเสียดทานอากาศต่ำ ได้เช่นกัน

ทรงเหลี่ยมยุคใหม่ เก็บพวกมุมต่างๆให้มีความโค้งมล หรือถึงเป็นกล่องก็แอบมีความโค้งให้ความแบน เพื่อช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดีกว่า ทรวดทรงงานออกแบบลู่ลมดั้งเดิมที่เราคิดว่า มันดูจะเพรียวลมมากกว่า

ไม่เพียงเท่านี้ บรรดานักออกแบบรถยนต์ยุคนี้ ยังเรียนวิชาหลักอากาศพลศาสตร์ติดปลายนวมมาด้วย ไม่ใช่แค่มีไอเดียทางด้านงานออกแบบเท่านั้น พวกเขาเริ่มรู้ว่าวิศวกรต้องการอะไร และเลือกที่จะใส่มันไปเป็นรายละเอียด เพื่อทำให้รถทั้งคันมีความลู่ลม ไม่ได้มีดีเพียงแค่ทรงดีเท่านั้น

ยกตัวอย่างเช่น Tesla Cybertruck มีค่าสัมประสิทธิเสียดทานอากาศ 0.384 cd เท่านั้น หรือ อย่าง Hyundai Santa fe 2025 มีค่าสัมประสิทธิเสียดทานอากาศอยู่ที่ 0.294 cd

ปกติแล้วค่าสัมประสิทธิเสียดทานอากาศรถทรงกล่องแบบนี้ ไม่น่าจะตัวเลขต่ำนัก แต่ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำแทบจะเป็นเพดานเดียวกับรถเก๋ง

เป็นการยืนยันว่า รถทรงกล่องสมัยใหม่ไม่ได้ต้านลมอย่างที่หลายคนคิด

แถมสำหรับลูกค้าคนรุ่นใหม่ มักชอบไลฟ์สไตล์ทางด้านการผจญภัย ถทรงกล่องจึงเติมเต็มความรู้สึกเป็นนักผจญภัย แม้ว่าในชีวิตวันทำงานจะขลุกในออฟฟิศ​ แต่ทุกครั้งที่ขึ้นรถสามารถสัมผัสได้ถึงอีกด้านของชีวิตที่เพรียกหาใช้เวลาในวันว่าง

ความกังวล ต่อเรื่องความปลอดภัย ที่มากขึ้น

แม้ว่า SUV ทรงกล่องจะกลับมาแล้วอย่างเต็มภาคภูมิ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ลบข้อจำกัดของมันในหลายๆ ด้าน แต่เทรนดืนี้อาจอยู่ไม่นานตราบใดที่โจทย์ทางด้านความปลอดภัย ยังเป็นปัญหาสำคัญ

เมื่อปี 2024 หน่วยงานทางด้านความปลอดภัย NHTSA ออกรายงาน เรื่องความปลอดภัยสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิตของคนเดินเท้า จากรายงานดังกล่าวชี้ว่าในช่วงปี 2013-2022 ยุค SUV ทรงเพียวทำตลาด มีคนเดินเท้าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากถึงร้อยละ 57 เริ่มนำความกังวลมาสู่ตลาดรถ SUV สมัยใหม่ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีก่อน

ต่อมาทาง IIHS ออกมารายงานต่อว่า ประเด็นสำคัญที่สุดมาจาก การออกแบบตัวรถให้มีทรงตัน และมีความสูง ทำให้เมื่อเกิดการชนคน นอกจากการบาดเจ็บรุนแรงที่ช่วงเอว และต้นขา แล้ว ศีรษะที่กระแทกลงบนฝากระโปรงหน้ายังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต โดยเฉพาะ รถที่มีความสูงตัวรบและฝากระโปร่งหน้าเกินระยะ 40 นิ้ว ขึ้นไป และไม่มีแนวลาดเททางด้านหน้า

ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงต่อการทำให้คนเดินเท้าเสียชีวิตมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น

แต่นั่นก็ยังไม่ได้ทำให้ บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายกังวลใจมากนัก เนื่องจากวางใจในระบบ ADAS ที่มีความทันสมัยมากขึ้น และยังมีการพัฒนาต่อเนื่อง จนเราแทบจะพูดได้เต็มปากว่า รถสมัยใหม่เกิดอุบัติเหตุน้อยลงกว่าเดิมพอสมควร ลดความเสียงได้รอบด้าน ขับแล้วมั่นใจกว่าวันวานเยอะ พอสมควร

มาถึงตรงนี้ เทรนด์ใหม่ SUV ทรงกล่อง เริ่มชัดมากขึ้น โดยเฉพาะบรรดารถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีทีผ่านมา

มันช่วยลดความน่าเยื่องรถ SUV ที่ต้องออกแบบมาเป็นทรงปราดเปรียวประหนึ่งกึ่งรถสปอร์ตจำแลงกายมาลุย ในช่วงก่อนหน้านี้ แต่กระแสนี้จะยืนยงนานหรือไม่ ปัญหาสำคัญมีหลายปัจจัยเกี่ยวเนื่อง โดบเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัยที่หน่วยงานความปลอดภัยทั้งหลาย ยังคงกังวลว่า ทรงแบบนี้อาจคือ “เพชรฆาตคนเดินเท้า”

มันอาจจะหล่อ เท่ห์!! โดนใจ แต่เรื่องความปลอดภัยยังเป็นการบ้าน ให้วิศวกรและนักออกแบบต้องขบคิดกันต่อไป

แต่อย่างน้อยที่สุด มันเป็นทรงซื้อใจลูกค้าทุกด้าน ทว่าเมื่อความปลอดภัยไล่กวดถามหา … มันอาจทำให้ รูปทรงแบบ Boxy+ Curvy แนวผสมผสาน เป็นเส้นทางแห่งอนาคตที่ยืนยง.. ใน SUV