ตั้งแต่ GWM ประกาศรับประกันเครื่องยนต์ดีเซลใน GWM Tank 300 Diesel ว่า “8 ปี หรือ 1,000,000 กิโลเมตร” หลายคนหูผึ่งทันที พร้อมพากันสงสัย ทำไมค่ายจีนช่างกล้าอะไรเบอร์นั้น นับตั้งแต่ค่ายจีนรายหนึ่งเคยประกาศ พอมาวันนี้ก็เหมือนท้าทายตลาดเครื่องยนต์สันดาปแบบเต็มตัว

หลายคนอาจคิดว่า นี่เป็นแค่การใส่ตัวเลขให้ดูว้าวเฉย ๆ หรือเปล่า? แค่ขายฝัน เรียกคนให้สนใจแบรนด์? แต่พอได้ฟัง Mr. Michelle Scotti ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาเครื่องยนต์และแชสซีของ GWM ที่บินตรงมาในงาน GWM Tank 300 Diesel Tech Days พูดบนเวที ก็รู้สึกได้เลยว่า เขามั่นใจจริง ๆ ว่าเครื่องยนต์ลูกนี้ “มันน่าจะพร้อมลุยล้านโลจริง ๆ”
ถ้าจะสรุปจากสิ่งที่มิเชลเล่าให้ฟัง การที่เขามั่นใจว่าทำได้ มีอยู่ 2 ส่วนสำคัญคือ:
- การทดสอบเครื่องยนต์อย่างเข้มข้น
- การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานระยะยาว
การทดสอบเครื่องยนต์
มิเชลบอกชัดว่า เครื่องยนต์ตัวนี้ผ่านการทดสอบเข้มข้นมาก ๆ จนครอบคลุมตัวแปรกว่า 99% ที่อาจมีผลกับความทนทานในระยะยาว เช่น:

- Thermal Shock Test: อัดร้อนอัดเย็นสลับกัน 300 ชั่วโมง
- Full Throttle Test: เร่งเต็มพิกัด 500 ชั่วโมง
- Load Cycle Test: สลับโหลดเบาหนักอีก 650 ชั่วโมง
- วิ่งทดสอบรวมกว่า 6 ล้านกิโลเมตร (แม้จะไม่ใช่เครื่องเดียววิ่งทั้งหมด แต่นั่นก็บ่งบอกถึงความทุ่มเท)
GWM ยังลงทุนไปไม่น้อยกับการพัฒนาเครื่องยนต์นี้ โดยใช้งบกว่า 1 พันล้านบาทไทย และลงทุนสร้างศูนย์ R&D พร้อมห้องแล็บพัฒนาเครื่องยนต์ครบวงจร ด้วยเม็ดเงินกว่า 2,500 ล้านบาท
ในประเทศไทยเอง มิเชลบอกว่า ที่ทดสอบมาเพียงพอแล้วกับสภาพการใช้งานของลูกค้าคนไทย เขามั่นใจว่าต่อให้หมดประกัน ก็ยังใช้งานได้ยาวนานแน่นอน
เครื่องไม่แรงเวอร์…แต่มาเพื่ออยู่ยาว
ตอนเปิดตัวอาจไม่ได้รู้สึกว้าว แต่พอมองลงรายละเอียดจะเห็นว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรดีเซลตัวนี้ถูกออกแบบมาให้ทนทานแบบสุด ๆ เช่น:
- หัวฉีดแรงดัน 2,000 บาร์ (ต่ำกว่าหลายค่าย) เน้นทน ไม่ซับซ้อน
- ฝาสูบหล่อเย็น 2 ชั้น ช่วยระบายความร้อนดีเยี่ยม โดยเฉพาะสายลุย
- ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบแปรผัน สั่งการตามรอบเครื่อง ประหยัดพลังงานและลดภาระเครื่องยนต์
- สายพานไทม์มิ่งปกติ เปลี่ยนทุก 80,000 กม. เส้นละไม่ถึง 2,000 บาท ใช้ง่าย ซ่อมง่าย
แรงม้า 184 แรงบิด 480 นิวตันเมตร อาจไม่ว้าวเท่าตัวเลข 200+ แรงม้า แต่แรงพอใช้งาน และออกแบบมาเพื่อให้ “อยู่ทน ถึก ลุยได้”
ระบบไอเสียก็คิดมาละเอียด
ทาง GWM ใช้แนวคิดคล้ายค่ายใหญ่จากญี่ปุ่น เลือกเทอร์โบเดี่ยวแบบไม่ซับซ้อน เพราะดูแลง่าย ซ่อมไม่แพง และทนใช้งานได้นาน จริงๆ เทอร์โบ 2 ลูก เท่ากับ ความร้อนX2 วิศวกรทุกคนต่างทราบดี
นอกจากนี้ยังใช้ระบบ Dual-Loop EGR (มีทั้งแบบแรงดันสูงและต่ำ) เพื่อจัดการไอเสียให้สะอาดขึ้น โดยระบบนี้ทำงานตามรอบเครื่องยนต์ ช่วยลดเขม่าดีเซลอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ใช้เองก็ต้องมีส่วน
แม้เครื่องยนต์จะทนแค่ไหน แต่ถ้าเจ้าของไม่ดูแลก็จบเหมือนกัน มิเชลทิ้งท้ายว่า:
“อยากให้เครื่องอยู่ยาว เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กับกรองน้ำมันเครื่องบ่อย ๆ แค่นั้น”
เพราะเขม่าที่เกิดจากการเผาไหม้ของดีเซล มันเหมือนผงทรายเล็ก ๆ ถ้าหมุนเวียนอยู่ในเครื่องนาน ๆ จะลดประสิทธิภาพการหล่อลื่นและการระบายความร้อน เรื่องนี้ต้องช่วยกันจะหวังทนทานจากมือวิศวกรอย่างเดียวไม่ได้

แล้วน้ำมันไบโอดีเซล B7 ล่ะ?
ผมถามต่อว่า น้ำมันที่ขายในไทยเป็น B7 จะมีผลมั้ย? มิเชลบอกว่า เครื่องยนต์ไม่กลัว แต่ชิ้นส่วนพวกท่อยางกับพลาสติกบางจุดอาจจะเสื่อมเร็วกว่าปกติ เพราะคุณสมบัติของไบโอดีเซลที่กัดวัสดุเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นน่ากังวล
ลองสัมผัสคิดว่าไง
เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ Tank 300 Diesel มาลองขับจริงบนถนน ผมเริ่มรู้แล้วว่าทำไม เขามั่นใจว่ามันจะทนทานมาก อย่างแรก เครื่องยนต์ถูกจูนดักหลายอย่างเช่นการเร่งแรง จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วรีบปรับตัดเกียร์ไแทำให้เครื่องยนต์ขับคงที่มากที่สุด
นอกจากนี้การทำงานของเครื่องยนต์มักมช้รอบเครื่องไม่สูงมาก ส่วนใหญ่ป้วนเปี้ยนที่ 1,600 รอบต่อนาที เมื่อเครื่องยนต์เดินรอบไม่สูงนัก ความร้อนสะสมในระบบก็ค่อนข้างต่ำตามไปด้วย
นั่นจึงอาจเป็นสาเหตุของความมั่นใจว่ามันจะทนทาน เวลาขับอาจรู้สึกขัดใจกันสักหน่อย เรื่องการตอบสนองจากเครื่องยนต์
แต่ถ้าคุณไม่ได้หัวใจเลือกนักซิ่ง ขับเนน้ใช้งานทั่วไปก็เรียกว่าพอเพียงเหลือๆ
สรุปจากใจ หลังคุยกับ วิศวกรตัวพ่อ
ถ้าถามว่า ผมเชื่อมั้ยว่าเครื่องยนต์ตัวนี้จะอยู่ถึงล้านโล? ก็ต้องบอกว่า…ฟังแล้ว “เชื่อใจมากขึ้น” อย่างน้อยมันคือความพยายามและความมั่นใจจากฝั่งผู้ผลิตแบบไม่กลัวถูกท้า
ส่วนใครที่อยากลองขับวันละ 400 โล 8 ปีรวด ก็เชิญเลยครับ GWM เขาพร้อมให้คุณพิสูจน์เต็มที่
แต่มาถึงตรงนี้ ล้านกิโลเมตร ถ้าเครื่องไม่พัง เกียร์อาจจะจากลาก่อน หรือเปล่า