Home » โค้ง สุดท้าย EV 3.0 … ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าวันนี้ ขายดีเพราะอะไร
Blog Buster บทความ

โค้ง สุดท้าย EV 3.0 … ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าวันนี้ ขายดีเพราะอะไร

หลายปีทีผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้า ได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวไทยจำนวนมาก เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ในโครงการ EV 3.0 สูงสุดถึง 150,000 บาท

แต่ในปี พ.ศ. 2568 นี้ โครงการ EV 3.0 กำลังจะหมดวาระลง ตามนโยบายรัฐบาล และ แม้ว่าจะมีโครงการ EV 3.5 ยังเดินหน้าต่อไปจนถึงปีพ.ศ. 2571 เงินสนับสนุนเดิม ก็ดูจะน้อยลง

EV 3.0 สิ้นฤทธิ์ สิ้นปีนี้

โครงการ Ev 3.0 เป็นโครงการที่ฝั่งรัฐบาลต้องการสร้างงฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ใหม่ โดยมุ่งเน้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า จึงมีมาตรการออกมาช่วยเหลือ หรือ ให้เงินสนับสนุนผู้ซื้อ จนทำให้รถมีราคาถูกลงอย่างมาก อย่างไม่น่าเชื่อ โดยนเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำเข้ามาประกอบขายในประเทศไทย

เหตุผลการสนับสนุน ก็มาจากการดึงให้นักลงทุน บริษัทรถยนต์จากต่างประเทศ เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย และผลิตรถยนต์รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ เพิ่มการจ้างงาน ผู้ผลิตชิ้นส่วนภายในประเทศมากขึ้น ตามความประสงค์ของรัฐบาล

จากข้อมูลที่เปิดเผยสู่สาธารณะ ภายใต้มาตรการดังกล่าว จะมีเงินสนับสนุนสุทธิ อยู่ระหว่าง 70,000 ถึงสูงสุด 150,000 บาท / คัน ขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอร์รี่

โดยภายในงาน Motor Expo ที่ผ่านมา ได้กระตุ้นตลาดสุดขีด เพื่อเร่งเครื่องให้ทันมาตรการดังกล่าว

ยกตัวอย่าง BYD ออกแคมเปญเร้าใจ BYD dolphin รุ่นประกอบไทย ลดราคาสูงสุด 140,000 บาท และ BYD Atto 3 ลดราคาสูงสุด 200,000 บาท

ทาง GWM ส่ง โปรโมชั่นใน ORA GoodCat ทิ้งทวนด้วยมาตรการช่วยผ่อน 5,000 บาท นาน 1 ปี ฟรีค่าบำรุงรักษานาน 5 ปี และ รับประกันภัยชั้น 1 นาน 2 ปี

ส่วนทาง MG เดินหน้าด้วยราคาพิเศษ พร้อมที่ชาร์จติดตั้งที่บ้าน และฟรี ประกันภัยชั้น 1 ใน MG S5 และ MG4

โค้งสุดท้ายชี้ชะตาที่คนซื้อ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีโปรโมชั่นล่อตาล่อใจ ให้คนอยากรถยนต์ไฟฟ้าต้องรีบตัดสินใจ แต่ผู้ซื้อกลายเป็นผู้กุมชะตาค่ายรถยนต์มากกว่า

แม้จะมีการเปิดรับจองจนมียอดทะลักอย่างที่เห็นตามสื่อต่างๆ แต่ยอดจอง อาจไม่ใช่ยอดซื้อจริงที่เกิดขึ้น

เงื่อนไขสำคัญในการเข้าร่วมมาตรการ EV 3.0 ที่สำคัญ ในห้วงเวลาสุดท้ายนี้คือ

ผู้ซื้อจะต้องรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568 และจะต้องจดทะเบียนแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม พ.ศ. 2569

ทางผู้ผลิตจึงได้รับเงินสนับสนุน ตามมาตรการ EV 3.0 ที่ภาครัฐกำหนดหากพ้นช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว เงื่อนไขจะกลายเป็นเงื่อนไข EV 3.5 จะมีเงินสนับสนุนน้อยกว่า โดยเหลือเพียง สูงสุด 50,000 บาทเท่านั้น

ทำให้ในเวลานี้ภาระจะตกอยู่กับหน่วยงานทางด้านสินเชื่อและเซลล์ ที่ต้องดันลูกค้าให้ผ่านเคสให้ได้ ในช่วงเวลาอีก20 วันที่เหลืออยู่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

EV 3.5 สร้างตลาดสมดุล

อย่างไรก็ดี ในปีหน้าการเปลี่ยนสู่มาตรการ EV3.5 จะทำให้ตลาดรถยนต์เกิดความสมดุลมากกว่าเดิม

มาตรการ EV 3.5 มีหน้าตาไม่เหมือน กับ EV 3.0 เนื่องจากมีการนำขนาดแบตเตอร์รี่มากำหนดอย่างชัดเจนขึ้น ในการได้รับเงินสนับสนุน แบ่งเป็น

รถยนต์นั่งราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท

  • แบตเตอร์รี่ขนาด ต่ำกว่า 50 KW รับเงินสนับสนุน 50,000 บาท ในปีแรก ,ปีที่ 2 35,000 บาท และ ปีที่ 3-4 20,000 บาท
  • แบตเตอร์รี่ขนาด มากกว่า 50 KW รับเงินสนับสนุน 100,000 บาท ในปีแรก ,ปีที่ 2 75,000 บาท และ ปีที่ 3-4 50,000 บาท

รถกระบไฟฟ้า แบตเตอร์รี่มากกว่า 50 Kw รับเงินสนับสนุน 50,000-100,000 บาท

จะสังเกตว่า เงินสนับสนุนจากภาครัฐถูกทอนหายลงไป 50,000 บาท จากปัจจุบัน ที่ให้ได้สูงสุด 150,000 บาท และมีการลดต่อเนื่องต่อไปในแต่ละปี

ไม่เพียงเท่านี้ทางผู้ผลิตเองยังต้องดำเนินตามมาตรการผลิตชดเชย ในอัตรา 1:2 และ 1:3 ตามระเบียบที่ทางกรมสรรพสามิตกำหนด

รวมถึงในบางรายการอาทิกระบะไฟฟ้า จะได้รับเงินสนับสุนน เมื่อเป็นรถที่ผลิตภายในประเทศ เท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน บางแบรนด์ยังทำเพียงนำเข้าจากต่างประเทศมาขาย มีเพียง Hilux Revo e ที่มีการผลิตในประเทศชัดเจน

ผลกระทบจากมาตรการใหม่นี้ จะทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าไม่ถูกเท่าปัจจุบัน มีราคาขยับขึ้นต่อเนื่องทุกปี เปลี่ยนภาพให้มีความสมดุลมากขึ้น

หลายค่ายปรับทิศ รุ่นใหม่มาปีหน้า

ถึงแม้ว่าความชัดเจนของ EV 3.5 จะบ่งบอกชัดแจ้ง แต่รถยนต์ไฟฟ้าในยุค Ev3.5 อาจไม่เหมือนกับในยุคนี้

ประเด็นหนึ่งที่ดูจะขัดเจน คือหลายค่ายเริ่มวางหมาก เอารุ่นใหม่มาขายแทนรุ่นเดิม ผู้เขียนมีโอกาสสอบถามกับทางเซลล์ขายรถบางยี่ห้ออาทิ Great Wall Motor มีการยืนยันชัดว่า Ora GoodCat จะไม่มีขายแล้วในปีหน้า หรือ อาจจะมีการปรับรุ่นเพื่อให้สอดรับกับมาตรกาใหม่

ข้อมูลนี้ใกล้เคียงกับทาง MG ที่มีข้อมูลว่า รถอย่าง MG S5 EV D+ จะยุติการผลิตไปก่อนจนกว่าจะส่งมอบรถในมาตรการ Ev3.0 แล้วเสร็จ

สะท้อนว่าหลายค่ายรอมาตรการรัฐแล้วมาคำนวนต่อว่า จะออกรถใหม่แบบไหนออพชั่นอย่างไรให้ตรงโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาถูกสงครามราคาทุบต่อเนื่อง จนลูกค้าชาวไทยเริ่มเสพติด

โดยบางค่ายที่มีข้อมูลหลุดออกมาชี้ว่า จะปรับไปสู่รุ่นใหม่ ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น แต่อาจไม่ใช่กับทุกค่าย

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าวันนี้คึกคักแต่ไม่ใช่กับทุกคนที่อาจจะถึงฝั่งฝัน ในวันที่สินเชื่อเข้มงวดมากๆ รถยนต์ไฟฟ้าในยุค Ev 3.5 จ ะเป็นอย่างไร น่าติดตาม คงต้องยอมรับว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นรถที่ตอบโจทย์ให้ลูกค้าสายประหยัดต่อไปแม้ราคาอาจไม่ถูกเท่าเดิม

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.