จากความจริงที่ว่าลูกค้าหลายคนทั่วโลก ไม่ได้คลั่งไคล้ในรถอเนกประสงค์ขุมกำลังดีเซลเหมือนบ้านเรา ดังนั้น Ford Everest เครื่องยนต์ดีเซล V6 3.0 Turbo จึงดูจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในสหรัฐอาหรับอิมิเรตเท่าไหร่นัก

ทำให้ทาง Ford ต้องจัดการหาเครื่องยนต์เบนซินลูกใหม่มาใส่ลงไป ใน Ford Everest สำหรับตลาด UAE เพื่อทดแทนขุมกำลังดีเซล V6 3.0 Turbo ที่เป็นตัวชูโรงของ Everest ในตลาดโซนเอเชียแปซิฟิค
โดยที่มันจะต้องมีสมรรถนะเหนือกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.3 ลิตร เทอร์โบ EcoBoost ที่มีวางจำหน่ายอยู่แล้วในประเทศดังกล่าว แต่ครั้นจะไปใส่เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่อยู่ใน Ranger Raptor ก็ไม่ได้ เพราะเครื่องยนต์ลูกนี้ต้องถูกสงวนไว้ในรถตระกูลแรงเท่านั้น
ท้ายที่สุด จึงไปตกที่การนำเอาเครื่องยนต์เบนซิน V6 2.7 ลิตร เทอร์โบคู่ ซึ่งสามารถทำกำลังสูงสุดได้ 355 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร และอันที่จริงเครื่องยนต์ลูกนี้ก็มีให้ลูกค้าได้เลือกซื้ออยู่แล้วใน Ford Ranger เวอร์ชันทำขายในประเทศสหรัฐอเมริกา

และเนื่องจากเครื่องยนต์ลูกนี้มีสมรรถนะค่อนข้างสูงพอตัวโดยเฉพาะเรื่องแรงม้า จึงทำให้ทาง Ford UAE เลือกใส่มันลงไปเฉพาะใน Everest รุ่นพิเศษ อย่างตัว Tremor เท่านั้น
โดยนอกจากมันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์กำลังสูง ตัวรถยังจะได้รับการตกแต่งหน้าตาภายนอกให้ดุดันเป็นพิเศษ ทั้งจากโทนสี ตามด้วยการเปลี่ยนชุดยางให้สามารถบุกตะลุยตะกรุยดินได้ดียิ่งขึ้น และท้ายสุด คือการอัพเกรดชุดโช้คอัพทั้งหมด ให้เปลี่ยนเป็นของ Bilstein

แน่นอน โอกาสที่ทาง Ford จะนำเครื่องยนต์เบนซิน V6 2.7 ลิตร เทอร์โบคู่ ลูกนี้ มาใส่ใน Everest เวอร์ชันลุยตลาดประเทศไทย คงเป็นไปได้ยาก
แต่หากจะเป็นการทำร่าง Tremor แล้วอัพเกรดหน้าตากับช่วงล่างให้ดูพร้อมลุยมากขึ้นก็ไม่แน่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ทางค่ายก็เคยมีการทำ Ranger FX4 ไว้คั่นกลางก่อนขยับไปหา Raptor เช่นกัน และไอเดียนั้นก็อาจถูกขยับไปใส่ใน Everest ได้ทุกเมื่อ เช่นเดียวกับที่ตอนนี้มี Everest Wildtrak ให้เห็นกันแล้ว เพียงแต่จะทำได้จริง หรือน่าทำแค่ไหน ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่ากระแสเรียกร้องของชาวไทย จะน่าทำตามแค่ไหนกันในอนาคต