แม้จะมีการสร้างเสียงฮือฮากันไปพอสมควรกับการเปิดตัวรถต้นแบบ Toyota Corolla Concept ในงาน Japan Mobility Show 2025 แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า Toyota Corolla ที่มาแทนรุ่นโฉมปี 2025 จะมาพร้อมกับหน้าตาใหม่แบบรถต้นแบบใดๆทั้งสิ้น
ยกตัวอย่างเช่น Toyota Corolla MY2026 ที่พึ่งมีการเปิดตัวในทวีปยุโรปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราก็จะพบว่าตัวรถมีความเปลี่ยนแปลงภายนอกแค่เพียงเฉดสีใหม่เท่านั้น นั่นคือ สีเทา Onyx Grey สำหรับตัวรถ Corolla รุ่นบนรหัส GR Sport ในฝั่งร่างซีดาน และรุ่นบนรหัส Touring Sports สำหรับตัวรถที่เป็นร่างวากอน และ แฮชท์แบ็ค 5 ประตู
ซึ่งทาง Toyota ระบุว่านี่ถือเป็นครั้งแรก ที่ทางแบรนด์ได้มีการนำเฉดสีนี้มาใช้กับรถยนต์รุ่นที่มีการวางจำหน่ายอย่างแพร่หลาย เช่น Corolla (เข้าใจว่าเมื่อก่อนอาจเป็นสีที่สงวนไว้ใช้เฉพาะกับรถรุ่นพิเศษ หรือรถสปอร์ตสมรรถนะสูงเท่านั้น) โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตัวรถเฉดสีใหม่นี้กันตั้งแต่ปลายปี 2025 ในสหราชอาณาจักร แล้วจึงค่อยๆขยายไปในประเทศอื่นๆของทวีปยุโรปต้นปีหน้าอีกที
นอกจากนี้สำหรับตัวรถรุ่นกลางและรุ่นรอง ซึ่งไม่ใช่ร่างแต่งเติมออพชันเสริมหล่อ ก็จะได้ทางเลือกเฉดสี Dubbed Storm Grey แทน ซึ่งจะเป็นสีเทาเมทัลลิคที่ดูโดดเด่นไปในทางเรียบหรูดูแพง โดยจะมีให้เลือกทั้งในร่างซีดานและแฮชท์แบ็ค และท้ายสุดคือการปรับเปลี่ยนลวดลายล้อใหม่อีกเล็กน้อย แต่นับว่าดูสวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว
จากนั้นก็จะเป็นการปรับเปลี่ยนลูกเล่นภายในห้องโดยสาร โดยเริ่มจากการเปลี่ยนวัสดุหนังหุ้มเบาะใหม่ ให้เป็นหนัง Samara ซึ่งผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล โดยอาจจะมีดีไซน์การตัดเย็บที่ต่างกันเล็กน้อยในแต่ละรุ่นย่อย
การปรับเปลี่ยนถัดมา ก็คือการอัพเดทระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ใหม่ ให้มีความชาญฉลาดในการทำงานมากขึ้น, เพิ่มระบบอัดเดทซอฟท์แวร์แบบ OTA เข้าไป และมีการใส่ลูกเล่นหน้าจอแสดงผลข้อมูลตัวรถเป็นขนาด 12.3 นิ้ว ในทุกรุ่นย่อย จากที่เคยมีให้เห็นในรุ่นใหญ่อย่าง GR Corolla เท่านั้น
ด้านขุมกำลังตัวรถยังคงเดิม โดยจะมีให้เลือกทั้งรุ่นไฮบริด 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 138 แรงม้า และ รุ่นไฮบริด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ซึ่งประเด็นก็คือ ออพชันหลังดันมีกำลังน้อยลงกว่ารถรุ่นปี 2025 ถึง 15 แรงม้า โดยที่ทาง Toyota ก็ไม่ได้มีการเปิดเผยใดๆเพิ่มเติมว่าแล้วเหตุใดกำลังเครื่องยนต์ถึงหายไป ทั้งที่เครื่องยนต์ไม่น่าติดปัญหาเรื่องมลพิษใดๆ จนต้องยอมลดกำลังเครื่องยนต์ลง
และด้วยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในยุโรป จึงทำให้มีความเป็นไปได้ที่ Toyota Corolla รุ่นปี 2026 ในประเทศไทยเอง ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดออพชันใหม่ในแนวนี้เช่นกัน เพียงแต่อาจจะไม่ได้มาครบในส่วนของทางเลือกเฉดสี และการเปลี่ยนวัสดุเบาะนั่ง
แต่หลายคนก็ยังคงหวังในเรื่องขุมกำลังไฮบริด 2.0 ลิตร เพื่อที่รถจะได้มีพละกำลังสมน้ำสมเนื้อกับคู่แข่งสักที ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่าทาง Toyota Motor Thailand จะพิจารณาอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
