Home » เลือกซื้อรถในงานโชว์ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
Bust on talk บทความ

เลือกซื้อรถในงานโชว์ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

ทุกครั้งที่มีงานแสดงรถยนต์ขึ้นมา หลายคนตั้งคำถามว่า ยุคนี้โลกรุดหน้าไม่กี่คลิ๊กเซลล์ก็ส่งข้อมูลมาให้ดู ทำไมซื้อรถใหม่จะต้องไปดูงานโชว์ เดินทางลำบากฝ่ารถติด ไม่นับคนมหาศาลชวนเวียนหัว

เปรียบเทียบเลือกรถใหม่ ง่ายกว่าที่คิด

ดั้งเดิม วัตถุประสงค์การจัดงานแสดงรถยนต์ เป็นความตั้งใจในการจัดแสดงรถยนต์รุ่นใหม่ คิดภาพตาม ปกติรถยนต์เขาจะขายแบรนด์ใครแบรนด์มัน

แถมบางคันดูได้เฉพาะในงานยังไม่มีที่อื่นเพราะใหม่ล่าสุดถอดด้าน เปิดตัว 2-3 วันก่อนวันนี้อยู่บนแท่นโชว์ในงานแสดง

แต่หลังบ้านเรา งานโชว์กลายเป็นงานงานขายโดยปริยาย ทำให้การเลือกซื้อรถใหม่ค่อนข้างสะดวกสบายมากขึ้น เหมือนคุณเดินในห้างสรรพสินค้ายานยนต์ มีทุกสิ่งให้เลือกสรร ดูได้ทุกค่ายทุกนี่ห้อที่เข้าร่วมงาน จะไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มาให้ดูทุกสัญชาติ

สามารถเดินเลือกดูตามสะดวก รวมถึงคู่เทียบที่เราหมายตาและตัวเลือกอื่นที่มีในงาน ทำให้เราได้เห็นจากสองตาในสิง่ที่ ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตให้ไม่ได้ เช่นคุณภาพวัสดุ ความสบายการโดยสาร อินเตอร์เฟซในการใช้งาน

เปรียบมวยความคุ้มค่า ทั้งตัวรถ งานออกแบบ ไปจนถึงยังสามารถทดลองขับขี่ได้ด้วยถ้าต้องการและสนใจจริงๆ

รูปแบบการทดสอบ ก็ต่างจากการทดสอบที่โชว์รูม คนที่นั่งไปด้วย มักจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการขับขี่ ทดสอบในรูปแบบสถานีทดสอบจริงๆ อาจจะต่างจากการขับบนถนนจริงแต่ก็เห็นชัดแบบหมัดต่อหมัดใครดีด้อยกว่าตรงไหน ในโจทย์ อัตราเร่ง และการควบคุม

โดยไม่ต้องขับรถตะลอนไปทีละโชว์รูมให้เปลืองน้ำมัน มาที่เดียวจบเลย

ใหม่ล่าสุดดูได้ที่นี่

นอกจากการเปรียบเทียบแล้ว งานแสดงรถยนต์ยังเป็นเวทีอวดรถใหม่ ที่ผู้ผลิตมักจะโหมมาเปิดเป้นที่แรกในประเทศ โดยเฉพาะรุ่นที่เพิ่งออกใหม่หมาด อาจหาดูที่อื่นไม่ได้

โดยมากจะมาจัดแสดงในงานนี้ เพื่อตอบสนองเรียกคนเข้างานมาดูรถรุ่นที่เพิ่งมาใหม่ซิงๆ เรียกว่า ถ้าอยากดูรถใหม่ต้องมาที่นี่มั่นใจได้เลยว่า ได้จับได้สัมผัสแน่ๆ ไม่ต้องกังวลว่าไปโชว์รูมแล้ว จะพบรถรุ่นนั้นไหม

แต่น่าเสียดายในยุคนี้ หมดยุคมางานมีโปรลับ ทำให้การเดินซื้อรถในงาน ข้อเสนอไม่ต่างจากข้างนอกเท่าไร จนบางคนอาจมองว่า ไปแล้วไม่คุ้ม สู้วิธีตอดเอาจากโซเชียลไม่ได้

อย่างไรก็ดีการมางานแสดงรถยนต์ก็มีข้อควรทราบบางเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากำลังจะตัดสินใจซื้อรถคันใหม่จริงๆ

1.อย่าเร่งเซ็นใบจอง

กฏเหล็กที่สำคัญ​เวลามาเดินงานแสดงรถยนต์ คือ อย่าเร่งตัวเอง จองรถโดยไม่จำเป็น หรือจองพร่ำเพรื่อ แต่สมควรจองเมื่อคิดแล้วว่าจะซื้อรถคันนั้นแน่ๆ

การเซ็นใบจองคือการทำพันธะสัญญา ว่าเราจะตัดสินใจซื้อรถแล้ว และมีหลายกรณี หลังกลับมาจากงาน มานั่งคิดดีๆไม่รู้หลงเสน่ห์ หรือคารมเซลล์ ต้องมานั่งเสียเวลายกเลิกใบจองทีหลัง

แถมกว่าจะได้เงินคืนก็อีกหลายวัน จนเป็นบทเรียนมาแล้วกับนักจองในตำนานหลายคน

ถ้าแผนคุณยังไม่เร็วๆใน1-2 เดือนนี้ ไปงานแสดงรถ ขอข้อมูลไม่ต้องคิดเรื่องจองรถ เซลล์ถามก็ตอบเขาไปตรงๆ มั่นใจว่าเขาใจ กลับมาตกผลึกอีกทีช่วยให้ได้รถที่ดี และอยากได้ดีกว่า

เซลล์เขามาจากที่ไหน (ศูนย์ไหน?)

เรื่องนี้สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าอยากจะซื้อรถในงานแสดงรถยนต์ ก่อนตัดสินใจจงถามให้ชัด เขามาจากโชว์รูมไหนอย่างไร

เพราะพนักงานขายที่มาร่วมงาน จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา จากหลายแห่ง แม้ว่าส่วนมาจะมาจากเขตกรุงเทพ และ ปริมณฑล แต่ก็มาจากทุกทิศทั่วกรุง

สำคัญมากถ้าจะขอสำรวจก่อนว่า เขาอยู่ใกล้คุณหรือเปล่า ถ้ากำลังคิดตัดสินใจ

ไม่เหมาะกับคนแก่ -สายครอบครัวลูกเล็ก

ผมเองถ้าถอดหัวโขนการเป็นสื่อ ก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง หลายครั้งที่เดินไปในงานแล้วพบเห็นความเหนื่อยของบรรดาผู้สูงอายุ ที่มาร่วมงาน ต้องนั่งพักอยู่เรื่อยๆ เพราะลูกชวนมา

ข้อนี้อยากบอก ท่านผู้อ่าน ที่กำลังคิดจะซื้อรถ แล้วกะพาคุณพ่อคุณแม่ไปงาน ว่า ควรจมาดูเองก่อนจนตกผลิตแล้วค่อยพาท่านมา

ถ้ามาแล้วยังไม่ตกผลึกทางความคิดต้องเดินไปๆมาๆ อาจไม่เหมาะที่คุณจะพาผู้สูงวัยมา อาจจะเหนื่อยกว่าการไปโชว์รูมข้างนอก เพราะในงานต้องเดินเยอะ เดินไปเดินมาบางที 10,000 ก้าว นี่ยังไม่นับการต้องฝ่าการจราจรมหาโหดของอิมแพ็ค ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย กว่าจะเข้าที่จอดจนได้ที่จอดได้เป็นชั่วโมงก็มี โดยเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์ ไม่ใช่เรื่องสนุก

ไม่เพียงแค่คนแก่ สายครอบครัว คนมีลูกเล็กอย่างผู้เขียน ก็เหนื่อยไม่แพ้กัน เด็กเล็กจะมีพลังงานสูง อยากเล่น ต้องตาต้องใจหลายอย่าง ถ้าจะไปเดินดูรถจริงๆ ก็ต้องพยายามอย่าให้คลาดสายตา คราดกันหาไม่เจอจะลำบากเข้าไปอีก

แถมเมื่อลูกไม่อยู่สุข คุณก็ไม่สามารถโฟกัสกับการดูรถได้จริงจัง อาจจะต้องแยกกันดู คนหนึ่งดูลูกคนหนึ่งดูรถ สลับๆกัน แบบนั้นก็พอไหวอยู่ครับ แม้วันนี้หลายค่ายจะมีกลยุทธ์สวนเด็กเอาใจลูกค้า แต่ว่า ดูไปพะวงไปก็คงรู้สึกไม่สบายใจ

แต่ถ้าไปโชว์รูมใกล้บ้านสบายๆ เลย ลูกจะซนแค่ไหนก็ไม่มีคนเยอะแบบในงาน ดูได้สะดวกกว่าเยอะเลย

แย่งกันดู อาจไม่สะดวก

แม้ในงานแสดงรถยนต์ จะมีรถใหม่มากมาย จัดแสดงหลายคัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงจำนวนหลักหน่วย

ทำให้หลายครั้ง ในรุ่นที่ได้รับความสนใจจเกิดการแย่งชิงดูรถ เกิดขึ้นบ่อยมาก จนเหมือนรถโดนรุมประชาฑัณฑ์ คนนั้นเข้าคนนี้ออกต่อเนื่อง

บางคนสำรวจไม่กี่นาที บางคนนั่งแช่นานๆ แต่ละคน มีวิธีการไม่เหมือกัน ต้องยอมรับว่าอาจไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวเท่าไรในการดูรถ อาจยังไม่อินสัมผัส เพราะเวลามีน้อย และเราก็ต้องเกรงใจคนอื่น ยิ่งบางแบรนด์ จะมาเปิดเครื่องดู อยากเห็นของจริง บางทีมีมองหน้า

ถ้าคุณมีข้อมูลอยู่แล้ว อยากดูรถไม่เร่ง และไม่ใช่รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไม่กี่วัน สมควรเลี่ยงงานแสดงรถยนต์ จะดีที่สุดครับ

การไปดูและเลือกซื้อรถยนต์ในงาน แม้มันไม่สะดวกแต่ก็จัดเป็นเสน่ห์ การเลือกรถ ที่คุณจะได้ดูทุกสิ่ง ที่เดียวจบเปรียบเทียบได้ มันอาจเป็นดูเสียเวลาในสายตาคนรุ่นใหม่

หลายครั้งมันพิสูจน์แล้วว่าการเห็นด้วยตาตัวเอง ออกจากจอที่คุณคิดว่ารู้ทุกสิ่ง มาใช้ โสดสัมผัสทุกดัน กับว่าที่รถคันใหม่ คุณอาจได้รถที่โดนใจใช่มากกว่า

รถยนต์คันหนึ่งซื้อมาไม่ใช่บาทสองบาท ดูรีวิว อ่านข้อมูลอย่างเดียว แล้วมั่นใจว่ารู้ทุกสิ่ง ไม่สู้มาดูเอง

เลือกซื้อรถในงานโชว์ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

Written by Ronnakit on 27 พฤศจิกายน 2025 Edit

ทุกครั้งที่มีงานแสดงรถยนต์ขึ้นมา หลายคนตั้งคำถามว่า ยุคนี้โลกรุดหน้าไม่กี่คลิ๊กเซลล์ก็ส่งข้อมูลมาให้ดู ทำไมซื้อรถใหม่จะต้องไปดูงานโชว์ เดินทางลำบากฝ่ารถติด ไม่นับคนมหาศาลชวนเวียนหัว

เปรียบเทียบเลือกรถใหม่ ง่ายกว่าที่คิด

ดั้งเดิม วัตถุประสงค์การจัดงานแสดงรถยนต์ เป็นความตั้งใจในการจัดแสดงรถยนต์รุ่นใหม่ คิดภาพตาม ปกติรถยนต์เขาจะขายแบรนด์ใครแบรนด์มัน

แถมบางคันดูได้เฉพาะในงานยังไม่มีที่อื่นเพราะใหม่ล่าสุดถอดด้าน เปิดตัว 2-3 วันก่อนวันนี้อยู่บนแท่นโชว์ในงานแสดง

แต่หลังบ้านเรา งานโชว์กลายเป็นงานงานขายโดยปริยาย ทำให้การเลือกซื้อรถใหม่ค่อนข้างสะดวกสบายมากขึ้น เหมือนคุณเดินในห้างสรรพสินค้ายานยนต์ มีทุกสิ่งให้เลือกสรร ดูได้ทุกค่ายทุกนี่ห้อที่เข้าร่วมงาน จะไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มาให้ดูทุกสัญชาติ

สามารถเดินเลือกดูตามสะดวก รวมถึงคู่เทียบที่เราหมายตาและตัวเลือกอื่นที่มีในงาน ทำให้เราได้เห็นจากสองตาในสิง่ที่ ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตให้ไม่ได้ เช่นคุณภาพวัสดุ ความสบายการโดยสาร อินเตอร์เฟซในการใช้งาน

เปรียบมวยความคุ้มค่า ทั้งตัวรถ งานออกแบบ ไปจนถึงยังสามารถทดลองขับขี่ได้ด้วยถ้าต้องการและสนใจจริงๆ

รูปแบบการทดสอบ ก็ต่างจากการทดสอบที่โชว์รูม คนที่นั่งไปด้วย มักจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการขับขี่ ทดสอบในรูปแบบสถานีทดสอบจริงๆ อาจจะต่างจากการขับบนถนนจริงแต่ก็เห็นชัดแบบหมัดต่อหมัดใครดีด้อยกว่าตรงไหน ในโจทย์ อัตราเร่ง และการควบคุม

โดยไม่ต้องขับรถตะลอนไปทีละโชว์รูมให้เปลืองน้ำมัน มาที่เดียวจบเลย

ใหม่ล่าสุดดูได้ที่นี่

นอกจากการเปรียบเทียบแล้ว งานแสดงรถยนต์ยังเป็นเวทีอวดรถใหม่ ที่ผู้ผลิตมักจะโหมมาเปิดเป็นที่แรกในประเทศ โดยเฉพาะรุ่นที่เพิ่งออกใหม่หมาด อาจหาดูที่อื่นไม่ได้

โดยมากจะมาจัดแสดงในงานนี้ เพื่อตอบสนองเรียกคนเข้างานมาดูรถรุ่นที่เพิ่งมาใหม่ซิงๆ เรียกว่า ถ้าอยากดูรถใหม่ต้องมาที่นี่มั่นใจได้เลยว่า ได้จับได้สัมผัสแน่ๆ ไม่ต้องกังวลว่าไปโชว์รูมแล้ว จะพบรถรุ่นนั้นไหม

อย่างไรก็ดีการมางานแสดงรถยนต์ก็มีข้อควรทราบบางเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากำลังจะตัดสินใจซื้อรถคันใหม่จริงๆ

หมดยุคโปรลับ

ดั้งเดิมผู้ผลิต จะมีโปรลับ สำหรับคนที่ต้องการรถใหม่ และจองเลือกซื้อจากภายในงานหรือที่เรียกว่า โปรลับ

แต่น่าเสียดายในยุคนี้ หมดยุคมางานมีโปรลับ ทำให้การเดินซื้อรถในงาน ข้อเสนอไม่ต่างจากข้างนอกเท่าไร จนบางคนอาจมองว่า ไปแล้วไม่คุ้ม สู้วิธีโพสถามเอาจากโซเชียลไม่ได้ บางโปรจัดเต็ม

อย่าเร่งเซ็นใบจอง

กฏเหล็กที่สำคัญ​เวลามาเดินงานแสดงรถยนต์ คือ อย่าเร่งตัวเอง จองรถโดยไม่จำเป็น หรือจองพร่ำเพรื่อ แต่สมควรจองเมื่อคิดแล้วว่าจะซื้อรถคันนั้นแน่ๆ

การเซ็นใบจองคือการทำพันธะสัญญาง ว่าเราจะตัดสินใจซื้อรถแล้ว และมีหลายกรณี หลังกลับมาจากงาน มานั่งคิดดีๆไม่รู้หลงเสน่ห์ หรือคารมเซลล์ ต้องมานั่งเสียเวลายกเลิกใบจองทีหลัง

แถมกว่าจะได้เงินคืนก็อีกหลายวัน จนเป็นบทเรียนมาแล้วกับนักจองในตำนานหลายคน

ถ้าแผนคุณยังไม่เร็วๆใน1-2 เดือนนี้ ไปงานแสดงรถ ขอข้อมูลไม่ต้องคิดเรื่องจองรถ เซลล์ถามก็ตอบเขาไปตรงๆ มั่นใจว่าเขาใจ กลับมาตกผลึกอีกทีช่วยให้ได้รถที่ดี และอยากได้ดีกว่า

เซลล์เขามาจากที่ไหน

เรื่องนี้สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าอยากจะซื้อรถในงานแสดงรถยนต์ ก่อนตัดสินใจจงถามให้ชัด เขามาจากโชว์รูมไหนอย่างไร

เพราะพนักงานขายที่มาร่วมงาน จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา จากหลายแห่ง แม้ว่าส่วนมาจะมาจากเขตกรุงเทพ และ ปริมณฑล แต่ก้มาจากทุกทิศทั่วกรุง

สำคัญมากถ้าจะขอสำรวจก่อยว่า เขาอยู่ใกล้คุณหรือเปล่า ถ้ากำลังคิดตัดสินใจ

ไม่เหมาะกับคนแก่ -สายครอบครัวลูกเล็ก

ผมเองถ้าถอดหัวโขนการเป็นสื่อ ก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง หลายครั้งที่เดินไปในงานแล้วพบเห็นความเหนื่อยของบรรดาผู้สูงอายุ ที่มาร่วมงาน ต้องนั่งพักอยู่เรื่อยๆ เพราะลูกชวนมา

ข้อนี้อยากบอก ท่านผู้อ่าน ที่กำลังคิดจะซื้อรถ แล้วกะพาคุณพ่อคุณแม่ไปงาน ว่า ควรจมาดูเองก่อนจนตกผลิตแล้วค่อยพาท่านมา

ถ้ามาแล้วยังไม่ตกผลึกทางความคิดต้องเดินไปๆมาๆ อาจไม่เหมาะที่คุณจะพาผู้สูงวัยมา อาจจะเหนื่อยกว่าการไปโชว์รูมข้างนอก เพราะในงานต้องเดินเยอะ เดินไปเดินมาบางที 10,000 ก้าว นี่ยังไม่นับการต้องฝ่าการจราจรมหาโหดของอิมแพ็ค ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย กว่าจะเข้าที่จอดจนได้ที่จอดได้เป็นชั่วโมงก็มี โดยเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์ ไม่ใช่เรื่องสนุก

ไม่เพียงแค่คนแก่ สายครอบครัว คนมีลูกเล็กอย่างผู้เขียน ก็เหนื่อยไม่แพ้กัน เด็กเล็กจะมีพลังงานสูง อยากเล่น ต้องตาต้องใจหลายอย่าง ถ้าจะไปเดินดูรถจริงๆ ก็ต้องพยายามอย่าให้คลาดสายตา คราดกันหาไม่เจอจะลำบากเข้าไปอีก

แถมเมื่อลูกไม่อยู่สุข คุณก็ไม่สามารถโฟกัสกับการดูรถได้จริงจัง อาจจะต้องแยกกันดู คนหนึ่งดูลูกคนหนึ่งดูรถ สลับๆกัน แบบนั้นก็พอไหวอยู่ครับ แม้วันนี้หลายค่ายจะมีกลยุทธ์สวนเด็กเอาใจลูกค้า แต่ว่า ดูไปพะวงไปก็คงรู้สึกไม่สบายใจ

แต่ถ้าไปโชว์รูมใกล้บ้านสบายๆ เลย ลูกจะซนแค่ไหนก็ไม่มีคนเยอะแบบในงาน ดูได้สะดวกกว่าเยอะเลย

แย่งกันดู อาจไม่สะดวก

แม้ในงานแสดงรถยนต์ จะมีรถใหม่มากมาย จัดแสดงหลายคัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงจำนวนหลักหน่วย

ทำให้หลายครั้ง ในรุ่นที่ได้รับความสนใจจเกิดการแย่งชิงดูรถ เกิดขึ้นบ่อยมาก จนเหมือนรถโดนรุมประชาฑัณฑ์ คนนั้นเข้าคนนี้ออกต่อเนื่อง

บางคนสำรวจไม่กี่นาที บางคนนั่งแช่นานๆ แต่ละคน มีวิธีการไม่เหมือกัน ต้องยอมรับว่าอาจไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวเท่าไรในการดูรถ อาจยังไม่อินสัมผัส เพราะเวลามีน้อย และเราก็ต้องเกรงใจคนอื่น ยิ่งบางแบรนด์ จะมาเปิดเครื่องดู อยากเห็นของจริง บางทีมีมองหน้า

ถ้าคุณมีข้อมูลอยู่แล้ว อยากดูรถไม่เร่ง และไม่ใช่รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไม่กี่วัน สมควรเลี่ยงงานแสดงรถยนต์ จะดีที่สุดครับ

การไปดูและเลือกซื้อรถยนต์ในงาน แม้มันไม่สะดวกแต่ก็จัดเป็นเสน่ห์ การเลือกรถ ที่คุณจะได้ดูทุกสิ่ง ที่เดียวจบเปรียบเทียบได้ มันอาจเป็นดูเสียเวลาในสายตาคนรุ่นใหม่

หลายครั้งมันพิสูจน์แล้วว่าการเห็นด้วยตาตัวเอง ออกจากจอที่คุณคิดว่ารู้ทุกสิ่ง มาใช้ โสดสัมผัสทุกดัน กับว่าที่รถคันใหม่ คุณอาจได้รถที่โดนใจใช่มากกว่า

รถยนต์คันหนึ่งซื้อมาไม่ใช่บาทสองบาท ดูรีวิว อ่านข้อมูลอย่างเดียว แล้วมั่นใจว่ารู้ทุกสิ่ง ไม่สู้มาดูเอง


สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ และสิบมือคลำก็ไม่เท่าลองขับเอง
สุดท้าย คุณต่างหากที่ต้องอยู่กับรถ ไม่ใช่นักรีวิวในโซเชียลครับ.”

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.