Home » Ford Everest 2026 ปรับสเป็คยกพล เกียร์ 10 ปิด ทิ้งเครื่องเทอร์โบคู่
รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

Ford Everest 2026 ปรับสเป็คยกพล เกียร์ 10 ปิด ทิ้งเครื่องเทอร์โบคู่

นอกจาก Ford Ranger ที่ยกเลิกไลน์อัพเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 เทอร์โบคู่ที่ใช้กันมานานถึง 10 ปี ในยุคสมัย Downsizing เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย

Ford Everest 2026 เป็นอีกรุ่นที่มีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน ด้วยการ ปรับไลน์อัพใหม่ครั้งใหญ่ สำหรับลูกค้าชาวออสซี่ เริ่มจากการยกเลิกรุ่นเดิม Ambient และ Trend ตอนนี้ นำเสนอตัวรถรุ่นย่อยใหม่ “Active” เข้ามาแทนที่

ในส่วนเครื่องยนต์ยกเลิกเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่แล้ว เหลือเพียง V6 3.0 และ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว 170 แรงม้า แรงบิด 405 นิวตันเมตร แต่โดดเด่นด้วยการแนะนำเกียร์ออโต้ 10 สปีดเข้าเปิดตลาดทั้งไลน์อัพเป็นครั้งแรก

ในส่วนรุ่น Active จะมีการปรับปรุง เครื่องยนต์เทอร์โบเดี่ยวและ V6 พร้อมการตบแต่งสีดำ และภายในได้จอมัลติมีเดีย 12 นิ้ว พร้อมเบาะนั่งกึ่งหนังแท้

นอกจากนี้ในรุ่น Active จะมาพร้อมตัวเลือก 5 ที่นั่ง แต่ถ้าอยากได้เบาะเป็น 7 ที่นั่งลูกค้า สามารถซื้อเพิ่มได้ราวๆ 30,000 บาท

ในส่วนรุ่น Sport แต่งดำ เพิ่มรุ่น 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว 170 แรงม้า จากเดิมจะมีแต่ 3.0 V6

นอกจากนี้ในรุ่นท็อปสุด Platinum V6 ปรับลุคใหม่เน้นหรูผสมสปอร์ตด้วย โลโก้ตัวอักษร Platinum สีดำเงา 3 ตำแหน่งบนฝากระโปรงหน้า บานประตูคู่หน้า และฝาท้าย กระจังหน้าทั้งชิ้นดีไซน์รังผึ้งสีดำติดตราโลโก้ Ford พร้อมแนะนำสีใหม่ Acacia Green เป็นทางเลือกในรุ่นนี้โดยเฉพาะ

รุ่น Tremor แต่งเข้มด้วยกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมสีดำเข้ม ติดไฟ AUX Lamp แผ่นกันกระแทกใต้ห้องเครื่องสีดำ ราวหลังคาสีดำ ชุดแต่งสีดำตัวรถทั้งช่องระบายอากาศฝั่งบังโคลนซ้าย-ขวา กระจกมองข้าง ที่เปิดประตู กรอบกระจก บันไดเหยียบข้างสีดำเข้มแข็งแรง ชุดไฟท้าย LED

ตราสัญลักษณ์ Tremor ที่ด้านข้างประตูรถกับด้านท้ายและล้ออัลลอยลายเข้มขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง AT จาก General Grabber AT3 All-Terrain พร้อมคิ้วขอบล้อสีเทา

นอกจากนี้ ในรุ่นสายลุย tremor ตอนนี้ทางฟอร์ด อนุญาตให้ลูกค้าสั่งให้ถอดเบาะแถว 3 ได้ถ้าต้องการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เบื้องต้น Ford เปิดราคาจำหน่าย Ford Everest 2026 ขาย 6 รุ่นย่อยเริ่มต้น $58,990- $83,490  หรือราว 1,239,000-1,749,000 บาท

โดยเปิดรับจองตั้งแต่เดือนธันวาคมและกำหนดส่งมอบให้ลูกค้าในช่วงกลางปีหน้า ทางด้านไทยจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างโปรดติดตาม

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.