GWM เตรียมรุกตลาดรถเอ็มพีวีอย่างเป็นทางการในไทยเร็วๆนี้ กับการเตรียมเปิดตัว WEY G9 รถ PHEV MPV สุดหรูที่พร้อมจะโชว์ตัวให้ทุกคนได้ดูคันจริง พร้อมประกาศราคากัน ณ งาน Motor Expo 2025

WEY G9 รังสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจในความงามแบบตะวันออก ทั้งน้ำตก ขุนเขา และต้นไผ่ เน้นย้ำเส้นสายอันบริสุทธิ์ สงบนิ่ง และสมดุล ทำให้เกิดความหรูหราที่แฝงไว้ด้วยความสง่างามตามธรรมชาติ

แม้จะมีขนาดใหญ่ แต่เส้นเอวที่ถูกยกสูงและลาดลงอย่างแนบเนียนทำให้ตัวรถดูเพรียวบางและทรงพลัง มอบภาพลักษณ์ที่โอ่อ่าแต่ไม่รู้สึกเทอะทะในทุกมิติ

ตัวรถ Wey G9 มาพร้อม มิติตัวถัง ที่เหมาะสมต่อการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง แนะนำตัว พร้อม

• ความยาว 5,050 มิลลิเมตร
• ความกว้าง 1,985 มิลลิเมตร
• ความสูง 1,900 มิลลิเมตร
• ระยะฐานล้อ 3,085 มิลลิเมตร
• ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 155 มิลลิเมตร

รองรับการใช้งาน 7 ที่นั่ง (จัดที่นั่งแบบ 2+2+3) และยังสะดวกต่อการใช้งานในภาพรวม

ไฟหน้า LED ติดตั้งเข้ามาทางด้าน พร้แมระบบ เปิด–ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง–ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชัน Follow Me Home มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (DRL) ไฟท้าย LED และไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED เพื่อให้ตัวรถมองเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพการขับขี่

ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง Michelin ขนาด 245/50 R18 ติดตั้งเข้ามา มอบความมั่นคงในการขับขี่ และมั่นใจได้ในทุกสภาวะเส้นทาง

รังสรรค์ความพิเศษ ด้วยกระจังหน้าแบบดาร์กโครม พร้อมกันชนหน้าที่ออกแบบให้มีช่องรีดอากาศและ สปอร์ยเลอร์ที่ฝากระโปรงหน้า ไปจนถึงการติดตั้ง ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบไร้โครงเหล็ก พร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ

ประตูข้างมาพร้อมบานไสลด์ทั้ง 2 ข้าง รวมถึง ประตูท้ายไฟฟ้า แบบแฮนด์ฟรี พร้อมคิกเซ็นเซอร์ เพิ่มความสะดวกในการเปิด–ปิดประตูท้ายเมื่อต้องการขนของหรือถือสัมภาระหลายชิ้น

ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการขึ้นลงรถ โดยเฉพาะบันไดข้าง 2 สเต็ป ถูกออกแบบให้ใช้งานได้จริงแม้แต่กับเด็กหรือผู้สูงอายุ และช่วยปกป้องตัวรถจากเศษหินหรือโคลนที่กระเด็นจากพื้นถนน

ภายในห้องโดยสาร ออกแบบพื้นที่ให้โปร่งและเดินสะดวกในทุกที่นั่ง ด้วยพื้นรถราบเรียบทั้งคัน ความสูงภายใน มีความสูง 1,277 มิลลิเมตร ช่วยให้ห้องโดยสารโล่งสบาย พร้อมช่องทางเดินตรงกลาง กว้าง 170 มม.

ด้านเบาะนั่ง Wey G9 Hi4 ทุกที่นั่งมาพร้อม วัสดุเบาะ NAPPA หนังแท้ผสม PVC มอบความสบาย และสัมผัสในการเดินทางเหนือระดับ

เบาะนั่งตอนหน้า แนะนำ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งและระบบ Welcome Seatปรับตำแหน่งอัตโนมัติขณะเข้า–ออกจากตัวรถ รวมถึงระบบดันหลังไฟฟ้าและระบบนวดไฟฟ้า 10 จุด ช่วยลดความเมื่อยล้า เบาะผู้โดยสารตอนหน้าเป็นแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และมีระบบระบายอากาศที่พนักพิงและที่นั่ง รวมถึงฟังชั่นปรับเบาะได้จากทางด้านข้าง

ในส่วนของเบาะนั่งแถวสอง ถือเป็นไฮไลท์ กับการออกแบบเบาะให้มีความสบายสูงสุด โดยเฉพาะการออกแบบเบาะให้อยู่ทท่าที่สบายสุงในการพักผ่อน โดยได้รับแรงบันดาลใจ จากเทคโนโลยีการบินและอวกาศของสหรัฐอเมริกา หรือ NASA

แนะนำเบาะนั่งที่สามารถปรับท่านั่งได้เหมือนอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก หรือ Zero-Gravity Seat สามารถปรับองศาเบาะให้อยู่ใน “Golden Angle” ซึ่งเป็นมุมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสรีระมนุษย์ โดยมีมุมลำตัวที่ 127° และมุมต้นขา-น่องที่ 132° พร้อมจัดตำแหน่งหัวใจและหัวเข่าให้อยู่ในระดับเดียวกัน เพื่อช่วยกระจายแรงกดทั่วเบาะอย่างสมดุล โดยร่างกายของผู้โดยสารไม่ได้สัมผัสกับชิ้นส่วนหรือพื้นของรถ ลดแรงกดทับ ลดความเมื่อยล้า และเพิ่มความผ่อนคลายในการโดยสาร

ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ Luxury MPV พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า 6 รูปแบบ และระบบเบาะระบายอากาศที่พนักพิงและที่นั่ง

มาพร้อมการปรับตำแหน่งไฟฟ้าเต็มระบบ ทั้งการเลื่อนรางไฟฟ้า การปรับเอนพนักพิง การมีพนักพิงศีรษะ 4 ทิศทาง ที่พักขาไฟฟ้า 2 ทิศทาง และระบบนวดหลายจุด ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งได้สบายในระยะทางไกล

เบาะแถวที่ 2 ยังมีที่วางแขนแบบยึดแน่น ที่วางแก้ว ช่องต่อ USB/Type-A และ Type C ระบบระบายอากาศเฉพาะตำแหน่งเซ็นเซอร์ตรวจจับผู้โดยสาร และระบบรีเซ็ตตำแหน่งเบาะแบบสัมผัสเดียว รวมถึงปุ่มปรับตำแหน่งเบาะแบบบิลต์อินบนตัวเบาะ 8 ทิศทาง ช่วยให้การใช้งานสะดวกและแม่นยำ

เบาะแถวที่ 3 สามารถแยกปรับพื้นที่ได้แบบ 4:6 จัดการแบบแมนนวล ช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระเมื่อจำเป็น และสามารถปรับใช้ได้ตามลักษณะการใช้งาน

ไม่เพียเงท่านี้ ทาง GWM ยังอดแน่นความไฮโซมาเต็มพิกัดไม่ว่า

• ตู้เย็นภายในรถ (Car Refrigerator) ความจุ 12.5 ลิตร พร้อมดีไซน์ Double-Opening เปิดได้ทั้งด้านหน้า (Front Armrest) และด้านหลังแบบลิ้นชัก ช่วยให้ผู้โดยสารทุกแถวใช้งานได้สะดวก รองรับทั้งโหมดทำความเย็น 0–15°C และโหมดอุ่น 35–50°C
• ระบบไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบ 64 สี
• กระจกไฟฟ้าทั้งสี่บานพร้อมระบบ One-Touch
• หน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังขนาด 17.3 นิ้ว
• ลำโพงภายในทั้งหมด 21 ตำแหน่ง จาก Amor
• ติดตั้งไมโครโฟน 6 ตำแหน่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสั่งงานด้วยเสียงและการสื่อสารภายในตัวรถ
• กระจกมองหลังแบบกล้องวีดีโอเพิ่มความเป็นส่วนตัว

ระบบความบันเทิง

ทางด้านความบันเทิงภายในรถ ตัวรถ Wey G9 Hi4 จะมาพร้อม หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 14.6 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด Coffee OS 3.3 ที่ทำงานร่วมกับ AI เพื่อเชื่อมต่อทุกฟังก์ชันในรถอย่างชาญฉลาด แสดงภาพและสถานะรถแบบ 3 มิติเรียลไทม์ สั่งงานอุปกรณ์ผ่านหน้าจอ เช่น เปิด-ปิดฝากระโปรงท้าย รองรับคำสั่งเสียง 21 ภาษาและสำเนียงท้องถิ่น รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

พร้อมระบบนำทาง Petal Maps Global Navigation สามารถ แสดงสภาวะการจราจรแบบเรียลไทม์ พร้อมนำทางออนไลน์แบบไฮบริด และแผนที่แบบ 3 มิติ

ทาง GWM มอบความกระหึ่มด้วย ระบบลำโพง Amor จำนวน 21 ตำแหน่ง ให้คุณภาพเสียงรอบทิศทาง สามารถปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ

รายละเอียดทางเทคนิค และ สมรรถนะการขับขี่

ใต้เรือนร่าง WEY G9 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Hi4 (Hybrid Intelligent 4WD) แนะนำ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ Permanent-Magnet Synchronous ทำงานร่วมกับเกียร์อัจฉริยะ DHT ช่วยขับเคลื่อนชุดล้อทั้ง 4 แบบ AWD มอบกำลังขับสูงสุด 325 kW (442 PS) แรงบิดสูงสุด 642 นิวตัน–เมตร

ติดตั้งเข้ากับแบตเตอรี่ลิเธียม Ternary ความจุ 44.28 kWh สามารถขับไฟฟ้าล้วน (EV Mode) ไกลถึง 170 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC)

ชาร์จไวด้วย DC Fast Charging สูงสุด 60 kW และรองรับชาร์จ AC Slow Charging สูงสุด 6.6 kW พร้อมถังน้ำมันขนาด 58 ลิตร เมื่อชาร์จไฟเต็มและเติมน้ำมันเต็มถัง WEY G9 สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุดมากกว่า 1,000 กิโลเมตร

และเพื่อการใช้งานที่ครอบคลุม ตัวรถยังมาพร้อมโหมดการขับขี่และระบบส่งกำลังที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกสภาพถนนและทุกสไตล์การใช้งาน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักคือโหมดพลังงาน และโหมดการขับขี่ ดังนี้

• โหมดพลังงาน: EV, โหมดเน้น EV (EV Priority) และ HEV Mode
• โหมดการขับขี่: Eco, Normal, Sport, Snow และ AWD Mode

WEY G9 มาพร้อมระบบควบคุมที่ให้ทั้งความนุ่มนวลและความมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้วยระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ผสานระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามความเร็ว ที่ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมทั้งการขับในเมืองและทางไกล พร้อมโหมดช่วยผ่อนแรงพวงมาลัย 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดเบา โหมดสบาย และโหมดสปอร์ต

นอกจากนี้ ยังเสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรกแบบดิสก์เบรกสี่ล้อพร้อมครีบระบายความร้อน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหยุดรถ และให้ความมั่นใจตลอดการใช้งานไม่ว่าจะในสภาพการจราจรหรือเส้นทางรูปแบบใดก็ตาม

นอกจากนี้ WEY G9 ยังมีระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ให้มามากถึง 28 รายการ เพื่อยกระดับมาตรฐานการขับขี่ให้มั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยมีระบบสำคัญดังต่อไปนี้ ได้แก่

1. ระบบติดต่อเบอร์ฉุกเฉิน
2. กล้องแสดงภาพรอบทิศทางแบบ 360 องศา
3. ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent)
4. ระบบจอดอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (APA)
5. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
6. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
7. ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
8. ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
9. ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (MEB)
10. ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
11. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
12. ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
13. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
14. ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
15. ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW)
16. ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
17. ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
18. ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 (SCM)
19. ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน และควบคุมความเร็วลงทางลาดชัน (HSA / HDC)
20. ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
21. ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู (DOW)
22. เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง (6 จุด / 6 จุด)
23. ระบบช่วยเตือนสัญลักษณ์จราจร
24. ระบบแจ้งเตือนการขับรถเร็วเกินกำหนด
25. ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
26. จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
27. ระบบล็อกป้องกันเด็ก
28. ระบบป้องกันการชนครั้งที่สอง (SCM)

GWM WEY G9 Hi4 จะพร้อม เปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงาน Motor Expo 2025 ปลายเดือนนี้