แฟนๆ Nissan ดีใจที่ Nissan X-TRAIL e-Power นำเข้าจากญี่ปุ่นเข้ามาขายไทยในช่วงปลายปีนี้ที่งาน Motor Expo 2025

แต่เมื่อ Nissan ส่งทีเซอร์ภาพนี้อุ่นเครื่องก่อนเปิดตัวด้วยภาพนี้อาจทำให้แฟนๆอาจกังวลใจพอสมควรเพราะภาพที่ปรากฎนั้นเป็น X-TRAIL เจเนอเรชันที่ 4 รหัส T33 หน้าเก่าก่อนปรับรุ่นปรับโฉมนั่นเอง

ตั้งแต่กระจังหน้ารูปตัววีขนาดใหญ่สีดำเข้ม ไฟหน้า Matrix LED ดีไซน์เรียว ขยับขึ้นไปเป็นไฟ DRL อยู่บนและไฟเลี้ยวอยู่ในชุดเดียวกัน กันชนหน้าขนาดใหญ่ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้า LED ราวหลังคาสีเงิน มีเสาอากาศครีบฉลาม ชุดไฟท้าย LED สไตล์บูมเมอแรงเพิ่มการมองเห็นได้ชัดขึ้นประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติพร้อมระบบแฮนด์ฟรี คิ้วขอบล้อสีดำเงา ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาด 18-19 นิ้ว

ภายในอาจได้ของเดิมทั้ง มาตรวัดดิจิตอล Full LCD ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาด 12.3 นิ้ว Nissan Connect รองรับ Apple CarPlay Android Auto เชื่อมการทำงานของระบบนำทางในตัวจอสัมผัส พร้อมลำโพงคุณภาพ 9 จุด จาก Bose
จอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้าสี head-up display 10.8 นิ้ว เครื่องปรับอากาศแยกโซน 3 Zone ซ้าย-ขวา และด้านหลัง คอนโซลเกียร์คล้าย Kicks e-Power
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน เบาะกึ่งหนังแท้ แบบ 2 ตอน 5 ที่นั่ง โดยที่นั่งตอน 2 สามารถเลื่อนและพับเก็บแบบ 40:20:40 ได้ ระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging ม่านบังแดดประตูหลังซ้าย-ขวา และช่องเสียบปลั๊ก 100V AC power supply สามารถเสียบปลั๊กใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้

ขุมพลัง e-Power Turbo เจเนอเรชันที่ 2 ขนาด 1.5 ลิตร เบนซิน VC Turbo 3 สูบ ให้กำลังถึง 144 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร มาพร้อมรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า BM46 เป็น 204 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร และจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลัง MM48 AC3 Synchronous Motor ให้พลัง 136 แรงม้า แรงบิด 195 นิวตันเมตร ให้พลังรวมมากขึ้นเป็น 340 แรงม้า เพิ่มแรงบิดเป็น 525 นิวตันเมตร พร้อมโหมดการขับขี่ 5 โหมด ทั้ง Sport, Off-Road, Snow, Auto และ ECO

ติดตั้งระบบ e-Pedal ซึ่งใช้คันเร่งในการกดเร่งแซงและชะลอความเร็วในชุดเดียวกัน โดยชุด e-Pedal สามารถชะลอหยุดจนถึงจุดหยุดนิ่ง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE ควบคุมได้สำหรับล้อทั้งสี่ ให้ความสมดุลในประสิทธิภาพที่ทรงพลังพร้อมรองรับการขับขี่ในทุกสภาพอากาศ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ทำให้การขับขี่มีความสมดุลและมั่นคงด้วยพลังระดับรถสปอร์ตในพริบตา เบื่องต้นเปิดตัวพร้อมราคาอย่างเป็นทางการที่งาน Motor Expo 2025 วันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม
