Home » Toyota Hilux Travo กระบะเจนใหม่ สู่ยุคที่ 9
2026 Toyota Hilux Travo 4Trex Overland
รถใหม่ รถใหม่ในประเทศ ราคารถใหม่

Toyota Hilux Travo กระบะเจนใหม่ สู่ยุคที่ 9

ผ่านไป 10 ปี พอดี ลุยตลาดรถกระบะสุดเข้มข้นในไทยของ Toyota Hilux Revo ในที่สุดก็ถึงเวลาส่งไม้ต่ออย่างเป็นทางการสักทีกับ Toyota Hilux Travo ซึ่งนับเป็นเจเนอเรชันที่ 9 แล้ว ของรถยนต์ตระกูลนี้

2026 Toyota Hilux Travo 4Trex Overland

Toyota Hilux Travo ยังคงถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม IMV แบบเดียวกับ Toyota Hilux Revo รวมถึง Toyota Hilux Champ ซึ่งเดิมทีใช้กันมาตั้งแต่ Toyota Hilux Vigo และเพื่อให้มันยังคงสามารถเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะขนาดน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 1 ตัน ทาง Toyota ก็ได้จัดการปรับปรุง และปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มนี้ใหม่ขึ้นไปอีกขั้น เพื่อให้มันกลายเป็นรถกระบะที่น่าใช้ขึ้นไปอีก

โดยจากการสำรวจความต้องการและโจทย์การใช้งานของลูกค้าชาวไทย ทาง Toyota พบว่านับวันลูกค้าเหล่านี้มักมีความต้องการใช้งานรถกระบะที่เดิมคือมีไว้ใช้เพื่อเป็นยานพาหนะสำหรับขนของแบกสัมภาระ ให้กลายเป็นยานพาหนะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ

ทำให้หนึ่งในโจทย์สำคัญของการพัฒนารถ Toyota Hilux Travo ครั้งนี้ จึงเป็นการพัฒนา และปรับปรุงให้มันกลายเป็นรถกระบะที่มีความเป็นรถยนต์นั่งมากขึ้น มอบความสะดวกสบายในการใช้งานให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ในเรื่องของหน้าตา ลูกเล่น แต่ยังรวมถึงสมรรถนะการขับขี่ในองค์รวมอีกด้วย

2026 Toyota Hilux Travo Prerunner

นั่นจึงทำให้ Toyota Hilux Travo รุ่นใหม่ จะมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ต่างไปจากเดิมแทบทุกจุด เริ่มตั้งแต่งานดีไซน์ภายนอก ที่ถูกออกแบบจากทีม Toyota Australia ภายใต้นิยาม “Cyber Sumo” ซึ่งประกอบไปด้วย กันชนหน้าแบบใหม่ ที่ถูกทำให้ดูมีความบึ้งตึง มากกว่าเดิม เส้นสายกรอบโดยรวมที่ทำให้ดูเหมือนนักซูโม่ตั้งท่าพร้อมโจมตีคู่แข่งด้านหน้า, กระจังหน้าแบบช่องตะแกรงหกเหลี่ยม, กรอบไฟหน้าแบบใหม่ ที่จะถูกทำให้ดูแบน เรียวกว่าเดิม, ไฟตัดหมอกวางไว้ในตำแหน่งล่างเกือบสุด โดยจะติดตั้งขนาบข้างชิ้นกันกระแทกแนวล่างกันชน

ขยับขึ้นไปด้านบนจะพบกับฝากระโปรงแบบใหม่ ที่ถูกทำให้มีขยักหนาด้านข้าง และแบนราบตรงกลางเพื่อลดแรกกระแทกต่อผู้คนเดินถนน กรณีเกิดการชนโดยไม่ได้ตั้งใจ และทางด้านหน้าฝากระโปรงจะมีแถบคาดสีดำ ซึ่งประทับชื่อแบรนด์เป็นตัวอักษร “T O Y O T A” ไม่ใช่ตราสัญลักษณ์แบรนด์สามห่วงแบบดั้งเดิมอีกต่อไป

2026 Toyota Hilux Travo 4Trex Overland

ด้านข้างตัวรถมาพร้อมกับงานออกแบบแก้มข้างหน้า-หลังใหม่ โดยเน้นไปที่การเพิ่มความเหลี่ยมสัน และบึกบึนใหม่มากกว่าเดิม และจะยิ่งเห็นชัดขึ้นในรุ่น Travo Overland ซึ่งเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ มาแทนตัว Rocco ซึ่งมีการติดตั้งชุดคิ้วซุ้มล้อเสริมเข้ามา

และจากด้านข้างตรงนี้ จะทำให้เราพบว่าตัวรถมาพร้อมกับบันไดข้างแบบใหม่ ซึ่งมีการปรับลวดลายบันไดให้เป็นแบบหกเหลี่ยมซึ่งช่วยให้การเหยียบปีนมีความมกระชับ มั่นคงยิ่งขึ้น แถมยังช่วยลดน้ำขังบนตัวบันไดข้างได้ดีกว่าเดิม ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานขณะบุกตะลุยได้เป็นอย่างดี

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการปรับลวดลายล้อขนาด 18 นิ้วใหม่ ให้ดูพร้อมลุยกว่าเดิม แถมยังเพิ่มความหนาขอบให้มากขึ้น เพื่อลดกระแสลมวนด้านข้างตัวรถ ช่วยให้รถมีความลู่ลมมากกว่าเดิม และยังปรับลดน้ำหนักให้เบากว่าเดิม พร้อมเพิ่มบันไดข้างกระบะหลังในทุกรุ่นย่อย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน

ส่วนด้านท้ายตัวรถ จะมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ไฟท้ายให้ดูใหญ่โตมากขึ้น และยังใช้ดวงไฟเบรกแบบ LED โดยไฟท้ายยังคงเป็นหลอดไส้ และปรับฝากระบะท้ายให้เป็นแบบปั๊มนูนใหญ่โตมากขึ้น และปั๊มตัวอักษรชื่อแบรนด์ขนาดใหญ่ไว้บนฝากระบะท้าย แทนการใช้โลโก้แบรนด์แบบดั้งเดิม

2026 Toyota Hilux Travo 4Trex Overland

ภายในห้องโดยสาร ปรับดีไซน์ใหม่ทั้งหมดเพื่อเพิ่มความทันสมัย ทั้งการตัดระเบียบเส้นสายคอนโซนหน้าและคอนโซลกลางให้เป็นเส้นตรงมากขึ้น เพื่อเพิ่มความทะมัดทแมงในการใช้งาน โดดเด่นด้วยชุดหน้าจอมาตรวัด และจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว ที่ยกมาจาก Toyota Camry พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ปรับเปลี่ยนหน้าตาพวงมาลัยใหม่ ให้มีความเป็นเหลี่ยมสันมากขึ้น ซึ่งเป็นพวงมาลัยแบบเดียวกับ Land Cruiser FJ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าหน้า

ปรับฝาปิดช่องเก็บของที่คอนโซลกลาง ให้มีความยาวมากขึ้น เพื่อการวางแขนที่สะดวกสบายกว่าเดิม ปรับตำแหน่งปุ่มปรับลูกเล่นการทำงานต่างๆภายในห้องโดยสารที่คอนโซลกลางใหม่ ให้ใหญ่ขึ้น และจับได้ถนัดมือมากขึ้น และใมนรุ่นบนๆยังมีการเพิ่มช่องถาดสำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย รวมถึงยังมีปุ่มปรับโหมดการขับขี่เข้ามา และมีการเพิ่มปุ่มปรับระบบเบรกมือไฟฟ้า รวมถึงช่องวางแก้วน้ำตรงกลาง ที่สามารถยกถาดออกได้ เพื่อเพิ่มขนาดช่องให้ใหญ่ขึ้นได้อีก

นอกจากนี้ บนคอนโซลหน้าด้านข้าง ยังมีช่องวางแก้วน้ำพร้อมฝาปิดเพื่อความเรียบร้อย เสริมด้วยช่องเก็บของตามจุดต่างๆรอบห้องโดยสารที่ให้มารอบคัน และยังมีการเพิ่มระบบลำโพงสูงสุดถึง 8 จุด โดนมี 2 จุดติดตั้งไว้ด้านบนห้องโดยสารเพื่อเพิ่มมิติเสียงให้กว้างยิ่งขึ้น

เบาะนั่งถูกปรับดีไซน์ใหม่ ให้มีความกระชับ และซับแรงสั่นสะเทือนที่ส่งมาจากถนนผ่านช่วงล่าง แชสซีย์ และโครงห้องโดยสารได้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดความเหนื่อยล้าขณะขับใช้งานเป็นระยะทางไกลๆได้เป็นอย่างดี และในรุ่นบนๆ ยังมีการเพิ่มระบบปรับไฟฟ้า พร้อมตัวปรับ Lumbar Support มาให้ตามสมัยนิยม

2026 Toyota Hilux Travo 4Trex Overland

ในส่วนการปรับปรุงเชิงโครงสร้าง จะมีทั้งการปรับปรุงพื้นห้องโดยสารให้แข็งแรงยิ่งขึ้นเพื่อลดความโคลงตัว และเปลี่ยนบูชยางรองตัวถังใหม่ ให้เป็นแบบ Shear Type เพื่อการซับแรงสั่นสะเทือนจากแชสซีย์ก่อนถ่ายไปสู่ห้องโดยสารได้ดียิ่งขึ้น

ตัวแชสซีย์เอง ก็มีการปรับใหม่ ให้มีความแข็งแรงมากกว่าเดิม รวมถึงปรับสัดส่วนแชสซีย์ช่วงใต้ห้องเครื่องใหม่ ให้รองรับกับชุดระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ด้านหน้าใหม่ และโช้คอัพใหม่ ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนสัดส่วนยกแผงเช่นกัน เพื่อให้มันสามารถจัดการกับแรงสั่นสะเทือน และการเข้าโค้งได้ดีกว่าเดิม

เช่นเดียวกันในส่วนของโครงสร้าง หรือแชสซีย์ด้านหลัง ก็มีการเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างบริเวณเหนือแหนบด้วยการใส่แผ่นเหล็กดามไว้ด้านในช่วงบนเพิ่มอีกหนึ่งชั้น และปรับเซ็ทแหนบกับโช้คใหม่เช่นกัน เพื่อให้มันสามารถซับแรงสั่นสะเทือนได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน และยังช่วยลดอาการท้ายขวางที่เป็นจุดอ่อนของ Revo ได้ดียิ่งขึ้นอีก

นอกจากนี้ ทาง Toyota ยังมีการปรับปรุงจุดยึดแร็คพวงมาลัยใหม่ เปลี่ยนรูปแบบยางรองแท่นเครื่องเป็นแบบไฮดรอลิก เพื่อลดการสั่นสะเทือนที่จะคอยรบกวนผู้ใช้ในห้องโดยสาร และยังมีการเพิ่มระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS มาให้อีก ซึ่งทาง Toyota ระบุว่าพวกเขาได้มีการปรับจูนให้มันสามารถแปรผันความหนืด และความหนักของพวงมาลัยได้อย่างเหมาะสมในทุกย่านความเร็วมากที่สุด โดยอ้างอิงจากความชอบของคนไทยเป็นหลักอีกด้วย

และท้ายสุด คือการเพิ่มระบบดิสก์เบรกหลังพร้อมระบบเบรกมือไฟฟ้าเข้ามาในรุ่นกลางขึ้นไป เพื่อเพิ่มความมั่นใจ และความสะดวกสบายในการใช้งานให้กับลูกค้าหัวสมัยใหม่

ด้านเครื่องยนต์ คราวนี้ทาง Toyota ตัดสินใจพักการใช้เครื่องยนต์ 2GD-FTV ไปก่อน และใส่เครื่องยนต์ 1GD-FTV ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร เทอร์โบ เข้าไปในทุกรุ่นย่อย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ 2 ล้อ ตัวถังตอนเดี่ยว ตอนครึ่ง หรือ 2 ตอน เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานรถได้อย่างเต็มกำลัง แม้ว่ามันจะยังคงให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร เท่าเดิมก็ตาม

ระบบส่งกำลังเอง ก็ยังคงมีให้เลือกทั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือ ระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราทดเดิม แต่ที่เพิ่มเข้ามาในคราวนี้ คือการเพิ่มโหมดการขับขี่ที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่โหมดของเครื่องยนต์ แต่ยังรวมถึงโหมดการขับเคลื่อนในตัวรถรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีทั้งโหมด ทางเรียบ, ทางลื่น, ทางทราย, ทางโคลน, และทางหิน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ด้วยการที่เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ได้ถูกถอดพักออกไป ทาง Toyota จึงได้มีการปรับปรุงระบบเกี่ยวข้องเครื่องยนต์ใหม่ ให้ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ให้น้อยลง ทำให้เครื่องยนต์ 2.8 มีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่าเดิม 7.5% จนอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรเลยทีเดียว

2026 Toyota Hilux Travo-E 4Trex

สำหรับลูกค้าสายรักษ์โลก คราวนี้ Toyota ยังมีการทำ Travo-e ซึ่งเป็นรถกระบะ Chassis Base ขุมกำลังพลังงานไฟฟ้า 100% เป็นครั้งแรกของแบรนด์เข้ามาอีกด้วย โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ตัวรถจะมีการเปลี่ยนไปใช้ขุมกำลังมอเตอร์คู่ ให้กำลังรวมสูงสุด 196 แรงม้า

โดยมอเตอร์หน้าจะมีแรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร และด้านหลังมีแรงบิดสูงสุด 269 นิวตันเมตร โดยจะทำงานร่วมกันในลักษณะของระบบขับเคลื่อนแบบ AWD ที่สามารถแปรผันอัตราการกระจายแรงบิดได้ตามโหมดการขับขี่และสถานการณ์การใช้งานของตัวรถ และยังมีการปรับเปลี่ยนระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบ Di-Dion เพื่อให้สอดรับกับรูปแบบขุมกำลัง

ด้านแบตเตอร่ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ในมแชสซีย์ พร้อมโครงกันกระแทกด้านล่างอย่างดี จะมีขนาด 59.2 kWh ซึ่งรองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 315 กิโลเมตร NEDC และสามารถชาร์จไฟระบบ DC ได้ด้วยกำลังไฟสูงสุด 125 kW แถมยังสามารถลุยน้ำได้ลึกสุดถึง 700 มิลลิเมตร ซึ่งอาจไม่สูงมากนัก แต่ทาง Toyota ระบุว่าตัวเลขสมรรถนะข้างต้น ถือว่าอยู่ในจุดที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของรถรุ่นนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ หรือการใช้งานในระบบฟลีทบริษัทพอใจแล้ว

2026 Toyota Hilux Travo-E 4Trex

และท้ายสุด คือการเพิ่มระบบ Toyota Safety Sense 3.0 ซึ่งจะประกอบไปได้วยระบบบความปลอดภัยขั้นสูง ทั้ง Adpaptive Cruise Control พร้อมระบบ Stop&Go, ระบบ Blind Spot, ระบบป้องกันการออกนอกเลน และอื่นๆอีกมากมายเข้ามา

โดย Toyota Hilux Travo พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในวันนี้ และสำหรับเฟสแรก จะมีการวางจำหน่ายเฉพาะรุ่นที่เป็นตัวถังแบบขับสองยกสูง (Prerunner) และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4Trex) เท่านั้น โดยจะแบ่งเป็นรุ่นย่อย และราคาดังนี้

  • Toyota Hilux Travo 4Trex 2.8 MT – Standard Cab : 774,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo 4Trex 2.8 AT – Standard Cab : 826,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo Prerunner Smart 2.8 MT – Smart Cab : 789,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo Prerunner Smart 2.8 AT – Smart Cab : 839,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo Prerunner Premium 2.8 MT – Smart Cab : 859,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo Prerunner Premium 2.8 AT – Smart Cab : 909,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo 4Trex Premium 2.8 MT – Smart Cab : 984,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo 4Trex Premium 2.8 AT – Smart Cab : 1,029,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo Prerunner Smart 2.8 MT – Double Cab : 895,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo Prerunner Smart 2.8 AT – Double Cab : 945,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo Prerunner Premium 2.8 MT – Double Cab : 949,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo Prerunner Premium 2.8 AT – Double Cab : 999,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo 4Trex Premium 2.8 MT – Double Cab : 1,090,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo Prerunner Overland 2.8 AT – Double Cab : 1,102,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo Prerunner Overland Plus 2.8 AT – Double Cab : 1,176,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo 4Trex Overland 2.8 AT – Double Cab : 1,292,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo 4Trex Overland Plus 2.8 AT – Double Cab : 1,366,000 บาท
  • Toyota Hilux Travo-e 4Trex – Double Cab : 1,491,000 บาท
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.