เอสยูวีเล็กค่าย Suzuki ทำตลาดญี่ปุ่นมาถึง 8 ปี ก็สมควรแก่เวลาแล้วที่จะต้องปรับโฉมอีกครั้งแต่ครั้งนี้ปรับใหญ่บิ๊กไมเนอร์เชนจ์สำหรับ Suzuki XBEE

เริ่มที่กระจังหน้าออกแบบใหม่แนวนอนไส้ในเป็นรังผึ้งสีเงินประกบกับโลโก้ Suzuki รับกับไฟหน้า LED ทรงกลมดวงใหญ่ขึ้นพร้อมติ่งมุมขอบซ้าย-ขวาเป็นตำแหน่งไฟเลี้ยว กันชนหน้าออกแบบใหม่กลมกลืนกับช่องระบายอากาศพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมกรอบบนขอบกันชนหน้าสีดำ
ด้านข้างมาพร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ทูโทน 16 นิ้ว พร้อมสีตัวรถที่แตกต่างให้เลือกทั้งสีทูโทนตกแต่งพิเศษบริเวณหลังคารถ กระจกมองข้าง กาบข้างสีตกแต่งประตูรถ และคิ้วขอบล้อสีดำ พร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งลงตัวด้วยกันชนหลังติดตั้งแผงทับทิมแนวนอน 2 ฝั่ง พร้อมสปอยเลอร์หลังและไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ภายในใหม่หมดตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าทรงแท่งพร้อมช่องแอร์ทรงเหลี่ยมจากเดิมเป็นทรงกลมพร้อมย้ายช่องแอร์ตรงกลางไปอยู่ใต้จอสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนังออกแบบใหม่ มาตรวัดความเร็วสี TFT ขนาด 7 นิ้ว จอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาด 9 นิ้ว
ติดตั้งกระจกตัดแสง กันความร้อน UV & IR cut มีช่องเสียบ USB (1 Type-A, 1 Type-C) เข้ามาอำนวยความสะดวกในการชาร์จและเชื่อมต่อมือถือเข้ากับระบบความบันเทิงในรถ มีไฟ LED ภายในห้องโดยสารและจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้า HUD มาให้
เบาะนั่งหุ้มผ้ากันน้ำหก และเบาะนั่งกึ่งหนังแท้ให้เลือก เบาะหลังปรับเลื่อนเอนได้สูงสุด 165 มิลลิเมตรและยังพับเบาะได้แบบ 50:50 พร้อมกล่องใส่ของหลังเบาะมากถึง 371 ลิตร มีระบบอุ่นเบาะและพวงมาลัยติดมาให้เป็นออปชันมาตรฐาน นอกจากนี้ยังรองรับ Suzuki Connect ที่ให้คุณใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Suzuki Emergency Call และส่งเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศได้จากระยะไกล
เครื่องยนต์ใหม่รหัส Z12E ขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบ ให้กำลัง 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร จับคู่กับ Mild Hybrid ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า WA06D เน้นการออกตัว ให้กำลัง 3.1 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 60.6 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่แบบ CVT พร้อม Paddle Shift เลือกได้ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ALLGRIP ประหยัดมากถึง 22.8 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐาน WLTC
พร้อมความปลอดภัยเต็มคันกับ Suzuki Safety support รวมถึงระบบช่วยควบคุมการเข้าโค้งแบบแอคทีฟเพื่อลดอาการแอ่นขณะเข้าโค้ง การใช้กาวหน่วงการสั่นสะเทือนช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดีให้การขับขี่สะดวกสบาย
เปิดขายญี่ปุ่นถึง 4 รุ่นย่อย 2 เกรดตั้งแต่ MX กับ MZ ในราคาเริ่มต้น 2,157,100-2,500,300 YEN หรือราว 489,000-569,000 บาท (ไม่รวมภาษีของเมืองไทย) โดยมีสีภายนอก 13 สี แบ่งเป็นสีโมโนโทน 4 สี พร้อมสีใหม่ Mystic Blue Metallic และสีทูโทนอีก 9 สี พร้อมการตกแต่ง Black Tough ผสานการตกแต่งทั้งหลังคา แผงข้าง และชุดตกแต่งกันชนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว