กว่า 30 ปีที่ LEXUS LS บิ๊กซีดานพรีเมียมทำตลาดมายาวนานแม้บางประเทศยุติไปแล้วแต่บางแห่งยังจำหน่ายต่อไปแม้ไม่มีวี่แววเจนใหม่มาสานต่อ

ล่าสุดเปิดตัวรุ่น MY2026 ในร่างเจนที่ 5 สำหรับ LEXUS LS ยังคงใช้หน้าตาที่ปรับโฉมไปเมื่อ 5 ปีก่อนมาใช้มาพร้อม 2 สีใหม่ทั้ง สีขาว “White Nova Glass Flake” ซึ่งเป็นสีสะอาดตา และ สีน้ำเงิน “Deep Blue Mica” ผสานความสดใสเข้ากับความแวววาวอันล้ำลึก โดยตัวรถยังคงใช้พื้นฐาน TNGA GA-L
ภายในเดิมๆทุกอย่างเพียงแต่รุ่น MY2026 เพิ่มระบบอุ่นเบาะเข้ามาในเบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลัง พร้อมมาตรวัดความเร็วดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงคุณภาพ Mark Levinson QLI ระบบเสียงสามมิติ 16 ช่องทาง พร้อม ลำโพง 23 จุด พร้อมใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจดิจิทัลได้พร้อมหน้าจอด้านหลังเบาะคู่หน้าขนาด 11.6 นิ้ว พร้อมการตกแต่งที่บรรจง แบบ Nishijin & Haku
ด้านขุมพลังเป็น V6 ที่เลือกได้ถึง 2 ขนาดตั้งแต่เบนซิน 3.5 ลิตรรหัส V35A-FTS เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 421 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร ในรุ่น LS500
เบนซิน Hybrid 3.5 ลิตร รหัส 8GR-FXS ให้กำลังถึง 299 แรงม้า แรงบิด 356 นิวตันเมตร ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว รุ่น 2NM ให้กำลังถึง 179 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกันได้กำลังสูงถึง 359 แรงม้า คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด Multi Stage Hybrid System ในรุ่น LS500h ทั้ง 2 ขนาดเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD
โดยรุ่น MY2026 F Sport MY2026 ปรับเปลี่ยนในส่วนคาลิปเปอร์เบรกเป็นสีแดงสปอร์ต พร้อมโลโก้สีเงินที่ดูมีสไตล์และหรูหราและความปลอดภัยเต็มคัน Lexus Safety System+ โดยเปิดราคาขายที่ญี่ปุ่น 16 รุ่นย่อย 4 เกรดทั้งรุ่น EXECUTIVE รุ่น Version L รุ่น F SPORT และรุ่น I package เริ่มต้น 12,330,000-17,730,000 YEN หรือราว 2,669,000-3,829,000 บาท