มาสด้า เป็นค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นรายล่าสุด ที่เพิ่งจะตัดสินใจทำตลาดรถไฮบริด ในรถยนต์ Mazda CX-5 ที่หลายคนต่างให้ความสนใจ

ถึงแม้จะมีรถไฮบริดเข้ามา แต่พอร์ทของมาสด้าทั่วโลก ยังเป็นเครื่องสันดาป และแบรนด์ยังมั่นใจมากกว่า ยอดรถไฮบริดของบริษัทจะยังไม่มากกว่ารถสันดาป จนกว่าจะใกล้ปี 2030
แม้จะฟังดูแปลกและตกขบวนยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าหรือ XEV แต่มาสด้า ดูจะมีเหตุผลของตัวเองในเรื่องนี้
Vinesh Bhindi บอสใหญ่มาสด้า ออกเตรเลียให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดดังกล่าวว่า เขามั่นใจมากว่ารถยนต์ Mazda CX-5 รุ่นปกติจะยังขายดี และยอดไฮบริดน่าจะยังไม่สามรถแซงได้เมื่อมันวางขายจริง
“เราอยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายที่สำคัญและความต้องการของลูกค้า(ในออสเตรเลีย) ยังคงต้องการทั้งรถสันดาป และ รถไฮบริด”
“แต่การเปลี่ยนถ่ายไม่ใช่เกิดขึ้นวันนี้แล้ววันหน้า พลิกเป็นหลังมือทันที มันจะมีขั้นตอนค่อยเป็นค่อยไป ตามกระแสของลูกค้า ทางมาสด้า ออสเตรเลีย จึงยังจะขายรถยนต์รุ่นเครื่องเบนซิน 2.5 ต่อไป พร้อมกับเครื่องยนต์สันดาป”
CX-5 ใหม่จะเริ่มขายในครึ่งหลังของปี 2026 และรุ่นไฮบริดจะออกมาในปี 2027
อย่างไรก็ดี,เรื่องความต้อวการอเนกประสงค์ไฮบริด ดูเหมือนจะต่างจาก โตโยต้าที่เน้นที่ตลาดรถยนต์ไฮบริดโดยตรง ในหลายรุ่น
แต่ดูเหมือนมาสด้าจะมองว่า การเปลี่ยนถ่ายเร็วเกินไป อาจจะเสียฐานลูกค้ามาสด้า ที่รักการขับขี่จากเครื่องยนต์สันดาป
ที่มา Drive