ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผู้ผลิตพากันปรับขุมกำลังรถยนต์ของแบรนด์ให้กลายเป็นขุมกำลังไฟฟ้า ไม่เว้นแม้กระทั่งกลุ่มรถกระบะก็ยังมีให้เห็นกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับทาง Mazda แล้ว พวกเขากลับดูเหมือนจะไม่ได้มีทีท่ารีบร้อนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

หลายคนคงทราบกันดีว่า รถกระบะหนึ่งเดียวที่ Mazda มีในตอนนี้ ก็คือ Mazda BT-50 ซึ่งใช้พื้นฐานในการสร้างร่วมกันกับ Isuzu Dmax ที่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามันก็พึ่งจะมีการเปิดตัว Dmax EV รุ่นขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าล้วนไป ทำให้เกิดแนวคิดต่อมาในทันทีว่าเร็วๆนี้ ทาง Mazda เอง ก็คงจะนำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้กับรถกระบะของตนด้วย
แต่จากข้อมูลล่าสุด ทางค่ายกลับปฏิเสธอย่างชัดเจนในทันทีเมื่อสื่อ Drive.com.au ได้มีการสอบถามประเด็นนี้กับ Vinesh Bhindi บอสใหญ่ของ Mazda Australia
“จากสถานการณ์ในตอนนี้, เราไม่พร้อมที่จะประกาศอะไรทั้งสิ้น” Bhindi กล่าว “ผมไม่คิดว่าเราจะมีรถกระบะไฟฟ้าในเร็วๆนี้”
“แต่เราจะให้ตลาดเป็นคนบอกว่าเมื่อไหร่กันที่จะมีช่องว่างสำหรับมัน, และมีความต้องการมัน, แล้วตอนนั้น Mazda จึงจะตัดสินใจว่าเราจะใช้ทางเลือกไหนดี?”
ในทางกลับกัน Bhindi กลับให้ข้อมูลที่สวนทางแนวโน้มเพิ่มอีกว่า เครื่องยนต์ดีเซล จะยังคงสามารถใช้งานในรถกระบะต่อไปได้อีกนาน เพราะมันยังมีจุดเด่นเฉพาะตัวที่เหนือกว่าขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าอยู่ ไม่ว่าจะทั้งที่เป็นขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าล้วน หรือปลั๊กอิน-ไฮบริดก็ตาม
“ขุมกำลังดีเซล ในรถกระบะจะยังคงมีอยู่ต่อไป, ผมไม่เห็นอนาคตเลยว่า รถกระบะปลั๊กอินไฮบริดหรือไฟฟ้า จะเป็นทางเลือกเดียวที่ควรมีในอนาคต, ผมคิดว่าขุมกำลังดีเซลยังคงเหมาะสม(กับรถยนต์กลุ่มนี้)” Bhindi กล่าว
“และถ้าคุณลองดูข้อมูลในมาตรฐานมลพิษ NVES (มาตรฐานมลพิษ New Vehicle Efficiency Standard ของออสเตรเลีย), ขุมกำลังดีเซล ก็ยังคงมีอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 ที่ดีกว่าอยู่ดีเมื่อเทียบกับรถรูปแบบอื่นๆ”
“เราได้ลองจับตาดูว่าตลาดเปลี่ยนไปอย่างไรมากขึ้น เพราะมันเป็นตลาดขนาดใหญ่ และงานศึกษาของเราก็พบว่า ผู้คน ลูกค้า ที่ต้องการใช้งานรถกระบะสายลุย เพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอาจต้องการเอามันไปใช้ลากเรือ หรือลากรถบ้านเพื่อไปเที่ยวในสุดสัปดาห์ พวกเขาก็ยังไม่ต้องการจะใช้รถปลั๊กอินไฮบริดอยู่ดี แม้ว่ามันจะถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานในลักษณะดังกล่าวแล้วก็ตาม” Bhindi กล่าวเสริม
“และผมคิดว่า ยังมีผู้ซื้อรถกระบะอีกหลายคนที่ไม่ได้จะใช้รถในลักษณะนั้น ทั้งความต้องการในการบรรทุกหนัก การลากจูง หรือการลุย แต่ต้องการมันเพื่อใช้งาน (ขนของ ขนสินค้า)”, “และยิ่งตอนนี้มีข้อกำหนดด้านภาษี(สำหรับตลาดรถในประเทศออสเตรเลีย), มันก็ยิ่งสมเหตุสมผล (ที่คนส่วนมากก็ยังไม่เลือกไปใช้รถกระบะปลั๊กอินไฮบริดอยู่ดี)”