อาจจะจริงอยู่ว่าในปัจจุบัน รถยนต์ตระกูล Raptor ก็ให้ความสนุกสนานในการใช้งานล้นเหลือแล้วสำหรับสายลุย แต่ล่าสุดผู้บริหารของแบรนด์กลับมีการพูดคุยเพิ่มเติมว่า พวกเขายังอยากจะทำรถออฟโรดที่พร้อมมอบความบันเทิงให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้นไปอีก จนมันอาจเป็นออฟโร้ดเด้อที่มีสมรรถนะระดับซุปเปอร์คาร์ ด้วยแรงม้าระดับพันตัว

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าเหล่าผู้ผลิตซุปเปอร์คาร์ เริ่มสรรหาไอเดียแปลกใหม่ ด้วยการออกแบบรถของพวกเขาให้มาพร้อมกับการปรับแต่งจนรถสามารถเอาไปใช้งานในการลุยทางกันดารได้มากขึ้น เช่น Lamborghini Huracan Sterrato หรือ Porsche 911 Dakar ซึ่งพวกมันต่างได้กระแสตอบรับกลับค่อนข้างดีอยู่ไม่น้อย
นั่นจึงทำให้ Jim Farley ผู้บริหารสูงสุดของ Ford ที่เดิมทีก็มีไอเดียอยากให้แบรนด์ของเขาเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพื่อความสนุกโดยเฉพาะกับการใช้งานทางฝุ่นอยู่แล้ว ก็ยิ่งเกิดแนวคิดที่อยากจะทำรถซุปเปอร์คาร์สายลุยออกมาขายด้วย
“ไม่เคยมีรถ Porsche แห่งวงการออฟโร้ดมาก่อน และผมก็อึ้งที่คนไม่เคยคิดเรื่องนี้” Jim Farley กล่าวในพอดแคสต์ Hot Pursuit ของ Bloomberg ที่เจ้าตัวไปร่วมสัมภาษณ์

และในการให้ข้อมูลครั้งนี้เอง Jim ยังได้มีการเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า หากแบรนด์ของเขาจะทำรถซุปเปอร์คาร์สายลุยออกมา มันก็จะเป็นรถขุมกำลังพลังงานไฟฟ้า 100% ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุดราวๆ 1,000 แรงม้า HP หรือ 1,014 PS และจะมาพร้อมกับลูกเล่นจัดเต็มราวๆกับตัวแข่ง โดยเฉพาะช่วงล่างที่สามารถปรับเซ็ทได้ทุกค่า ตั้งแต่ช่วงยุบ, ความสูง, และความหนืดในการยืดยุบต่างๆ
ที่สำคัญคือมันจะไม่ได้รถกระบะ และไม่ใช้รถที่เกิดมาเพื่อปีนป่ายอุปสรรค แต่มีไว้ฝ่าทะเลทราย, ผืนหญ้า หรือดินกรวดเป็นหลักด้วยความเร็วสูงมากกว่า แต่ทางทีมพัฒนายังไม่สามารถระบุได้ว่าพื้นที่ในห้องโดยสารแบบไหนจะดีกว่ากัน ระหว่างทำให้มันเป็นรถ 2 ที่นั่ง หรือ 4 ที่นั่งกันแน่
โดยรถโปรเจ็กท์การทำรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะโดดเด่นในด้านพละกำลังระดับ 1,000+ แรงม้าโมเดลนี้ มีแนวโน้มว่าทาง Ford จะแอบเดินหน้าพัฒนาไปบ้างแล้ว กับการพัฒนาตัวแข่ง Ford Raptor T1 ที่พวกเขาใช้ลงทำการแข่งขันในศึก Dakar Rally เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพียงแต่อาจจะเป็นแค่เพียงการเก็บข้อมูลช่วงล่าง และงานโครงสร้างเท่านั้น เพราะขุมกำลังของตัวแข่งที่ว่านี้ ยังเป็นเพียงขุมกำลัง Coyote V8 5.0 ลิตร อยู่เลยนั่นเอง
ส่วนกำหนดการเปิดตัว และความเป็นไปได้ที่จะถูกนำออกมาขายจริง ทางผู้บริหารยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆ ซึ่งเข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นเพราะโรปเจ็คท์นี้อาจจะยังอยู่แค่ในขั้นตอนเริ่มต้น ศึกษาตลาด กับแนวโน้มการพัฒนาเท่านั้น และเราต้องรอการอัพเดทข้อมูลต่อไป หรือไม่ก็อาจจะถูกลืมหายไปเลย หากแบรนดืตัดสินใจไม่ไปต่อ