ช่วง 5-6 ปีก่อน เครื่องยนต์1600 ซีซี กลายเป็นเครื่องยนต์ที่ถูกผละจากค่ายรถชั้นนำทั้งหลาย ด้วยพลังขับน้อย กินน้ำมันมาก จนไม่เป็นที่นิยมเริ่มตายหายไป
เครื่องยนต์ขนาด 1600 ซีซี ยกธงขาวจากประเทศไทยไปเมื่อทศวรรษก่อน หลังจากการยุคติดการจำหน่ายของรถ Nissan Sylphy เก๋งซีดานค่ายนิสสัน ถึงจะยังมี Toyota Corolla Altis 1.6 เก็บเครื่องนี้เอาไว้ให้บรรดารถแท็กซี่ และกลุ่มองค์กรใช้ในรุ่นปัจจุบัน แต่มันก็ไม่ได้เป็นรถยอดนิยม เฉกเช่นวันวาน
ของมีค่าที่วิศวกร ไม่ลืม
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เครื่องยนต์ 1600 เริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังจากบรรดาวิศวกร เล็งเห็นว่ามันมีประโยชน์ ที่จะเอามาต่อยอด ในฐานะสันดาปรุ่นสุดท้ายที่มีพิษสงรอบตัว แรงด้วยประหยัดได้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากการเห็นอบรนด์อย่างฮอนด้า เอาเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ มาใช้ได้ครอบคลุมทุกด้าน กลายเป็นบล็อกกลางแจ้งเกิดให้กับแบรนด์
เครื่องยนต์ 1600 กลับมาครั้งนี้เห็นได้จากหลายแบรนด์ ที่น่าสนใจที่สุด เป็นโตโยต้าทผลิตเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรเทอร์โบสามสูบแถวเรียง ออกมาจาประจำการในรถยนต์ในรหัสแรงตระกูล GR Toyota GR Yaris และ Toyota GR Corolla
ตลอดจนยังมีแผนงานขยายไปยังรถรุ่นอื่นในอนาคต อาทิ Toyota GR 86 รุ่นถัดไปที่มีข่าวลืออกมาอย่างต่อเนื่อง หัวใจ 1.6 ลิตรจะถูกขัดเกลาไปใส่ หลังเครื่องยนต์ซูบารุ โดนลูกค้าบ่นว่ามันก็ดีแต่ยังไม่ใช่ความเป็นโตโยต้า

ทางฝั่งค่ายรถยนต์เกาหลีทั้งฮุนไดและเกีย มีเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี เทอร์โบชาร์จเข้าประจำการเช่นกัน ล่าสุดเพิ่งจะแนะนำไปใน Hyundai Santa FE ใหม่ รถอเนกประสงค์พ่อบ้านขับสนุกตอบโจทย์ลูกค้าชาวอเมริกา ที่เพิ่งจะมาลงตลาดในประเทศไทยหมาดๆ
ถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้าที่แบรนด์ตลาดนิยม เครื่อง 1.6 ลิตร เทอร์โบ Subaru คือผู้จุดประกายเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรเทอร์โบยุคใหมา่ แนะนำในรถยนต์ Subaru Levorg ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเทอร์โบ และ 2.4 ลิตรเทอร์โบในยุคใหม่ ภายใต้รหัสตัวรถ Subaru Layback
ทำไมถึงกลับมา
สาเหตุหลักที่เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรกลับมา ก็เนื่องความพอในเรื่องพละกำลังเมื่อติดตั้งเทอร์โบเข้าไป ไม่เยอะจนเกินงามกำลังขับสนุกความรู้สึกพอดี มันทำกำลังได้ราวๆ 150-300 แรงม้า จะแรงก็ได้จะทำให้ประหยัดก็ดี การพัฒนาเครื่องก็ไม่ยากมาก หรือสูญเงินจนรู้สึกว่าลงทุนไม่คุ้มค่า
ที่สำคัญ ยังมีฟีลลิ่งแบบเครื่องยนต์บล็อกกลาง แต่มีความจัดจ้านแบบเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กกว่า มีดีทั้งขับในเมืองและนอกเมือง เมื่อบวกกับการติดตั้งเทอร์โบ หัวฉีดแรงดันสูง และการจูนกล่อง
มันก็กลายเป็นเครื่องยนต์ที่ครบความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นสำคัญที่ละเอียดอ่อนในโลกวันนี้ มันค่อนข้างมีความประหยัดไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือเดินทางไกล อัตราบริโภคน้ำมันใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ในยุคก่อนหน้า ไม่ได้กินโหดดุอะไรมากมาย
อีกปัจจัยสำคัญ กฏหมายเรื่องมลพิษ และภาษี
การปล่อยไอเสียเครื่องขนาดนี้ค่อนข้างต่ำ แถมเนื่องจากพิกัดมันจริงๆ เป็นเครื่องยนต์บล็อกกลาง ตัวเลขไอเสียไม่ข้าม 200 กรัม ต่อกิโลเมตร
ยกตัวอย่าง Toyota GR Yaris รุ่นทั่วไป เครื่องรหัส G16E-GTS จากข้อมูลอีโค่สติ๊กเกอร์ในประเทศไทย จะปล่อยไอเสียราวๆ 192 กรัมต่อกิโลเมตร และมีอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 8.0 ลิตร /100 กิโลเมตร ถือเป็นอัตราบริโภคที่น่าพึงพอใจ
หรือ อย่าง Hyundai Santa fe Hybrid ใหม่ พ่อบ้านเทอร์โบไฮบริด ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 5.1 ลิตร /100 กิโลเมตร และปล่อยไอเสียเพียง 119 กรัม ต่อกิโลเมตร เท่านั้น
ไม่เพียงแค่นี้ อีกเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ เครื่อง 1600 หรือ 1.6 ลิตร เป็นขุมพลังรุ่นสุดท้าย ส่วนหนึ่งก็มาจากในบางประเทศ มีมุมมองสำคัญทางด้านเรื่องของการจัดเก็บภาษีประจำปี จากขนาดเครื่องยนต์ ตลอดจนข้อบังคับเรื่องการปล่อยไอเสียที่มีการเล่นกับขนาดห้องเผาไหม้ ก็เป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กัน
แต่ส่วนสำคัญที่สุด ในแง่ผู้ผลิตเครื่องยนต์เทอร์โบบล็อกกลาง มันง่ายกว่าในการต่อยอดไปยังรถกลุ่มยอดนิยม เหมือนที่โตโยต้าทำ สามารถลงได้ทั้ง รถซับคอมแพ็ค และรภคอมแพ็ค หรือจะใส่ไปได้ถึงอเนกประสงค์คอมแพ็ค ก็ยังลากตัวถังพร้อมผู้โดดยสารไหว
ไม่เพียงเท่านี้มีแนวโน้มสูง ที่เครื่องยนต์ขนาด 1.5-1.6 ลิตร จะอยู่รอดต่อไปในยุคหน้า มากกว่าเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ ในกรณีโตโยต้ามีรายงานว่ามีการศึกษา การนำเครื่องยนต์ใน Toyota GR Yaris ไปเผาไหม้ไฮโดรเจน หรือ เผาเชื้อเพลิงสังเคราะห์ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อน
มันจึงเป็นเครื่องยนต์ที่อยู่ในจุดพอเหมาะลงตัว สามารถเข้าคู่กับเทคโนโลยีอื่นๆ ได้ หรือ จะใส่เพรียวๆใช้งานก็ได้ จะปรับไปใส่ไฮบริดก็ดี เป็นเครื่องยนต์ที่มีพิษสงรอบด้านครอบคลุมทุกความต้องการ คุ้มที่จะลงทุน และอาจจะอยู่ไปได้ยาวๆ และเป็นที่คุ้นเคยกับหลายตลาดมากกว่าด้วย
จนไม่น่าแปลกใจเลย หลังจากที่มันถูกละเลยในยุค Engine Downsizing เมื่อสิบปีก่อนวันนี้ เครื่องยนต์บล็อกกลางรุ่นพ่อชอบใช้นิยมกลับมาอีกครั้ง และมันอาจกำลังทำหน้าที่สันดาปยุคสุดท้าย ก่อนที่โลกนี้อาจจะน่าเบื่อด้วยรถยนต์ไฟฟ้า และรถไฮบริด ที่อาจจะขับดีประหยัด แต่มันไม่เร้าใจ !! และต้องมานั่งห่วงหน้าพะวงหลัง เรื่องแบตเตอร์รี่ .. ถึงจะมีประกันแล้วก็ตามที