ไม่บ่อยนักที่รถ BMW รุ่น “ฐานล้อยาว” จะถูกนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย และในวันนี้ BMW ก็ได้เลือกที่จะเปิดตัว iX1 eDrive20 L M Sport ออกมา ด้วย ราคา 2,499,000 บาท เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับคนที่อยากได้รถอเนกประสงค์รุ่นเริ่มต้นของแบรนด์ แต่ก็อยากได้ความสะดวกสบายที่มากกว่าด้วยในเวลาเดียวกัน

ไม่ใช่ว่า BMW iX1 นั่งไม่สบาย แต่ด้วยความเป็นรถครอสโอเวอร์รุ่นเริ่มต้นของสารบบแบรนด์บีมเมอร์ ดังนั้น มันจึงอาจจะไม่ได้มีขนาดตัวที่ใหญ่โตมากนัก สำหรับการใช้งานในครอบครัว หรือสำหรับคนที่ชีวิตประจำวันต้องเผื่อแบกสัมภาระเยอะๆ ไม่ได้วันหนึ่งต้องมีเพื่อนฝูง พี่ ป้า น้า อา ติดรถไปไหนมาไหนอยู่บ่อยครั้งในเมือง

โดยเฉพาะกับชาวจีน ที่เป็นคนเรียกร้องให้เกิดรถสเป็คฐานล้อยาวขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารตอนหลัง และ BMW iX1 L ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจากจุดนี้ โดยดูเหมือนว่ากระแสตอบรับมันจะออกมาค่อนข้างดี จนคนไทยก็อยากได้เช่นกัน และทาง BMW ก็จัดให้ กับ BMW iX1 รุ่นย่อยใหม่ รหัส eDrive20 L M Sport

หน้าตาภายนอกอาจไม่ได้ดูต่างจากตัวรถรุ่นฐานล้อปกติมากนัก ยิ่งเมื่อมองจากหน้าตรง แต่หากมองด้านข้าง เราก็จะเห็นได้ทันทีว่าบานประตูคู่หลังของรถนั้นยาวกว่าเดิม และห้องโดยสารช่วงท้ายเองก็ยาวขึ้นด้วย เพราะตอนนี้ระมีขนาดด้านยาวที่มากขึ้นถึง 116 มิลลิเมตร เป็น 4,616 มิลลิเมตร, ระยะฐานล้อยาวกว่าเดิม 110 มิลลิเมตร เป็น 2,800 มิลลิเมตร

ผลที่ตามมาก็คือ พื้นที่ภายในห้องโดยสารตอนหลังช่วงวางขาที่มากขึ้น 81 มิลลิเมตร ในระดับขา และ 107 มิลลิเมตร ในระดับเข่า ช่วยให้ผู้โดยสารตอนหลัง รู้สึกอึดอัดน้อยลง และยังมีการเพิ่มความยาวเบาะรองนั่งอีก 15 มิลลิเมตร ช่วยให้มันซัพพอร์ทต้นขาได้เต็มที่ยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ตัวเบาะรองนั่งที่ว่า ยังมีการปรับแต่งโฟมเสริมเข้าไป เพื่อเพิ่มความแน่นและนุ่มอีก ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้นั่งได้เป็นอย่างดีเมื่อใช้งานขณะเดินทางเป็นระยะเวลานานๆ

ตัวพนักหลังเอง แม้จะยังคงเป็นแบบพับราบ 3 ส่วน 40:20:40 แต่ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น ตำแหน่งประตูฝาท้ายที่ถูกยื่นออกไป ทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด มีตัวเลขมากถึง 1,600 ลิตร เมื่อพนักเบาะถูกพับลง หรือต่อให้มีคนนั่งโดยสารอยู่บนเบาะแถวหลัง พื้นที่เก็บสัมภาระก็ยังมีปริมาตรความจุที่มากถึง 490 ลิตร อยู่ดี

คอนโซลหน้า หน้าตาคุ้นเคยแบบ BMW 220 Grand Coupe M Sport Pro ที่เปิดตัวในวันเดียวกัน โดดเด่นเป็นสง่าด้วย จอสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display ที่รวมทั้งจอมาตรวัดดิจิตอล 10.25 นิ้ว และจอสัมผัส 10.7 นิ้ว มาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแบบลอยตัว ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 9 หรือ iDrive 9 ลำโพง Harman Kardon 12 จุด กำลังขับสูงสุด 205W

พวงมาลัยหนังสไตล์ M พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ครบครันจากแพ็คเกจ Driving Assistant Plus และ Parking Assistant Plus (รวมระบบกล้องมองรอบคัน Surround View) พร้อมรองรับการอัปเกรดสู่ Parking Assistant Professional ที่เพิ่มความสามารถในการควบคุมการจอดรถได้ผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน และสามารถจดจำรูปแบบการจอดรถอัตโนมัติได้ถึง 10 แบบ รวมระยะทาง 600 เมตร พร้อมด้วยฟังก์ชั่นอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถเลือกซื่อเพิ่มเติมได้ผ่าน BMW Connected Drive Store

และยังมีระบบ Comfort Access 2.0 ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมด้วยการปลดล็อกรถเมื่อเจ้าของรถเดินเข้ามาใกล้ และล็อกรถอัตโนมัติเมื่อเดินออกห่างตัวรถ เช่นเดียวกับระบบ BMW Digital Key Plus ที่เจ้าของรถสามารถใช้สมาร์ทโฟนแทนกุญแจรถ และปลดล็อกรถอัตโนมัติได้เพียงนำสมาร์ทโฟนเข้ามาใกล้ได้

ปิดท้ายด้วยหลังคากระจก Panorama Glass Roof ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์นี้ และช่วยเติมบรรยากาศให้ห้องโดยสารยิ่งรู้สึกโปร่งและโอ่อ่าขึ้นไปอีก

ขุมกำลังตัวรถ เป็นแบบ มอเตอร์ไฟฟ้าลูกเดี่ยวให้พละกำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ / 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ช่วยให้ตัวรถสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลา 8.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยขณะขับขี่ ฟังก์ชัน BMW IconicSounds Electric สร้างเสียงเครื่องยนต์แบบจำลองที่ตอบสนองกับทุกการควบคุม

ด้านแบตเตอรี่มีขนาด 66.5 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 402-433 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และรองรับการชาร์จระบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่กำลังไฟสูงสุด 130 กิโลวัตต์ ช่วยให้แบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟจาก 10% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 32 นาที หรือหากเป็นการชาร์จไฟในระบบกระแสสลับ (AC) ก็จะรองรับกำลังไฟสูงสุด 11 กิโลวัตต์ ทำให้แบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟจาก 0% ถึง 100% ได้ในเวลา 6 ชั่วโมง 45 นาที

โดย BMW iX1 eDrive20 L M Sport ใหม่ มาพร้อมกับตัวถัง 3 เฉดสีให้เลือกซื้อ ได้แก่ สีดำ Carbon Black Metallic, ขาว Mineral White Metallic และเทา Skyscraper Grey Metallic ซึ่งทั้งหมดจะได้ห้องโดยสารที่ตกแต่งวัสดุหุ้มเบาะด้วยหนัง Veganza แบบเจาะรูระบายอากาศในสีน้ำตาล Mocha และจะพร้อมส่งมอบภายในเดือนกรกฎาคม นี้ กับราคา: 2,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard ระยะเวลา 4 ปี)