ต่อจากการาปรับโฉม Mazda2 สู่ Mazda2 Essential ไปเมื่อต้นปี ล่าสุดทางค่ายก็ยังทำการปรับโฉมไลน์อัพของ Mazda CX-3 ใหม่ ให้กลายเป็นรุ่น Essential เช่นกัน เพื่อทำให้ราคาของมันอยู่ในจุดที่ผู้ใช้สามารถจับตั้งได้ง่ายขึ้น

New Mazda CX-3 Essential มาพร้อมแนวคิด “The First SUV that Feels Right เอสยูวีคันแรกที่ใช่” เพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์มาสด้าในกลุ่ม ESSENTIAL ที่มีความคุ้มค่าเหนือราคา คุณภาพระดับพรีเมี่ยม อัดแน่นด้วยอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ติดตั้งมาให้ครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักที่มีอายุ 25-39 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เริ่มต้นทำงานจนไปถึงผู้บริหารระดับกลาง กำลังมองหารถเอสยูวีคันแรกหรือซื้อเพิ่มเป็นคันที่สองของครอบครัว
ดังนั้น รถรุ่นนี้จึงได้รับการปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงในทุกๆด้าน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในเวลาเดียวกัน
โดยมาพร้อม 3 ทางเลือก กับ 4 รุ่นใหม่ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในแบบเอสยูวีของลูกค้า โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต ฟังก์ชั่นครบครัน ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ประกอบด้วย

- รุ่น PRIME คุ้มสุด กับทางเลือกที่ใช่ คุ้มค่าเหนือราคากับรุ่นเริ่มต้น ราคาจำหน่าย 699,000 บาท
ขับสนุกเร้าใจกับความแรงเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ให้อัตราเร่ง และการตอบสนองดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบฮาโลเจน กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ กระจังหน้าสีเงิน วัสดุตกแต่งเสาประตูด้านนอกสีดำ ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ GVC (G-Vectoring Control)
ภายในตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มผ้าสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา เบาะนั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง มาพร้อมหน้าจอ Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander รองรับระบบ Apple CarPlay® และ Android AutoTM ลำโพง 6 ตำแหน่ง มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยด้วยกล้องมองหลัง พร้อมเส้นกะระยะขณะถอยหลัง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS พร้อมปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
- รุ่น ULTRA สบายสุด มั่นใจไปกับอีกขั้นกับทางเลือกที่ใช่ ราคาจำหน่าย 759,000 บาท
อีกทางเลือกของความสะดวกสบาย ที่มอบความเพลิดเพลินให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารไปตลอดการเดินทางด้วยระบบ Infotainment ครบครัน มอบความสะดวกด้วยระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry)
ตกแต่งภายในอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยแผงคอนโซลหน้าหุ้มหนังสีเทาเข้ม และเบาะนั่งหุ้มหนังและผ้าสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังสีดำ ตกแต่งด้วยสีเงินซาติน เพิ่มความสบายให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งด้วยพนักวางแขนด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ เพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มากขึ้นกับระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด มอบความอุ่นใจไปตลอดการเดินทาง
- รุ่น ULTRA PLUS สบายสุด พร้อมฟังก์ชั่นที่สะดวกไปอีกขั้น ราคาจำหน่าย 829,000 บาท
มอบความสบายด้วยฟังก์ชั่นที่ลงตัวกับทุกมิติของชีวิต มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมระบบไฟหน้าปรับระดับอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบ LED Signature ซุ้มล้อสีดำเงา คิ้วตกแต่งกันชนหน้าและแผงกันกระแทกด้านข้างสีเงิน ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและม่านนิรภัย ระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (DRL) แบบ LED Signature ภายในสบายไปอีกขั้นด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
เพิ่มเติมด้วยฟังก์ชั่นเทคโนโลยีความปลอดภัย เช่น ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) เป็นต้น ทั้งยังมอบความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัดผ่านระบบ Mazda Connect รองรับ Apple CarPlay® และ Android AutoTM แสดงผลผ่านหน้าจอสีแบบทัชสกรีน Center Display ขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
- รุ่น SIGNATURE พร้อมสุด ทุกฟังก์ชั่นและสไตล์ที่ใช่ ราคาจำหน่าย 899,000 บาท
ครบครันทุกฟังก์ชั่นและการดีไซน์สไตล์สปอร์ต ด้วยกระจังหน้า กระจกมองข้าง และหลังคาสีดำ พร้อมหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sports Paddle Shift) ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและฟังก์ชั่นตรวจจับน้ำฝนอัตโนมัติ
ภายในสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยแผงคอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีฟ้าเทา ตกแต่งด้วยด้ายสีคอปเปอร์ เบาะหนังสีดำและผ้า Grand Luxe Suede® กรอบช่องแอร์สีคอปเปอร์ นอกจากนิ้ ยังครบครันด้วยฟังก์ชั่นที่สะดวกสบายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และระบบบันทึกตำแหน่งคนขับ 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า
หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) และระบบเสียง Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 7 ตำแหน่ง ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go ระบบปรับไฟหน้าสูงอัตโนมัติ (HBC) เป็นต้น
และยังมาพร้อมเทคโนโลยี i-Activsense มากถึง 9 ระบบ ได้แก่
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ HBC (High Beam Control)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced Smart City Brake Support)
- ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ แบบ Stop & Go (MRCC with Stop & Go)
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support Reverse)

โดยตัวรถทุกรุ่นย่อย จะใช้เครื่องยนต์ SKYACTIV-G แบบเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ระบบจ่ายเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกไดเร็คอินเจ็คชั่น ให้อัตราส่วนกำลังอัดสูงถึง 14.0:1 และสามารถสร้างกำลังสูงถึง 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงถึง 204 นิวตัน-เมตร ที่ 2,800 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 16.4 กม./ลิตร* รองรับน้ำมันเบนซินได้สูงสุดถึง E85 ส่งกำลังไปยังชุดล้อคู้หน้าด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ ที่ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง High Tensile Steel มีน้ำหนักเบา แข็งแกร่ง ปลอดภัย และให้การควบคุมรถที่มั่นคง, ระบบช่วงล่างด้านหน้า อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังกึ่งอิสระทอร์ชันบีม, ระบบห้ามล้อแบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ, ชุดล้อรัดด้วยยางหน้ากว้างขขนาด 215/60 R16 ในรุ่น Prime/Ultra/Ultra Plus และจะขยับเป็น ขนาด 215/50 R18 ในรุ่น Signature
และสำหรับสีภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย
- สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
- สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
- สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
- สีแดง โซลเรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
- สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)
- สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)
- สีเทา แอโร เกรย์ (Aero Gray)

สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของรถครอสโอเวอร์เอสยูวี New Mazda CX-3 Essential สามารถชมรถคันจริงพร้อมจับจองเป็นเจ้าของได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ ดอกเบี้ย 2.49% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี และมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า Mazda Family รับฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ก.ค. 68