หลังการเปิดตัวในงาน Motor Show 2025 พร้อมกวาดยอดจองสะสมไปกว่า 4,568 คัน ล่าสุด ทาง GAC ก็ได้ออกมาประกาศข้อมูลอย่างเป็นทางการสักทีว่าตัวรถ AION UT แฮทช์แบ็คไฟฟ้าน้องใหม่ของแบรนด์รุ่นนี้จะมีราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 499,900 บาท

AION UT มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นทันสมัย ภายใต้แนวคิด “Futuristic Minimalism” ด้วยแรงบันดาลใจจากเมืองมิลาน ผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมเส้นสายของตัวรถที่เฉียบคม กับสปอยเลอร์หลังสุดโดดเด่น ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว บนตัวถังโค้งมน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ไฟหน้าแบบ Matrix LED ที่คมชัด แรงบันดาลใจจากดวงตาที่เปล่งประกายและสง่างาม เส้นสายที่โค้งไหลลื่นสะท้อนความล้ำสมัย เสมือนดวงตาที่มีชีวิต ไฟเลี้ยวหน้าและไฟท้ายทรงคิวบิก โชว์ดีไซน์ที่ผสานเทคโนโลยีกับแฟชั่นได้อย่างลงตัว ตัดโทนชายล่างด้วยชิ้นส่วนสีดำตามเทรนด์
ปิดท้ายด้วยชุดล้ออัลลอยด์ขนาด 16-17 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 215 เพื่อเสริมความปลอดภัยในการใช้งาน

ภายในห้องโดยสารของ AION UT ได้รับการออกแบบอย่างประณีต เพื่อตอบสนองทั้งด้านความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ครบครัน โดยมาพร้อมแผงหน้าปัดแบบ Full Digital ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง ทั้งภาษอังกฤษ และภาษาไทย, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย กำลัง 50W (ในรุ่น Premium) เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ขับและผู้โดยสาร
เบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมระบบระบายอากาศ และฟังก์ชันปรับไฟฟ้า สัมผัสประสบการณ์ความสบายด้วยเบาะรูปทรงผีเสื้อ โอบรับทุกสัมผัสได้อย่างนุ่มนวล อ่อนโยน ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย
ห้องโดยสารแถวหลังมีพื้นที่กว้างถึง 1,385 มม. พร้อมพื้นที่วางขาที่สะดวกสบายมากขึ้นถึง 905 มม. รองรับผู้โดยสาร 3 คนได้สบายๆ กว้างขวางเกินคาดหมาย และยังสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องโดยสารทั้งแถวหน้าและแถวหลังได้ตามความต้องการ หรือเลือกเปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นเตียงขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย หรือจะไว้เก็บของสัมภาระยามต้องเดินทางไกลก็ไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไปแม้รถจะมีขนาดตัวด้านนอกค่อนข้างกระทัดรัดก็ตาม
นอกจากนี้ ตัวรถยังถูกออกแบบโครงสร้างให้มีสัดส่วนชิ้นงานวัสดุเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง คิดเป็น 71% ของตัวถัง พร้อมหลังคาที่สามารถรองรับแรงกดได้ถึง 7 ตัน และแบตเตอรี่แบบแม็กกาซีน ความปลอดภัยสูง ทนทานต่อการบิดตัว 180 องศา โดยไม่เกิดประกายไฟหรือความร้อนสะสม
ซึ่งสำหรับประเทศไทย ตัวรถรุ่นนี้ก็จะมีออพชันแบตเตอรี่ให้เลือกซื้อ 2 แบบด้วยกัน นั่นคือ
- AION UT Standard มาพร้อม Magazine Battery 2.0 ขนาด 50.27 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 420 กิโลเมตร/ชาร์จ มาตรฐาน NEDC ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 136 แรงม้า PS และ แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร พร้อมความสามารถในการเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 11.9 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 145 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- AION UT Premium มาพร้อม Magazine Battery 2.0 ขนาด 60 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสุด 500 กิโลเมตร/ชาร์จ มาตรฐาน NEDC ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 204 แรงม้า PS และ แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร พร้อมความสามารถในการเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 7.3 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง
และแบตฯทั้งสองแบบ จะรองรับความสามารถในการชาร์จไฟด้วยระบบ DC จาก 30-80% ได้ภายในระยะเวลาเพียง 24 นาที จากขีดความสามารถในการรองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 70-80 kW และรองรับโหมดการจ่ายไฟแบบ V2L ด้วยกำลังการจ่ายไฟสูงสุด 3.3 kW เพื่อให้ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดพร้อมกัน เช่น เตาอบ ตู้เย็น พัดลม เหมาะสำหรับกิจกรรมแคมป์ปิ้ง
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าตัวรถแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชันบีม, ระบบเบรกด้านหน้าดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน ด้านหลังดิสก์เบรกธรรมดา พร้อมระบบเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Auto Hold
และตัวรถยังมีลูกเล่นระบบความปลอดภัย L2 Intelligent Driving ใส่มาให้ในทุกรุ่นย่อยอย่างครบครัน ทั้ง
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- เซนเซอร์กะระยะ ด้านหน้า 4 จุด / ด้านหลัง 4 จุด
- ระบบ AUTOHOLD
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
- ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้ (RAW)
- ปิดเครื่องและปลดล็อคด้วยสัมผัสเดียวหลังจากการชน
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (ACC with Stop & Go)
- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICA)
- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน (ELKA)

โดย GAC AION UT จะมีการเปิดราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ที่
- 519,900 บาท สำหรับรุ่น Standard
- 669,900 บาท สำหรับรุ่น Premium
แต่สำหรับลูกค้าที่จองรถก่อนวันที่ 31 กรกฎาคม จะได้รับข้อเสนอส่วนลดราคาพิเศษช่วงเปิดตัว ทำให้ตัวรถมีราคาลดลงเหลือ
- 499,900 บาท สำหรับรุ่น Standard
- 649,900 บาท สำหรับรุ่น Premium
และยังจะได้รับสิทธิประโยชน์รวม 9 รายการ* สำหรับลูกค้าที่จองรถช่วงเปิดตัว ดังนี้:
- ข้อเสนอพิเศษ ดาวน์เริ่มต้นเพียง 8,888 บาท ผ่อนรายวันต่ำสุดเพียง 180 บาท
- รับประกันแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบรวม 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) , รับประกันตัวรถยนต์ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
- ฟรีอินเทอร์เน็ตบนรถยนต์ 2GB ต่อเดือน นาน 2 ปี สำหรับระบบความบันเทิงภายในรถ
- บริการอัปเกรดระบบซอฟต์แวร์ OTA บนรถยนต์ตลอดอายุการใช้งาน
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรี 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 8 ปี
- ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปีพร้อมบริการจดทะเบียนครบวงจร
- ฟรีตรวจเช็คระยะครั้งแรก
- ฟรีแพ็กเกจของตกแต่ง: ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์และพรมปูพื้น
- โปรโมชันพิเศษสำหรับอุปกรณ์ตกแต่งแท้และอุปกรณ์เสริม ส่วนลดสูงสุดถึง 6,000 บาท เช่น Wall Charger พร้อมบริการติดตั้ง, อุปกรณ์ V2L, ปืนชาร์จพกพาแบบ EU, ชุดสเกิร์ตรถยนต์ และอื่น ๆ (สิทธิประโยชน์นี้มีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่จองภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2568 เท่านั้น)
ส่วนกำหนดการส่งมอบ ถูกระบุไว้ว่าจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม นี้ เป็นต้นไป