หลังจากที่เปิดตัวต่างประเทศตั้งแต่ปีกลายกับ BMW Series 2 Gran Coupe เผยโฉมออกมาในร่างใหม่จนสาวกอยากให้เข้าขายไทย

ล่าสุด All-New BMW 2-Series Gran Coupe 2025 เจเนอเรชันที่ 2 ก็พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการแม้ตัวรถเป็นเจนใหม่แต่ก็ยังคงอาศัยการพื้นฐานของตัวรถโฉมก่อนหน้า มาปรับใหม่ชุดใหญ่ เพื่อให้ตัวรถมีความทันสมัย และตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงเวลาปัจจุบันมากขึ้น
เริ่มจากการปรับเปลือกนอกใหม่ ได้แรงบันดาลใจเดียวกันกับคู่แฝดร่าง แฮชท์แบ็ค BMW 1-Series ทั้งไฟหน้ากรอบโคมคล้ายเดิม แต่มีการปรับรายละเอียดหลอดไฟและแถบ DRL ใหม่ให้ตรงยุค, กรอบกระจังหน้าปรับใหม่ด้วยเส้นกรอบที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและยังมีขนาดเล็กลงตามคำเรียกร้อง โดยยังไม่ลืมที่จะใส่ “กรอบกระจังหน้าเรืองแสง” ลูกเล่นประจำตัวของรถยนต์จาก BMW ยุคปัจจุบัน
ตัวกันชนหน้าเองมีการปรับใหม่ให้ดุดันยิ่งขึ้น ขยายขนาดช่องดักลม และเพิ่มความยื่นของชายล่างออกไปทางด้านหน้า พร้อมปรับเส้นกรอบกระจังหน้าด้านข้างผายออกจากบนลงล่าง เพื่อเพิ่มความโฉบเฉี่ยว สุดท้ายจึงปรับดีไซน์กรอบช่องลมด้านข้างใหม่ ให้รับกันอย่างลงตัว
เส้นสายตัวถังด้านข้างยังคงดูคล้ายเดิมทั้งหมด เว้นเพียงชุดล้อลายใหม่ ขณะที่ด้านท้ายรถมีการปรับเปลี่ยนไฟท้ายให้โดดเด่น สะดุดตากว่าเดิม แต่ยังคงไม่ลืมการทำฝาท้ายแบบตูดเป็ดซึ่งลากเส้นมาจากแนวหลังคาแบบรถคูเป้ตามคอนเซปท์ดั้งเดิม
ขณะที่ตัวกันชนท้าย จะไม่ได้มาพร้อมกับเส้นสายที่โค้งมนอีกต่อไป และมีการใช้เส้นสายที่เน้นความเหลี่ยมสันตามพี่ๆในซีรี่ย์สูงกว่า ทว่าทาง BMW ก็ยังคงไม่ลืมที่จะใส่ชายล่างกันชนแบบมีครีบดิฟฟิวเซอร์ขนาดเล็ก และการใส่ปลายท่อไอเสียแบบออก 4 รู แท้ๆ แยกฝั่งซ้ายขวา อย่างละ 2 เหมือนโฉมก่อนหน้ามาให้ดังเดิม
ภายในห้องโดยสาร ยังคงมาพร้อมกับบรรยากาศคุ้นเคย โดยเฉพาะแผงข้างประตูที่ดูเหมือนจะแทบไม่ได้ปรับดีไซน์และตำแหน่งปุ่มกดรวมถึงมือเปิดประตูใดๆเลยทั้งสิ้น
คอนโซลหน้า หากไม่นับคอนเซปท์การออกแบบให้ชุดหน้าจออินโฟเทนเมนท์และช่องแอร์ ถูกหันเบี่ยงเข้าหาผู้ขับเป็นหลัก ตามฉบับรถยนต์ของ BMW แท้จริงแล้วชิ้นส่วนต่างๆล้วนเป็นของใหม่ทั้งหมด โดยเริ่มจากปุ่มกดควบคุมระบบปรับอากาศภายในรถที่หายไป เพราะทางค่ายเอาฟังก์ชันการสั่งการทั้งหมดไปรวมไว้ในจอ เว้นเพียงการปรับทิศทางลมที่ต้องใช้มือไถตัวปรับด้านล่างช่องแอร์ดังเดิมอยู่เท่านั้น
ขณะที่คอนโซลกลางระหว่างผู้ขับและผู้โดยสาร ก็มาพร้อมกับสวิชท์ปรับตำแหน่งเกียร์ แทนที่คันเกียร์แบบดั้งเดิม โดยที่ตอนนี้ทาง BMW ได้มีการถอดเอาลูกบิดคุมหน้าจอออกไปจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วเป็นที่เรียบร้อยเช่นกัน เพื่อความสะอาดตา แม้ว่ามันอาจจะดูเหมือนการขาดหายเอกลักษณ์ดั้งเดิมของแบรนด์ไปเล็กน้อยก็ตาม
กลับขึ้นมาที่หน้าจอแสดงผล แน่นอนว่าจะเป็นการออกแบบให้ชุดจออินโฟเทนเมนท์เชื่อมต่อกับจอแสดงผลข้อมูลตัวรถเป็นชิ้นเดียว ในลักษณะของจอ Curved Screen ซึ่งตัวจอทั้ง 2 ต่างก็มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ด้วยตัวเลข 10.7 นิ้ว และ 10.25 นิ้ว ตามลำดับ พร้อมระบบปฏิบัติการ iDrive 9 ใหม่ล่าสุด ทำงานร่วมกับชุดลำโพง Harman Kardon 12 ตำแหน่งและชุดพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันใหม่ ซึ่งหน้าตาดูสปอร์ตกว่าเดิม โดยเฉพาะตัวก้านด้านล่าง กับชุดเบาะนั่งดีไซน์ใหม่
ขุมกำลังยังคงเหมือนเดิมกับรหัส B48A20A ให้กำลัง 204 แรงม้าที่ 5,000–6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 300 นิวตันเมตรที่ 1,450 – 4,500 รอบต่อนาที ในพื้นฐานเบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร ติดเทอร์โบ ปรับจูนใหม่ ทั้งจากระบบซอฟท์แวร์ในกล่องควบคุม รวมถึงชิ้นส่วนไส้ในจำพวกฝาสูบและระบบหัวฉีดในรุ่น 220 ซึ่งไม่มีรหัส “i” ต่อท้ายอีกต่อไป เนื่องจากทาง BMW จะสงวนตัวอักษรดังกล่าวไว้ใช้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนเท่านั้นแล้วหลังจากนี้ โดยสเปกไทยจะใช้ชื่อรุ่นว่า 220 Gran Coupe เหมือนเดิม และจะหันไปใช้ระบบเกียร์คลัทช์คู่ 7 สปีดแทน
ทั้งนี้ All-New BMW 2-Series Gran Coupe จะยังมีรุ่นย่อยอื่นๆในตระกูลนี้หรือไม่หรือขายรุ่นเดียวนั้นเตรียมเปิดตัวในไทยในวันที่ 3 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้