แม้จะยังอยู่ในช่วงของการกู้วิกฤตด้านเงินทุน จนต้องเลย์ออฟพนักงาน และไล่ลดค่าใช้จ่ายต่างๆในบริษัทที่ได้นจำเป็นทิ้งไป แต่ทาง Nissan กลับยังคงใส่ใจและพยายามอย่างหนักเพื่อการพัฒนารถยนต์ระดับ “ฮาโลคาร์” อย่าง Nissan GT-R รุ่นใหม่ให้กลับมาทำตลาดอีกครั้งให้ได้

จากการให้สัมภาษณ์ของนาย Arnaud Charpentier รองประธานฝ่ายวางแผนการตลาดผลิตภัณฑ์ กับสื่อ Auto Express ว่า แม้ตอนนี้บริษัทจะมีวิกฤตด้านการเงิน ที่ยังต้องรอลุ้นว่าจะแก้ได้มั้ยในสิ้นปีนี้ แต่ภายในองค์กร ก็ยังมีทีมที่คอยทำหน้าที่พัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่กันอยู่ ไม่ได้หยุดชะงักใดๆ

“มีคนกำลังทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่, แต่ถ้าถามว่า เมื่อไหร่ ยังไง เอาตรงๆ อันนี้ผมไม่รู้, แต่ในวันนี้ เราไม่ได้ต้องการแค่จะทำรถสปอร์ต, แต่ต้องทำรถที่มาพร้อมกับขุมกำลังซึ่งเราจะได้เห็นกันภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้, ถ้ามันเป็นขุมกำลังไฟฟ้า หรือเสริมกำลังด้วยไฟฟ้า, ยังไงมันก็จะต้องเป็นรถสปอร์ต, เพราะถ้าคุณจะเอาขุมกำลังระดับนั้นไปใช้กับรถอเนกประสงค์ไฟฟ้า มันก็จะเป็นปัญหา (ว่าอาจจะแรงเกินไป หรือไม่เหมาะกับน้ำหนักตัวที่มากกว่า)

และแม้ทิศทางการพัฒนารถ GT-R R36 จะยังไม่แน่ชัด แต่ Charpentier ก็ระบุว่ารถยนต์ระดับเรือธงที่ทีมกำลังพัฒนาขึ้นมา จะเป็น “การคิดค้นแนวทางใหม่ๆของรถสปอร์ต” ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะตัวรถ Hyper Force Concept ที่ทางค่ายโชว์ตัวเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2023 ที่ว่ากันว่าจะเป็นรถ GT-R โฉมถัดไป ก็ไม่ได้มาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ 6 สูบ แต่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้กำลังรวมกันกว่า 1,360 แรงม้า PS ซึ่งหากตัวรถร่างขายจริงยังคงใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสเป็คนี้อยู่ มันก็จะเป็นระดับพละกำลังในรถโปรดักชันที่สูงที่สุดเท่าที่ทางค่ายเคยทำมาทันที

อย่างไรก็ดี ด้วยสภาวะทางการเงิน ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นง่ายๆ จนทางค่ายต้องปลดพนักงานกว่า 20,000 ตำแหน่ง, ปิดโรงงานอีก 7 แห่ง, เลิกการทำแพลตพอร์มรถยนต์โมเดลใหม่อีก 6 แบบ, เลือกที่จะทำตลาดรถยนต์โมเดลใหม่ๆ โดยการเอารถยนต์ของ Renault มาเปลี่ยนตรา, หยุดการพัฒนารถยนต์บางรุ่น และลดความวุ่นวายซับซ้อนในการบริหารงานภายในบริษัทลง 70%

และล่าสุดยังมีข้อมู,ระบุออกมาว่าทางค่ายอาจจำเป็นจะต้องขายตึกสำนักงานใหญ่ในเมืองโยโกฮาม่า ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อระดมทุนมาปรับโครงสร้างหนี้ภายในสิ้นปีนี้อีก จึงทำให้การพัฒนารถสปอร์ต ที่อาจจะไม่ได้เหมาะนักกับสถานะทางการเงินของบริษัท และอาจจะไม่ได้สร้างกำไรให้กับบริษัทได้มากนัก ดูเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจใครหลายคน

ในทางกลับกัน เนื่องจาก Ivan Espinosa บอสใหญ่ของ Nissan คนปัจจุบัน คือผู้บริหารที่ถูกขนาดนามว่า เป็น “คนบ้ารถ” ตัวจริงเสียงจริง จนถึงขนาดที่เจ้าตัวเลือกขับรถ Nissan Z ไปทำงานด้วยตนเองทุกวัน แถมยังมีแนวคิดที่จะนำรถยนต์ตระกูล Silvia กลับมาลุยตลาดอีก แม้รถสปอร์ตจะได้รับความนิยมต่ำลงเรื่อยๆในปัจจุบันก็ตาม

นอกจากนี้ การมีรถยนต์ที่มีสมรรถนะสุดโต่ง หรือสปอร์ตคาร์สุดล้ำทำตลาดอยู่ ก็เปรียบเสมือนการแสดงถึงความมั่นใจในการลุยตลาดของบริษัท ทำให้ลูกค้ายังคงเชื่อมั่นในแบรนด์ต่อไป ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจนักที่ทางผู้บริหารจะยังคงอนุมัติให้โปรเจ็กท์ทำรถยนต์สมรรถนะสูงอย่าง GT-R ยังคงดำเนินงานต่อไป