Home » Toyota Corolla Cross 2025 ปรับโฉมตามไทยเน้นไฮบริดเพิ่มรุ่น GR Sport ขายญี่ปุ่น
รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ ราคารถใหม่

Toyota Corolla Cross 2025 ปรับโฉมตามไทยเน้นไฮบริดเพิ่มรุ่น GR Sport ขายญี่ปุ่น

หลังจากยุโรปและอเมริกาเปิดตัวรุ่นปรับโฉมสำหรับ Toyota Corolla Cross กันไปแล้วคราวนี้ถึงคิวของญี่ปุ่นที่ต้องเปิดตัว

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มไลน์อัพใหม่ Toyota Corolla Cross GR Sport เน้นความสปอร์ตเข้มคล้ายเวอร์ชันยุโรปและรุ่นปกติยกหน้าตาจากไทยมาทั้งหมด

เริ่มที่รุ่น GR Sport ผสมผสานความเป็น Toyota GR Corolla ด้วยหน้าเข้มตั้งแต่ไฟหน้าโคมใหม่ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights LED แบบ Light Guiding มีไฟเลี้ยววิ่งแบบ Sequential บนขอบไฟหน้า

รับกับกระจังหน้า Hammerhead กริตเตอร์ขอบใหญ่ทึบสีดำดีไซน์เอกลักษณ์สีเดียวกับตัวรถ กันชนหน้าถอดแบบมาตจากรุ่น GR Corolla ออกแบบช่องระบายอากาศดีไซน์ใหม่ให้กรอบด้านข้างซ้าย-ขวาช่องใหญ่ขึ้นเป็นแนวตั้งถึงสองช่อง ช่องระบายอากาศส่วนกลางบนและล่างออกแบบหลอมรวมกับกรอบด้านข้างให้เป็นหนึ่งเดียว

หลังคารถและกระจกมองข้างทรงสปูนตกแต่งสีดำ ไฟท้าย LED รูปตัว C โคมใหม่ดูดุดันขึ้นและล้ออัลลอยลายทูโทนใหม่ ขนาด 19 นิ้ว สีทูโทนเทาดำ Storm Grey

รุ่นปกติปรับหล่อเช่นตั้งแต่ไฟหน้าแบบ LED ใหม่พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights LED แบบ Light Guiding พร้อมไฟเลี้ยววิ่งแบบ Sequential บนขอบไฟหน้า กระจังหน้าตัวเด่นมีช่องระบายอากาศดีไซน์รังผึ้งพร้อมโลโก้สามห่วง สีเดียวกับตัวรถ พร้อมการตกแต่งกระจังหน้าแบบผสมกับสีตัวรถและโครเมียม รับกับกันชนหน้าสีทูโทนพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED อยู่ตำแหน่งเดียวกับช่องระบายอากาศ ไฟท้าย LED Light Guiding สีขาวแดงรูปตัว C โฉบเฉี่ยวกว่าไทยและล้ออัลลอยลายทูโทนใหม่ ขนาด 17 นิ้วและขนาด 18 นิ้ว

ภายในตกแต่งตามความแตกต่างของแต่ละรุ่นครบครันด้วยจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.5 นิ้ว รองรับการไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ช่องเสียบ USB Type C พร้อมลำโพง 6 จุด

มาตรวัดความเร็วแบบสี TFT ขนาดใหญ่เต็มจอ 12.3 นิ้ว สามารถปรับแต่งได้หลากหลายสไตล์ปรับได้ตามความชอบกับหน้าจอ 4 สไตล์ Casual, Smart, Tough, Sporty พร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light อัปเกรดใหม่เพิ่มสีสันมากขึ้นรวมถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone ปรับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) พร้อมกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Entry) เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ที่วางแก้วน้ำ ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมหลังคาพาโนรามิกมูนรูฟกระจกแบบ Frameless พร้อมม่านเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศคู่หน้า พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40 พนักวางแขนด้านหลัง

รุ่น GR Sportตกแต่งแผงคอนโซลหน้าสีดำ Piano Black พวงมาลัย และเบาะหนังทรงสปอร์ตใหม่ทรงเดียวกับรุ่น GR Corolla หุ้มด้วยหนัง BRIN NAUB® และหนังสังเคราะห์ เดินตะเข็บด้ายสีขาว พนักพิงศีรษะ ฐานก้านพวงมาลัยตกแต่งด้วยโลโก้ GR และชุดคันเร่ง เบรก อะลูมิเนียมสีเงิน

มาครั้งนี้ขายฟูลไฮบริดตัดสันดาปล้วนออกจากสารระบบ ด้วยขนาด 2.0 ลิตร Dynamic Force Hybrid ภายใต้รหัส M20A-FXS ให้กำลัง 152 แรงม้า แรงบิด 188 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า 1VM กำลัง 113 แรงม้า แรงบิด 206 นิวตันเมตรและ มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง 1WM ให้กำลังมากถึง 41 แรงม้า แรงบิด 84 นิวตันเมตร ในรุ่น E-Four

ทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 200 แรงม้า ขณะที่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีขนาดความจุ 1.404 kWh (6.5Ah) เป็นระบบ Hybrid เจเนอเรชันที่ 5 พัฒนาใหม่ตัวแบตเตอรี่ให้มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัดยิ่งขึ้น ติดตั้งอยู่ใต้ที่นั่งด้านหลังลดการเสียพื้นที่ของห้องโดยสารมาเฉพาะรุ่น GR Sport

และขุมพลังฟูลไฮบริด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า แรงบิด 142 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าล้อหน้ารุ่น 1VM 95 แรงม้า แรงบิด 185 นิวตันเมตร และหลังสำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four รุ่น 1WM 41 แรงม้า แรงบิด 84 นิวตันเมตร ได้แรงม้ารวม 140 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 0.83 kWh

ทั้งคู่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Paddle Shift เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four มีโหมดการขับขี่ทั้ง EV, POWER, NORMAL  ECO MODE และเพิ่มโหมด Snow Extra สำหรับการขับขี่ในสภาพอากาศฤดูหนาวเฉพาะรุ่น E-Four

ช่วงล่างด้านหน้ามาแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง คอยล์สปริง ช็อคแอบซอร์บเบอร์ทั้งหน้าและหลัง โดยรุ่น GR Sport ปรับช่วงล่างสปอร์ตให้ตัวรถโหลดเตี้ยลงอีก 10 มิลลิเมตร พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) และ ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four

พร้อมความปลอดภัยใหม่ระบบไฟเลี้ยวส่องพื้น  Signal Road Projection (SRP) สำหรับเตือนคนเดินถนนให้มองรถอย่างปลอดภัย และ Toyota Safety Sense 3.0

Toyota Corolla Cross รุ่นปรับโฉมขายญี่ปุ่น 4 สิงหาคม ทั้งรุ่น G,S และ Z และ GR Sport 2.0 เริ่ม 2,760,000-3,895,000 YEN หรือราว 634,000-894,000 บาท

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.