จากการรุกตลาดของ Mitsubishi ที่เตรียมจะเผยเจเนอเรชันที่ 2 ของ Mitsubishi XPANDER ใหม่หมดทั้งคันคาดว่าปี 2026 จะได้พบกันนั้น
และเพื่อเป็นการส่งท้ายเจนแรกของทางมิตซูบิชิ อินโดนีเซียเปิดตัวรุ่นปรับโฉมรอบ 4 ออกมาอย่างเป็นทางการและอาจเข้าสู่ยุครถปลายรุ่นก่อนเจนใหม่จะมานั่นเอง
หน้าตาใหม่ในสไตล์ Advance Dynamic Shield ตั้งแต่กระจังหน้าสีเข้ม คิ้วใต้กันชนหน้าออกแบบใหม่พร้อมไฟตัดหมอกหน้าทรงกลมแบบ LED ไฟหน้ากรอบไฟหน้าใหม่สีดำ ด้านท้ายออกแบบกันชนหลังใหม่พร้อมไฟทับทิมสีแดงแนวนอนใหม่ในชุดคิ้วเสริมกันชนหลังใหม่และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว และขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น XPANDER
ส่วน XPANDER CROSS ดุดันขึ้นด้วยกระจังหน้า การ์ดเสริมกันชนหน้าสไตล์ลุยแบบ Triton พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED คิ้วชายล่างกันชนหน้าแบบช่องเดียวแนวนอน คิ้วขอบล้อ คิ้วชายล่างทรงเดิม กันชนหลังใหม่เสริมครอบทับด้วยการ์ดเสริมพร้อมไฟทับทิมแนวนอนใหม่และล้อลายเฉพาะทูโทนขนาด 17 นิ้ว
ภายในปรับออปชันใหม่ด้วย หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto พร้อมมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว ความชัดสูงพร้อมแสดง ภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านดีไซน์สหกรณ์ใช้กันทุกรุ่นในค่าย มาพร้อมเครื่องปรับอากาศดิจิตอลพร้อมฟังก์ชัน Max Cool และมีแยกส่วนสำหรับด้านหลัง เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold หัวเกียร์อัตโนมัติ ที่ชาร์จมือถือไร้สาย เบาะนั่งมาในโทนสีแดง-ดำในรุ่น XPANDER CROSS และสีดำเดินด้ายส้มในรุ่น XPANDER มีช่อง USB 2 ช่องสำหรับเบาะตอนที่สองแบบ Type-A และ Type-C
เบนซิน 1.5 ลิตร MIVEC รหัส 4A91 ยังขายต่อไปในอินโดนีเซียโดยให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตรจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง Eco-dynamic CVT ตอบสนองด้วยอัตราเร่งรวดเร็วและทรงพลังเน้นทั้งความเงียบที่มากขึ้นและประหยัดและเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
พร้อมระบบ Active Yaw Control (AYC) ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนให้เข้าโค้งได้กระชับแม่นยำ ออปชันใหม่ในรุ่นปกติด้านความปลอดภัยเพิ่มออปชันมาทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด และกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
Mitsubishi XPANDER และ Mitsubishi XPANDER Cross เปิดราคาขายที่อินโดนีเซีย เริ่มต้น Rp 270,100,000-364,200,000 หรือราว 545,000-735,000 บาท ลุ้นกันว่าเมืองไทยจะมาด้วยหรือไม่กับขุมพลัง HEV