ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เรามักเห็นว่าผู้ผลิตสัญชาติจีนยักษ์ใหญ่หลายราย พยายามสร้างรถซุปเปอร์คาร์เป็นของตนเอง เพื่อนำเสนอระดับเทคโนโลยีและวิทยาการของตนเองที่มีอยู่ และที่กำลังจะตามมาในเร็วๆนี้ ก็อาจเป็นทาง GWM

จากการเปิดเผยข้อมูลของ Wu Huixiao ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการเงินของบริษัท GWM กับสื่อจีนอย่าง CNevPost ว่าในความเป็นจริง ทาง GWM ได้มีการซุ่มพัฒนารถซุปเปอร์คาร์สมรรถนะสูงมาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี แล้ว โดยมันจะมาพร้อมกับตัวถังน้ำหนักเบาที่สร้างขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์โมโนค็อกแบบเดียวกับรถจากแบรนด์ซุปเปอร์คาร์ชั้นนำสัญชาติยุโรปด้วย
นอกจากนี้ Wu ยังระบุอีกว่า ทาง GWM ได้มีการรวบรวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่รถในสนามแข่งขันระดับสูงจากยุโรปมากมาย เพื่อช่วยกันพัฒนารถคันนี้
และเมื่อสื่อต้นทางได้มีการถามถึงระดับสมรรถนะของตัวรถที่ทางค่ายกำลังพัฒนาอยู่ พวกเขาก็ได้คำตอบกลับมาว่ามันจะมีขัดความสามารถที่ดีกว่ารถ Ferrari SF90 ที่เป็นรถซุปเปอร์คาร์เรือธงของแบรนด์ม้าลำพองคันใหม่ล่าสุดเสียอีก ซึ่งนั่นถือว่าสอดคล้องกับช้อมูลเมื่อไม่นานมานี้ ที่มีคนพบเห็นประธานบอร์ดบริษัทอย่างนาย Jack Wei กำลังควบรถซุปเปอร์คาร์อิตาลีคันข้างต้นอยู่ โดยนั่นก็อาจจะเพื่อการเก็บข้อมูลไว้เป็นบรรทัดฐานในการพัฒนารถของตนเองก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี ด้วยมาตรฐานการผลิต และสมรรถนะที่ถูกตั้งเอาไว้สูงพอตัว โดยที่ต้นทุนในการผลิตจะต้องไม่สูงเกินไป ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการสร้างเจ้ารถคันนี้ ทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทาง GWM ใช้เวลาในการพัฒนารถค่อนข้างยาวนานและล่าช้ากว่าที่ควร
ที่น่าเสียดายคือทางผู้บริหารของ GWM ไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าตัวรถซุปเปอร์คาร์ที่บริษัทกำลังพัฒนาอยู่ จะมาพร้อมกับขุมกำลังแบบใด แต่ที่แน่ๆคือ ไม่น่าจะเป็นเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร ที่ทางค่ายพึ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้แน่นอน เนื่องจากเครื่องยนต์ลูกดังกล่าว ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับรถอเนกประสงค์และรถกระบะมากกว่า
โดยหากไม่นับเรื่องของรูปแบบเครื่องยนต์ที่ดั้งเดิมถูกออกแบบให้ติดตั้งไว้ในห้องเครื่องฯด้านหน้า ซึ่งไม่เหมาะกับเลย์เอาท์ของรถซุปเปอร์คาร์เท่าไหรนัก ยังมีเรื่องของขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ซึ่งไม่เหมาะกับการติดตั้งลงไปในห้องเครื่องยนต์ด้านหลังมากนัก และยังมีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจจะสร้างภาระหนักให้กับตัวรถที่ต้องการสมรรถนะในการควบคุมระดับสูงในยามใช้งานได้อีก
ส่วนกำหนดการวางขายจริงเอง ก็ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาเช่นกัน แต่เนื่องจากหากโปรเจ็กท์ไม่สำเร็จลุล่วงมาแล้วประมาณหนึ่ง ทางผู้บริหารเอง ก็คงไม่ออกมาเปิดเผยข้อมูลของรถคันนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเราอาจจะได้เห็นรถคันจริงในเร็วๆนี้ โดยอาจเกิดขึ้นในอีกไม่เกิน 1-2 ปี นับจากนี้