Maextro S800 รถยนต์นั่งสุดหรูจาก Huawei ได้รับการยืนยันข้อมูลแล้วว่า มันพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หลังได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวจีนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปีก่อน

Maextro S800 ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยมาพร้อมกับจุดขายในเรื่องความหรูหราเต็มระบบ จนหลายคนมองว่ามันคือ Mercedes-Maybach, Rolls-Royce แห่งเมืองจีน ที่ผู้คนแดนมังกรไม่ควรพลาด
โดยก่อนที่จะว่ากันเรื่องของลูกเล่นต่างๆ งานดีไซน์รอบคันของตัวรถเอง ยังเป็นการแสดงอย่างชัดเจนว่ามันได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรถหรูของแบรนด์ยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ด้านหน้าตัวรถ ดูสวยงาม จากโคมไฟหน้าแบบแนวตั้ง พร้อมดวงไฟแบบคริสตัล และมีตะแกรงช่องดักลมด้านล่างทำสีเงินสุดแวววาว
ตัวถังด้านข้างเน้นเส้นสายที่เรียบง่าย แต่ดูภูมิฐานด้วยสันไหล่ที่โค้งมน ใหญ่โต พร้อมติดตั้งชิ้นส่วนโครเมียมเข้าไปตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องสอดมืบจับเปิดประตู, กรอบกระจบห้องโดยสารด้านข้าง, แถบชายล่างตัวรถ และยังมีชุดล้อสีโครเมียม ขนาด 21 นิ้ว สีเงิน ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกได้ ว่าจะให้มันเป็นล้อลวดลายแบบก้านซี่ถี่ๆ หรือแบบปิดเกือบทึบ คล้ายกับรถยนต์สุดหรูจากแบรนด์สัญชาติยุโรปก็ได้
และในขณะที่หลังคา เน้นการวาดแนวแบบโค้งมน ทำองศาลื่นไหลจากเสา A ด้านหน้า ไปจนถึงฝาท้าย ตัวแถบไฟท้ายรถเอง ก็เป็นแบบ Cross Tailight ที่ตรงกลาง สามารถปรับค่าการแสดงผลให้เป็นลวดลายกราฟฟิก หรือแอนิเมชันตามที่ผู้ใช้ต้องการได้อีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร จัดเต็มความหรูด้วยลูกเล่นระดับพรีเมียมต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเห็นหนังหุ้มเบาะและคอนโซล ฝ้าหลังคา และอื่นๆ ด้วยวัสดุหนังแนปป้า หรืออัลตราซูเอด แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก, พวงมาลัย 3 ก้าน ขอบทูโทน, จอแสดงผลขนาดใหญ่ 3 จอ ทั้งจอด้านหน้าผู้ขับ จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ตรงกลาง และจอแสดงผลฝั่งผู้โดยสาร ซึ่งชุดจอเหล่านี้จะทำงานร่วมกับลำโพงจาก Burmaster
ที่แผงข้างประตู ยังมีชุดจอสำหรับแสดงผลภาพจากกล้องด้านข้างลำตัวซึ่งทำหน้าที่แทนกระจกมองข้าง, แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือไร้สายอีก 2 ตำแหน่ง พร้อมแผ่นปิดคอนโซลกล่าง และที่วางแขนข้างประตูลายไม้ นอกนั้นในฝั่งชิ้นส่วนอื่นๆก็จะมีการตกแต่งด้วยสีเงินเมทัลลิคมากมาย ทั้ง ลูกบิดปรับตำแหน่งเกียร์ ตะแกรงครอบดอกลำโพง ปุ่มปรับตำแหน่งเบาะนั่งบนแผงข้างประตู และอื่นๆอีกมากมาย
ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่ห้องโดยสารครึ่งหลัง ก็ยังมาพร้อมกับเบาะนั่งแบบแยกส่วนซ้าย-ขวา หุ้มด้วยหนังแนปป้าบุนุ่มอย่างดี มีระบบนวด ระบบทำความร้อนและทำความเย็นในตัว รวมถึงที่รองน่องด้านล่างก็ยังมีมาให้ โดยแท่นพักแขนตรงกลาง ยังถูกตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้ และทางด้านล่างยังมีแท่นวางแก้วไวน์ พร้อมระบบทำความเย็นในตัวอีกด้วย
ด้านข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ หากอิงตามข้อมูลที่ทางค่ายได้เผยเอาไว้ตั้งแต่ปีก่อน ก็ระบุว่า ตัวรถมีขนาดด้านยาวทั้งสิ้น 5,480 มิลลิเมตร, ระยะฐานล้ออีก 3,370 มิลลิเมตร และคาดว่าจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 94.4 kWh ซึ่งรองรับระยะทางในการวิ่งสูงสุด 702 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC ในรุ่นขุมกำลังไฟฟ้าล้วน
ส่วนรุ่นขุมกำลัง EREV เอง ก็จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่เล็กลง เหลือ 63.3 kWh พร้อมรองรับระยะทางในการวิ่งสูงสุดต่อชาร์จ ที่ 311 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC เช่นกัน โดยที่ข้อมูลรูปแบบเครื่องยนต์ที่จะทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถทำกำลังได้สูงสุดเท่าไหน่ ก็ยังไม่มีใครทราบทั้งสิ้นในตอนนี้
และท้ายสุด ราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็ได้ถูกคาดการณ์เอาไว้ว่า จะเริ่มต้นที่ราวๆ 1,000,000 หยวน หรือราวๆ 4,567,000 บาท ซึ่งอาจจะดูแพง แต่ก็ยังถือว่าถูกกว่าคู่แข่งในตลาดหลัก 1-2 ล้านบาทอยู่ดี