นอกจาก Nissan Elgrand ที่มีลุ้นขายไทย Nissan X-Trail คือหนึ่งในรถยนต์ขุมกำลัง ePower ที่จะถูกนำกลับมาทำตลาดในบ้านเราอีกครั้งด้วย โดยจะเป็นตัวรถที่ถูกนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น 100% ซึ่งอาจเป็นรุ่นเดียวกับที่ทุกท่านเห็นกันอยู่ในขณะนี้
ที่ทุกท่านเห็นกันอยู่ในขณะนี้ คือ 2025 Nissan X-Trail : Rock Creek ซึ่งเป็นตัวรถรุ่นแต่งพิเศษเสริมความหล่อแบบเผื่อลุย ดุดันด้วยกระจังหน้าสีดำแบบมีแถบ 3 ชั้น พร้อมโลโก้แบรนด์สีส้ม คล้ายกับ Nissan Navara Pro-Series และช่องดักลมกรอบขาว 3 รู เหมือน Nissan Terano, ออกแบบชายล่างกันชนให้ดูบึกบึนพร้อมชิ้นกันกระแทกสีส้ม และเล่นโทนสีดำให้ตัดกับสีตัวถังเพื่อความหล่อเข้ม
นอกนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนโทนสีล้อให้เปฆ็นสีดำ และเพิ่มการตกแต่งจุกจิกเข้าไปอีกหลายตำแหน่ง เช่น โลโก้ประจำรุ่นที่ชายล่างประตูบานหน้า และฝาท้าย, ปรับตัวอักษรชื่อรุ่นเป็นสีดำ, และมีโลโก้แบรนด์สีเงินส้ม ทางด้านท้าย พร้อมปรับหลังคาเป็นสีทูโทน
ภายในห้องโดยสารเน้นคุมโทนเข้มอีกเช่นกัน เพราะทั้งหมดจะถูกคุมโทนให้เป็นสีดำ และมีการเดินตะเข็บด้ายสีส้มตามชิ้นส่วนงานหุ้มหนัง และยังเลือกใช้วัสดุหนังเจาะรูบริเวณส่วนที่สัมผัสกับแผ่นหลัง สะโพก และต้นขา เพื่อลดการสะสมความร้อน รวมถึงที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือการใช้โลโก้แบรนด์สีส้มบนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน ดีไซน์เดียวกับ Nissan ARIYA
นอกนั้นตัวรถยังมาพร้อมหน้าจอมาตรวัดดิจิตอล Full LCD ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว และระบบ Google built-in ในตัว เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ไร้สาย ส่วนลำโพง BOSE 9 ตำแหน่ง จะไม่ได้ถูกติดตั้งมาให้ในรุ่นนี้ และสงวนไว้เฉพาะในรุ่น G กับ Autech ที่เป็นรุ่นบนกว่าเท่านั้น
ขุมพลังที่ให้มา คือขุมกำลังระบบ e-Power Turbo เจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งอาศัยการทำงานร่วมกับระหว่างเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร พ่วง VC Turbo ให้กำลังถึง 144 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร เพื่อปั่นไฟให้กับแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า BM46 เป็น 204 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร และจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลัง MM48 AC3 Synchronous Motor ให้พลัง 136 แรงม้า แรงบิด 195 นิวตันเมตร หรือหากคิดกำลังรวมจากมอเตอร์ทั้งหมดเมื่อทำงานร่วมกัน จะได้ตัวเลขที่ 340 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 525 นิวตันเมตร
ซึ่งมอเตอร์ทั้งหมดนั้นจะทำงานร่วมกันในแบบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ที่มีการควบคุมอัตราการกระจายแรงบิดอย่างดีเพื่อมอบสเถียรภาพขณะใช้งานสูงสุด พร้อมโหมดการขับขี่ 5 โหมด ทั้ง Sport, Off-Road, Snow, Auto และ ECO
โดยราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่นของ Nissan X-Trail : Rock Creek สนนตัวเลขเริ่มต้นที่ 4,756,400 เยน หรือราวๆ 1 ล้านบาทนิดๆ เท่านั้น ซึ่งหากเข้าไทย ก็อาจจะมีการบวกค่าขนส่ง และมีค่าภาษีนำเข้าอีกเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากอัตราการเก็บภาษีในส่วนนี้ของรถที่ใช้ขุมกำลัง e-Power มีตัวเลขแค่เพียง 20% เท่านั้นเอง
