หลังจากเปิดขายตลาดบ้านเกิดเกาหลีและส่งไปขายที่ยุโรป ล่าสุด KIA PV5 รถตู้ไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายเตรียมทำตลาดพวงมาลัยขวาที่ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย

KIA PV5 มาทั้งแบบเวอร์ชันโดยสารส่วนบุคคล Passenger เวอร์ชัน Cargo ตู้ทึบ รวมถึงเวอร์ชันหัวกระสือ Chassis Cab

ภายนอกดูหล่อเริ่มที่รุ่น Passenger โดดเด่นด้วยดีไซน์รูปทรงเรขาคณิตที่สอดคล้องกับรถรุ่นใหม่ๆของค่าย ให้ทัศนวิสัยที่ดีด้วยพื้นที่หน้าต่างขนาดใหญ่และ “แนวขอบหน้าต่างที่ต่ำ” และประตูท้ายแบบยกขึ้นเพียงบานเดียว ส่วนรุ่น Cargo เหมือนกับรุ่น PV5 Passenger แต่เพียงมาในเวอร์ชันตู้ทึบติดตั้งประตูท้ายแบบตู้กับข้าว

มีไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED ที่คมชัดไฟหน้าแบบ LED แนวนอนซ่อนในกันชนหน้าพร้อมการ์ดเสริมสีเงิน 3 ชิ้นที่ซ่อมแซมง่าย แผงซุ้มล้อสีดำ ไฟท้าย LED แนวตั้ง และล้อทูโทนขนาด 16 นิ้วรุ่นนี้สร้างจากแพลตฟอร์ม Electric-Global Modular Platform for Service (E-GMP.S)

ภายในห้องโดยสารประกอบไปด้วยอุปกรณ์พื้นฐาน จอแสดงผลมาตรวัดขนาด 7.5 นิ้วและหน้าจอสัมผัสขนาด 12.9 นิ้ว สามารถติดตั้งแอป Android Automotive เพื่อติดตามรถระหว่างการทำงานได้ โดย KIA ร่วมมือกับ Samsung และใช้แพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) SmartThings Pro สามารถควบคุมและตรวจสอบระบบอุณหภูมิการไหลเวียนของเครื่องปรับอากาศภายในห้องโดยสาร HVAC

โดยมีเบาะนั่งตอนที่ 2 แบบ 3 ที่นั่งในรุ่น Passenger พับแบบ “Fold & Dive”เพิ่มพื้นที่สัมภาระสูงสุดถึง 2,310 ลิตรและผนังกั้นะระหว่างห้องโดยสารตอนหน้าและตอนหลังในรุ่น Cargo

ขุมพลังไฟฟ้าล้วนขับหน้าโดยรุ่น Passenger 5 ที่่นั่งมีให้เลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (NCM) ขนาด 51.5 หรือ 71.2 kWh วิ่งไกลสูงสุด 412 กิโลเมตร (WLTP) รุ่น Cargo มีให้เลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (LFP) ขนาด 43.3 kWh ที่ยังไม่ระบุระยะทางวิ่งไกล และรุ่น Cargo Long ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (NCM) ขนาด 71.2 kWh วิ่งไกลสูงสุด 416 กิโลเมตร (WLTP)

ทุกขนาดความจุแแบตเตอรี่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตรชาร์จทั้งกระแสตรง DC 10-80% เพียง 30 นาที และยังชาร์จกระแสสลับ AC ได้ รวมถึงแหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบ V2L (vehicle-to-load) ยกเว้นรุ่นหัวกระสือ Chassis Cab ยังไม่ระบุแรงม้าแรงบิด

KIA PV5 หนึ่งในรถของกลุ่ม Platform Beyond Vehicle (PBV) เตรียมขายออสเตรเลียภายในปี 2026 และญี่ปุ่นช่วงต้นปี 2026 ต่อจากตลาดเกาหลีและยุโรปที่จะเปิดตัวเร็วๆนี้