ในขณะที่ KGM กำลังเตรียมเปิดตัวกระบะตันครึ่งเจนใหม่ที่จะมาท้าชนคู่แข่งอย่างเต็มรูปแบบนั้นทางด้านกระบะอีวีก็มีขายเช่นกันกับ KGM MUSSO EV
ล่าสุดทาง KGM เตรียมเปิดตลาดรถอีวีอย่าง KGM MUSSO EV พวงมาลัยขวาที่ออสเตรเลียต่อจากกลุ่มประเทศยุโรปในร่างกระบะ 4 ประตู Monocoque
หล่อตั้งแต่กระจังหน้าไฟเรืองแสงสีขาว LED 6 จุด ในกรอบสีดำ พร้อมไฟ DRL แบบ LED ซ้าย-ขวาและไฟเลี้ยวในตัว ไฟหน้า LED 2 ชั้นแนวตั้งในชุดกันชนหน้าเสริมการ์ดสีเงินใต้กันชนหน้าพร้อมหลังคาซันรูฟ ราวหลังคาบิ๊วอิน เสาอากาศครีบฉลาม บ่งบอกถึงรถกระบะยุคใหม่เน้นอเนกประสงค์
เสาหลังคา C-Pillar มีรูปแรดอันเป็นเอกลักษณ์ของ MUSSO สปอร์ตบาร์ดีไซน์ะกะทัดรัด คิ้วขอบล้อสีดำหน้า-หลังลงตัวกับชุดคิ้วชายล่างประตูพร้อม ล้ออัลลอยทูโทนปัดเงา ขนาด 17 นิ้ว ไฟท้าย LED แนวตั้ง ติดตรา KGM ขนาดใหญ่ปั้มนูนในชุดฝากระบะท้ายและกันชนหลังขึ้นรูปกลมกลืนกับตัวรถ
ภายในหรูด้วยคอนโซลหน้าพร้อมช่องแอร์ตรงกลางแผงคอนโซลทรงรูปตัววี จอคู่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วประกอบด้วยมาตรวัดดิจิทัล MID สีและจอสัมผัส รองรับ Android Auto Apple CarPlay ลำโพงจาก ALPINE กำลังขับ 200W เครื่องปรับอากาศแยกโซนซ้ายขวาพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านแบบท้ายตัดพร้อมระบบอุ่นพวงมาลัย และ Paddle Shift สำหรับระบบ Regenerative Braking
เบาะนั่งหนังสังเคราะห์สัมผัสนุ่มปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมอุ่นเบาะและเบาะเย็น พร้อมเบาะนั่งด้านหลังมีที่ท้าวแขนและที่วางแก้วในตัวพับได้แบบ 60:40 ปรับเลื่อนได้ พร้อมอุ่นเบาะ ไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light 32 ที่ชาร์จมือถือไร้สาย กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ช่องเสียบ USB Type-C และเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold พร้อมโทนภายใน 3 สีทั้งสีดำ สีน้ำตาลและสีทูโทนเทาครีม
ขุมพลังไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ขนาด 80.6 kWh ชาร์จได้ทั้ง DC กระแสตรง ภายใน 46 นาที ด้วยกำลังชาร์จสูงสุด 100 kW และ 300 kW ภายใน 36 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW ภายใน 10.20 ชั่วโมง พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง ECO Sport และ WINTER
มี 2 ทางเลือกเริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 207 แรงม้า แรงบิด 339 นิวตันเมตร ให้ความเร็วสูงสุด 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.98 วินาที วิ่งไกล 419 กิโลเมตร (WLTP)
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวม 414 แรงม้า แรงบิด 678 นิวตันเมตร โดยมอเตอร์ล้อหน้าและหลังให้กำลังเท่ากัน 207 แรงม้า แรงบิด 339 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 379 กิโลเมตร (WLTP) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 9.16 วินาที ให้ความเร็วสูงสุด 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ 3.3 kW และระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) และความสามารถในการลากจูงอยู่ที่ 3,000-3,500 กิโลกรัม พร้อมความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS เบื่องต้น เตรียมขายจริงที่ออสเตรเลียต้นปี 2026
ที่มา Carexpert