Toyota GR อาจเรียกเป็นรถตระกูลที่มีการปรับไลน์อัพบ่อยที่สุดของแบรนด์ ณ เวลานี้ก็ได้ เพราะทางค่ายมีการปรับโฉม ปรับสเป็คพวกมันใหม่แทบทุกปี และ 2026 Toyota GR Corolla ที่ทุกท่านเห็นกันอยู่นี้ก็เช่นกัน

ใช่ครับ แม้จะพึ่งมีการปรับโฉมเปลี่ยนหน้า และปรับเซ็ทช่วงล่างใหม่ ยันจุดยึดไปเมื่อปีก่อน ในฐานะรถที่จะมีการวางขายจริงของโมเดลปี 2025 แต่ล่าสุดทาง Toyota ยังคงมีการอัพเกรดรถ GR Corolla 2026 เพิ่มเติม

โดยคราวนี้ หากดูจากภายนอกเพียงอย่างเดียว คุณก็คงจะไม่พบความแตกต่างใดๆ เพราะความเปลี่ยนแปลงของตัวรถคราวนี้ จะเน้นไปที่การปรับปรุงชิ้นส่วนภายในตัวรถเป็นหลัก เริ่มจากการเพิ่มแนวกาวตัวถังอีก 13.9 เมตร รวมเป็น 32.7 เมตร ตามส่วนต่างๆเช่น ตัวถังช่วงครึ่งหน้า, พื้นห้องโดยสาร, และซุ้มล้อหลัง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของตัวถังให้มากขึ้นโดยไม่เพิ่มน้ำหนักส่วนเกินมากไป

ซึ่งแนวคิดในการปรับปรุงโครงสร้างตัวถังนี้ เกิดจากความต้องการของ Akio Toyoda ผู้ใช้นามแฝง Mister Morizo ลงควบตัวแข่ง GR Corolla ในรายการ Super Taikyu เมื่อปีก่อนแล้วพบว่าตัวถังของรถยังต้องเพิ่มความแข็งแรงให้มากขึ้นอีก เพื่อให้มันสามารถสู้กับแรงเหวี่ยงของตนเอง และเสริมความกระชับขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้ดียิ่งขึ้น

จากนั้นคือการปรับปรุงช่องดักลมเข้าสู่หม้อกรองใหม่ให้รองรับการขยายตัวของอากาศขณะขับใช้งานหนักได้ดีกว่าเดิม เพื่อให้ผู้ขับสามารถรีดเค้นประสิทธิภาพรถในการขับแบบยืนระยะยาวๆได้อย่างคงเส้นคงวามากขึ้น

นอกจากการปรับปรุงในด้านสมรรถนะ ภายในห้องโดยสารตัวรถ ยังมีการเพิ่มลูกเล่นความบันเทิงอย่างลำโพง JBL แบบใหม่เข้ามา โดยจะมีการเพิ่มซับวูฟเฟอร์เข้ามาอีก 1 ตำแหน่ง เพื่อเพิ่มความหนักแน่นของเสียงเพลง

และเพิ่มระบบ Active Sound Control (ASC) เข้ามาอีก เพื่อการควบคุมเสียงเครื่องยนต์สู่ห้องโดยสารได้ 3 รูปแบบ ปรับระดับเสียงตามโหมดการขับขี่ที่ใช้งาน และเร่งเสียงเครื่องยนต์ตามอัตราการขยี้คันเร่ง จังหวะเปลี่ยนเกียร์ ให้มีความเร้าอารมณ์ยิ่งขึ้น แม้แต่เสียงท่อสำลักตอนถอนคันเร่งก็ยังทำได้ แต่ถ้าหากผู้ใช้คนไหน อยากขับชิลๆ หรือมีผู้โดยสารที่ต้องเกรงใจนั่งไปด้วย ก็สามารถปิดระบบเสียงนี้เอาไว้ก่อนได้เช่นกัน

น่าเสียดายนิดหน่อยที่เแม้จะมีการปรับปรุงโครงสร้างตัวถัง และยังเสริมระบบเสียงที่ช่วยเร้าอารมณ์ในการใช้งานเข้ามา แต่เครื่องยนต์ 3 สูบเรียง เทอร์โบ 1.6 ลิตร ของมัน กลับยังคงสามารถทำกำลังสูงสุดได้ 304 แรงม้า PS และมีแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร เท่าเดิม พร้อมส่งกำลังไปยังชุดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ที่ผู้ขับสามารถเลือกปรับอัตราการถ่ายแรงบิดได้ 3 รูปแบบ และมีระบบเกียร์ให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด กับเกียร์อัตโนัมติ 8 สปีด ดังเดิม

ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถที่เก่ากว่าปี 2024 ลงไป ทาง Toyota ยังมีข่าวดีคือแพ็คเกจอัพเดทกล่อง ECU ให้สามารถรีดเค้นแรงบิดจากเครื่องยนต์เพิ่มอีก 30 นิวตันเมตร ขยับมาเทียบเท่ากับ GR Corolla ปี 2024 ขึ้นมาได้ด้วย

และยังมีการปรับอัตราส่วนการถ่ายแรงบิดของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR-Four ใหม่ ตามโหมดการขับขี่ให้อีก โดยจะมีการวางจำหน่ายพร้อมประกาศราคาอีกครั้งในปี 2026

โดยกำหนดการวางส่งมอบ 2026 Toyota GR Corolla ในประเทศญี่ปุ่น จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน พร้อมวางราคาจำหน่ายที่ 1.22-1.28 ล้านบาท แล้วแต่ออพชันเกียร์ และคราวนี้ทางค่ายยังจะขยายจำนวนการผลิตเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากพวกเขาจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานในสหราชอาณาจักรเพิ่มเติม

ซึ่งนั่นจะส่งผลถึงโควต้าการวางจำหน่ายตัวรถในไทยที่คาดว่าจะมีการเปิดตัวตามมาในสิ้นปีนี้เป็นอย่างเร็ว หรือต้นปีหน้าเป็นอย่างช้าหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไป