Nissan ยังคงอยู่ในช่วงดิ้นรนเอาตัวรอดจากวิกฤติการเงิน โดยล่าสุดคือการปิดสำนักออกแบบถึง 2 แห่งด้วยกัน จากแผนงานปลดพนักงานกว่า 20,000 ตำแหน่งทั่วโลก เพื่อลดต้นทุนการบริหารของบริษัท

Nissan บริษัทแม่ในญี่ปุ่น ยังคงเดินหน้าหาทางลดต้นทุนในการบริหารบริษัท ไปจนถึงต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดคือการปิดสำนักออกแบบ Nissan Design America ในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และ สำนักออกแบบ Nissan Design Latin America ในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล และยังมีแผนที่จะปรับลดขนาดองค์กรของทีมดีไซน์เนอร์ในสหราชอาณาจักร หรือแม้แต่ในญี่ปุ่นบ้านเกิดเองก็เช่นกัน

ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ทีมดีไซน์เนอร์ในโรงงานที่เมืองอัตสึงิ ประเทศญี่ปุ่น จะต้องรับหน้าที่เป็นทีมออกแบบหลักให้กับรถของแบรนด์ในตลาดโลกต่อจากนี้ และ Studio Six ในเมืองลอส แอนเจลลิส ก็จะกลายเป็นทีมหัวหอกในการออกแบบรถยนต์ของแบรนด์ Nissan กับ Infiniti ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ส่วนทีมออกแบบของสตูดิโอในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็จะรับหน้าที่หลักในการออกแบบรถให้ตลาดแอฟริกา, ตะวันออกกลาง, อินเดีย, ยุโรป, และโอชีเนีย (ไทยอยู่ในกลุ่มนี้) โดยจะทำงานร่วมกับบริษัทคู่ค้าอย่าง Renault อีกทอดหนึ่งด้วย

นอกนั้นทีมออกแบบในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ก็จะยังคงรับหน้าที่ออกแบบรถให้เฉพาะตลาดตนเองต่อไป ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เช่นเดียวกันกับสตูดิโอ Creative Box ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่จะยังคงรับหน้าที่เป็นทีมออกแบบรถต้นแบบต่างๆ และออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ของบริษัทในอนาคตต่อไป แม้ว่าทางบริษัทจะต้องปรับลดจำนวนพนักงานในทีมลงไปบ้างแล้วก็ตาม

โดยความเคลื่อนไหวข้างต้น เกิดจากนโยบายของทีมดูแลงบประมาณภายใต้การบริหารของ CEO คนล่าสุดของ Nissan อย่างนาย Ivan Espinosa ซึ่งมีแผนงานปรับลดต้นทุนในการบริหารลงให้ได้ถึง 60,000 ล้านเยน หรือราวๆ 13,000 ล้านบาท

ซึ่งในการจะลดต้นทุนการบริหารและการผลิตให้ได้ระดับนั้น ทางบริษัทจึงต้องมีการวางแผนปลดพนักงานมากถึง 20,000 ตำแหน่งทั่วโลก และจะลดความซับซ้อนของชิ้นส่วนในไลน์ผลิตลงถึง 70% ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการ “ลดรูปแบบหัวหมอนเบาะ” ให้มีความแตกต่างกันในแต่ละโมเดลน้อยลงด้วย

นอกจากนี้ยังจะมีการลดต้นทุนในส่วนของการพัฒนารถให้น้อยลงด้วยการเร่งเวลาในการพัฒนารถให้รวดเร็วขึ้น หรือก็คือการตีกรอบเวลาในการพัฒนารถให้น้อยลง เพื่อให้รถพร้อมขายรวดเร็วกว่าเดิม เช่น ตั้งเป้าหมายให้วิศวกรใช้วเลาในการพัฒนารถยนต์เจเนอเรชันใหม่ในเวลาเพียง 37 เดือน (ต่ำกว่าเดิม 15 เดือน), และทำให้กระบวนการวางแผนการขายลดลงเหลือ 30 เดือน ซึ่งน้อยลงจากเดิม 20 เดือน

ซึ่งการจะลดงานของวิศวกร ให้สามารถระดมสมองพัฒนารถรวดเร็วขนาดนั้นได้ ทางผู้บริหารก็ต้องตัดสินใจลดความหลากหลายของแพลตฟอร์มรถที่จะใช้ในการผลิตรถออกมาขายจริงๆ จาก 13 แบบ เหลือ 7 แบบ ภายในไม่เกินทศวรรษนี้ด้วย

โดยทั้งหมดนี้ CEO ของ Nissan คนปัจจุบัน ก็ได้ออกมายอมรับตามตรงว่าพวกเขาเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำมันเท่าไหร่นัก เพราะมองในอีกมุมหนึ่ง การมีพนักงานคอยช่วยกันทำงานเยอะๆ ก็ย่อมช่วยแบ่งเบาภาระพนักงานด้วยกันเองได้ดีกว่า

แต่เพื่อให้บริษัทอยู่รอด, มีการตัดสินใจที่รวดเร็ว, มีความสร้างสรรค์ในการทำงานร่วมกันที่ลึกซึ้งขึ้น, และมีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนไปตามความเปลี่ยนแปลงของตลาด การปรับลดขนาดองค์กรณ์ และลดความซับซ้อนในการบริหารงานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นนั่นเอง