เอสยูวีทรง Boxy ในค่าย GWM มีหลากรุ่นหลายแบรนด์ แต่มีรุ่นหนึ่งที่อยากจะแนะนำให้กับชาวจีนนั่นคือ GWM HAVAL H9 Warrior Edition
สายลุยเจเนอเรชันที่ 2 เข้มทั้งภายนอก ภายใน เน้นความสปอร์ต ด้วยชุดแต่งสีดำทั้งคันตั้งแต่กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมแนวนอนสี่ชั้นติดตราโลโก้ขนาดใหญ่ไฟหน้าทรงกลมแบบ LED กันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอก LED มีการ์ดเสริมเรียบเนียนในชุดกันชนหน้า กระจกมองข้างทรงสปูนสีเหลี่ยม พร้อมราวหลังคา หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิก เสา B จนถึงเสา D เน้นความตรงไม่มีโค้งสื่อถึงความแกร่งถึงใจ บันไดข้างดึงกลับด้วยระบบไฟฟ้า
ฝาท้ายเปิดเต็มบานพร้อมที่ห้อยยางอะไหล่แทนกล่องใส่ของพร้อมกุญแจล็อกติดตรา HAVAL มีไฟท้าย LED แนวตั้ง รับกันชนหลังดีไซน์เรียบง่าย ล้ออัลลอยสีดำมีทั้งขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางแบบ A/T all-terrain มาประจำการ โดยตัวรถสร้างจากแชสซีส์ขั้นบันไดหรือ Body on Frame
ภายในมาพร้อมสีแดงแข้มเบอร์กันดี มีให้เลือกเฉพาะ 5 และ 7 ที่นั่ง ที่นั่งที่มีพ้นที่วางของมากถึง 1,814 ลิตรกรณีพับเบาะหลังแบบ 40/60 แต่ถ้าไม่พับเบาะจะมีพื้นที่ 791 ลิตรสำหรับรุ่น 5 ที่นั่ง ชุดคอนโซลหน้ามีความโดดเด่นผสมกับความเข้ม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน มีจอลอยตัวสองฝั่งทั้งจอมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว และจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, Bluetooth, ระบบนำทาง แสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า HUD ในชุดเดียวกับช่องแอร์ขนาดใหญ่สองช่องและปุ่มแบบ Piano Touch พร้อมเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold ที่วางชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50W และคอนโซลเกียร์ยังเป็นก้านโยกไปมาเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิอัตโนมัติสี่โซน และประมวลการทำงานจอสัมผัสได้อย่างรวดเร็วด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155
ขุมพลังมีทั้งเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร GDIT 224 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 385 นิวตันเมตรที่ 1,800-3,600 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดจาก ZF กับดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.4 ลิตร 187 แรงม้า แรงบิด 490 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ทั้งคู่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Intelligent electronically controlled four-wheel drive (two-speed)+MLOCK
พร้อมโหมดการขับขี่เวอร์ชันใหม่ All-Terrain Control ที่เลือกการขับขี่ได้ถึง 8 โหมดตั้งแต่โหมด Auto, Sport, Economy, Snow, Sand, Mud, 4 Low มีควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Off-road (Offroad Cruise Control) จะควบคุมเครื่องยนต์และระบบเบรกโดยอัตโนมัติให้รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำและความเร็วสม่ำเสมอ จากการควบคุมรถบนสภาพถนนที่ซับซ้อนและดิฟล็อคสามชั้น
รุ่นพิเศษคันนี้มีความสามารถในการลากจูงสูงสุด 2,268 กิโลกรัม พร้อมชุดโทว์บาร์ลากพ่วงด้านท้าย ลุยน้ำสูงสุด 800 มิลลิเมตร ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) พัฒนาใหม่ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของยานพาหนะเมื่อเผชิญกับทางลาดชัน โคลน ทะเลทราย และภูมิประเทศที่ซับซ้อนอื่นๆ
เตรียมเปิดตัวที่งาน Chengdu Auto Show 2025 ขาย 2 รุ่นย่อย เปิดราคาพิเศษสำหรับการเทิร์นรถเก่ามาเป็น H9 พร้อมแคมเปญส่งเสริมการขาย 5 รายการถึง 30 กันยายนนี้ เริ่มต้น 214,900-232,900 YUAN หรือราว 979,000-1,064,000 บาท