นอกจากตัวรถรุ่นแกนหลัก อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจ คือเหล่ารถซุปเปอร์คาร์โมเดลพิเศษของพวกเขาเองก็ยิ่งมีความโดดเด่นขึ้นไปอีก ซึ่งล่าสุดก็คือ Lamborghini Fenomeno ซุปเปอร์คาร์น้องใหม่ที่จะถูกผลิตขึ้นเพียง 29 คันบนโลกเท่านั้นโมเดลนี้
Lamborghini Fenomeno ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Lamborghini Revuelto ซุปเปอร์คาร์รุ่นเรือธงคันใหม่ล่าสุดของแบรนด์ และหมายความว่านี่คือร่างพิเศษของมันโมเดลเดลแรกที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยตัวรถได้ถูกใส่ความดุดัน เกรี้ยวกราดเข้าไปอย่างเต็มสูบ ทั้งไฟหน้าแบบใหม่ที่ดูบึ้งตังกว่าเดิม กันชนหน้าทั้มาพร้อมกับช่องดักลมและครีบไล่อากาศขนาดใหญ่ โดยที่ฝากระโปรงเอง ก็มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ 2 ช่องเช่นกัน
ด้านข้างมีทั้งครีบรีดอากาศด้านบนกับด้านหลังซุ้มล้อหน้า โดยที่ประตูจะมีการเว้ารับพร้อมตัดเส้นสันงานออกแบบให้รับกับเส้นที่ลากมาจากด้านหน้าอย่างลงตัว พร้อมปรับรูปทรงช่องดักลมเข้าหม้อน้ำหน้าซุ้มล้อหลังใหม่ ปรับโป่งซุ้มล้อหลังให้ดูกลมกลึงกว่าเดิม เสริมความสะดุดตาด้วยครีบรีดอากาศขนาดเล็ก และแน่นอนว่าด้านบนก็มีช่องรีดอากาศขนาดใหญ่อีกสุด
ส่วนด้านท้าย เลือกใช้งานดีไซน์แบบเปิดตูดโล่ง เผยให้เห็นความดุดันของชุดล้อคู่หลัง แล้วใส่ดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่เป็นกันชนท้าย และกรอบให้กับไฟท้าย และปลายท่อเช่นเดิม
ขณะที่ภายในห้องโดยสาร กลับไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างไปจากร่างต้นมากนัก นอกจากโทนสี และวัสดุที่ใช้ในการตกแต่ง เว้นเพียงช่องแอร์ตรงกลางคอนโซลหน้าเท่านั้น ที่ดูเหมือนจะมีครีบเล็กๆตกแต่งเสริมเข้ามาด้วยเพื่อเสริมความดุดันของตัวรถให้น่าสนใจไม่แพ้ภายนอก
ขุมกำลังยังคงใช้การจับคู่กันระหว่างเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในลักษณะของระบบ PHEV แต่คราวนี้ตัวเครื่องยนต์จะถูกปรับจูนใหม่ ให้มีกำลังมากขึ้น จาก 814 แรงม้า เป็น 833 แรงม้า
และด้วยการเพิ่มขนาดแบตเตอรี่เป็นขนาด 7 kWh ทำให้มอเตอร์เองก็สามารถปั่นกำลังได้มากขึ้นเช่นกัน ช่วยให้พละกำลังรวมของขุมกำลังทั้งหมดเมื่อทำงานร่วมกันจะขยับขึ้นมาเป็น 1,065 แรงม้า จากเดิมที่เคยมี 1,001 แรงม้า ช่วยให้รถสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้เร็วขึ้น 0.1 วินาที เหลือ 2.4 วินาที และมีการจำกัดความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง
โดยจำนวนการผลิตของตัวรถรุ่นนี้ ถูกระบุว่าจะเกิดขึ้นเพียง 29 คัน และมีราคาวางจำหน่ายที่ราวๆ 3 ล้าน ยูโร หรือราวๆ 114 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปได้ว่าทุกคันจะมีเจ้าของกันหมดแล้วก่อนที่รถจะถูกเปิดตัวออกมาเสียอีก
