แม้ว่ากระแสรถยนต์นั่งขนาดเล็กจะไม่ร้อนแรง เหมือนหลายปีที่ผ่านามา แต่ต้องยอมรับว่า Mazda 2 เป้นรถที่สร้างชื่อให้มาสด้าก้าวเข้ามาอยู่ในใจหลายคน Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 เทอร์โบ กลายเป็นรถรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ทำตลาดรถยนต์อีโค่คาร์ระยะที่ 2 ตั้งแต่ปี 2015 มาจนปัจจุบัน
นับว่าเป็นเรื่องแปลกพอสมควร ที่นอกจามาสด้า เราก็ไม่เห็นบริษัทรถยนต์รายอื่นวางจำหน่าย รถอีโค่คาร์ เครื่องดีเซลอีก แม้ว่าที่่ผ่านมา มาสดา้จะพิสูจน์แล้วว่า รถกลุ่มนี้มีความต้องการจากตลาด อยู่เหมือนกัน ลูกค้าพร้อมที่จะจ่ายซื้อรถที่มอบสมรรถนะที่ดีและความประหยัด
ในยุคที่มาสด้า 2 แนะนำตัว ตอนนั้น ไม่มีใครรู้ว่าทิศทางในตลาดรถยนต์ระดับโลกจะไปทางไหน สิ่งบริษัทรถยนต์ต่างจับตา คือความเข้มงวดในกฎการปล่อยไอเสียจากทางภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปเอง สำหรับในไทยเอง โครงการอีโค่คาร์ระยะที่ 2 มีความเข้มข้น ให้ปล่อยไอเสียไม่เกิน 100 กรัม/กิโลเมตร จนเรียกว่า มีมาตรฐานเทียบเท่ายุโรปเลยก็ว่าได้
ที่จริงแล้วมาสด้า ไม่ใช่บริษัทรถยนต์รายเดียวที่มีเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็ก Honda เองก็มีเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็ก 1.5 เทอร์โบเช่นกัน แต่เครื่องยนต์นี้จำกัดขายเพียงในประเทศอินเดียเท่านั้น แถมในช่วงแรกยังวางจำหน่ายเพียงรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เท่านั้น ก่อนที่จะมีการปรับเป็นเกียร์ CVT ในภายหลัง
หากทิศทางของฮอนด้า ก็มีความชัดเจนในการไปสู่ยุคเครื่องยนต์เทอร์โบ ตามนโยบายใหม่ ที่เปิดออกมาในช่วงเวลา ปี 2015 เช่นกัน มีการเริ่มแนะนำเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตรเทอร์โบ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ใน Honda City ประจำการในรถยนต์ Honda Civic โฉมยุโรป
แถมถ้าใครเป็นสาวกฮอนด้า จะทราบดีกว่า ฮอนด้าไม่ได้เชี่ยวชาญเครื่องยนต์ดีเซลเท่าไรนัก เครื่องยนต์ดีเซล ฮอนด้าที่คนไทยรู้จักจะมีอีกตัวคือ Honda i-dtec ขนาด 1.6 ลิตร ใน Honda CR-V ด้วยขนาดของมันเกินกว่าที่โครงการอีโค่คาร์กำหนดออกมา ทำให้ในที่สุด ฮอนด้า จึงไม่มีเครื่องยนต์ดีเซล
แถมนโยบายใหม่ของบริษัทที่จะขายรถยนต์มที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ให้ได้ 2 ใน 3 ของรถยนต์ ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน ภายในปี 2030 หรือ อีก 10 ปี ต่อจากนี้ ทำให้ ฮอนด้า จะมีรถยนต์ไฮบริดมากขึ้น ซีง่งจะเห้นได้จาก Honda Fit หรือ Honda Jazz ใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV รวมถึง Honda City ด้วย
ทางด้านแบรนด์ อื่นๆ ที่ยังทำอีโค่คาร์ ได้แก่ Nissan และ Mitsubishi ภายหลังไปอยู่ในเครือเดียวกัน ก็มีทิศทางชัดเจนในการทำตลาด มิตซูบิชิ อาจจะยังไม่ทำรถยนต์อีโค่คาร์เฟส 2 รุ่นใหม่วางจำหน่าย แต่ใช้วิธีการอัพเครื่องยนต์ให้ผ่านอัตราปล่อยไอเสีย หิ้วเครื่องยนต์ 3 สุบ 1.2 ลิตร ต่อมายังโครงการระยะที่2
สำหรับนิสสัน มองทิศทางไปมุมเดียวกับฮอนด้า คือเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จ ถึงกำลังวังชาจะน้อยกว่าสักหน่อย แต่ก็ขับดีขับสนุก กว่ารุ่นเดิมอีกหลายขุมเช่นกัน
ทางด้านอดีตม้ามืดรถยนต์อีโค่คาร์ Suzuki เองก็พัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ให้สอดคล้องกับบ้านเรา ด้วยระบบหัวฉีดคู่ ใหม่ล่าสุด เพิ่งออกวางจำหน่ายในประเทศไทย แต่ถ้าไปมองในแนวทาง Suzuki แล้ว Suzuki Green Technology มีหลายแนวคิดของการวิศวกรรม ได้แก่ ระบบ Mild Hybrid ที่เรียกว่า Smart Vehicle Hybrid by Suzuki หรือ SHVS ขณะที่การวิศวกรรมอื่นๆ คือ ระบบ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ
แต่ซูซูกิ เองค่อนข้างจะมีแนวทางชัดเจนว่าในอนาคต จะแนะนำระบบไฮบริ เพราะในตลาดสำคัญอย่างญี่ปุ่น และ อินเดียว ทาง Suzuki แนะนำนระบบ SHVS ซึ่งเป็น Mild Hybrid เข้าทำตลาดแล้วในรถรุ่นใหม่ๆ
สำหรับทางด้าน Toyota เอง มีทิศทางชัดเจนที่จะไม่ทำรถยนต์เครื่องเทอร์โบชาร์จ แต่หันมาทำรถยนต์ไฮบริดมากขึ้น ทว่าก็ยังไม่มีการแนะนำรถยนต์ไฮบริดขนาดเล็กรุ่นใหม่ออกมา
จากทั้งหมดจะเห็นได้ว่า มาสด้า เป็นแบรนด์รถยนต์รายเดียวที่ทำเครื่องยนต์ดีเซล ขนาดเล็กวางจำหน่าย และค่อนข้างชัดว่า ทิศทางรถยนต์ขนาดเล็กในอนาคต จะเป็นรถยนต์ไฮบริด ไม่ว่าจะแบบ Full Hybrid หรือ Mild Hybrid ก็ทั้งหมด กำหนดไว้แล้วว่า มาสด้า 2 อาจจะยังครองตำแหน่งรถยนต์นั่งเล็กเ้ครื่องยนต์ดีเซล ต่อไป